“ประวิตร” แจงอำนาจนายกฯ เลือก กรธ. คาดมีโควตาอยู่แล้ว ทัน 30 วันแน่ ยังไม่คิดตั้งใครเป็นประธาน แย้มต้องเป็นนักกฎหมาย-มีประสบการณ์ ขออย่าเพิ่งพูดถึงใคร ยันสภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯ เปิดกว้างไม่ล็อกให้ สปช.คว่ำร่าง ปัดทาบอ้างใครก็อยากเป็น แย้มอาจมีบทเฉพาะกาลรับการเปลี่ยนผ่าน มั่นใจร่าง รธน.รอบนี้ผ่าน ย้ำถอดยศ “แม้ว” ตาม กม. อีก 20 เดือนคุมสถานการณ์ได้ ปชช.ช่วยกันทุกอย่างเร็วขึ้น
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่อาคารรับรองเกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระบวนการคัดเลือกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุดใหม่ จำนวน 21 คน และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะคัดเลือกแล้วก็ส่งความเห็นชอบไปยัง คสช. ในขณะที่สภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯ นั้นคงต้องคุยกันในที่ประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนว่าจะคัดเลือกใครมาเป็น ตนคิดว่าน่าจะมีโควตาอยู่แล้ว แต่ในช่วงนี้ยังไม่ได้มีการประชุมแต่อย่างใดจึงตอบไม่ได้ แล้วไม่ต้องห่วง อย่างไรก็ทันภายใน 30 วันแน่นอน
เมื่อถามว่าคนที่เป็นประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญนั้น มีการเสนออานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้คิด แต่หลักๆ ต้องเป็นนักกฎหมาย และต้องเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ทางด้านการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งจะเป็นใครตนไม่รู้ ส่วนจะมีนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือหลายสำนักมาเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตนยังไม่รู้ คงต้องรอในที่ประชุมก่อนว่าจะคิดเห็นอันอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามต้องอยู่ในคณะกรรมการ 21 คนแน่นอน
เมื่อถามถึงมีการเสนอชื่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ จะไปรู้ได้อย่างไร อย่าไปพูดถึงชื่อตัวบุคคล แต่อยากให้ยึดถึงหลักเกณฑ์ดีก่อน แล้วถึงจะคัดเลือกบุคคลตามหลักเกณฑ์ถึงจะถูกต้องกระบวนการ
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า สำหรับสภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯ นั้นเราจะตั้งคณะกรรมการคัดเลือกขึ้นมา ถ้าคนใดมีความคิดความอ่านด้านการปฏิรูปก็ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคน ไม่ใช่บอกว่าจะเอา สปช.ที่โหวตไม่รับร่างมาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯ มันไม่ใช่ แต่จะเอาคนที่มีความรู้ ส่วนจะคัดเลือกคนที่เห็นต่างจาก คสช.มาเป็นสภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯ หรือไม่ อยากถามว่าเห็นต่างจากใคร อย่าพูดอย่างนี้ คสช.ไม่เห็นต่างจากใคร เราเป็นกลาง แล้วการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ไม่ใช่เป็นของ คสช. แต่เป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เริ่มมีการทาบทามบุคคลเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯ หรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่ต้องทาบทามหรอก เราตั้งขึ้นมาใครก็อยากเป็น เพราะอยากทำงานให้บ้านเมืองทั้งนั้น”
“อย่างไรก็ตาม การคัดเลือก 21 คนที่จะมาเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ผมคิดว่าต้องเป็นคนที่ประชาชนเชื่อมั่น และต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ผ่านประชามติ ตอนนี้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของบ้านเมือง จะต้องมีบทเฉพาะการอะไรต่างๆ เพื่อที่ให้บ้านเมืองเกิดความสงบ และเดินต่อไปได้ แล้วเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ในอนาคต อาจจะต้องมีอย่างนี้ ผมพูดว่าอาจจะ แต่ยังไม่รู้จะมีหรือเปล่า และก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม” พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่าสำหรับสูตรที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บอกถึงสูตร 6-4-6-4 นั้น ที่อยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 แต่อาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้ และไม่น่าจะยาวไปกว่านี้แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า บทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญจะร่างขึ้นมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่าน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนสมมติ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย อาจจะไม่มีก็ได้ หรือจะมีก็ได้ เมื่อถามต่อว่ามั่นใจหรือไม่ว่าการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 2 จะผ่าน รองนายกฯ ประวิตร กล่าวว่า ต้องมั่นใจ ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ต้องทำ
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงการถอดยศนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นแรงกระเพื่อมทางการเมืองหรือไม่ว่า ทุกอย่างมันจบไม่แล้ว ประกอบกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ชี้แจงกันไปหมดแล้ว ทุกอย่างดำเนินการไปตามกฎหมาย ทั้งนี้สถานการณ์ด้านความมั่นคงจากนี้ไปอีก 20 เดือนเราคุมสถานการณ์ได้ ทุกคนอยากให้เกิดความสงบ เศรษฐกิจจะได้เดินได้ ถ้ามีความขัดแย้งกันประเทศก็เสียหายหมด อีกทั้งมั่นใจว่าประชาชนจะไม่เบื่อ คสช. เพราะทุกคนทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แม้แต่ผลประโยชน์ส่วนตัวก็เราไม่ได้ เนื่องจากเราทำงานให้แก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
“ผมคิดว่าประชาชนต้องช่วยกันดีกว่า เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่าน ถ้าประชาชนทุกคนร่วมมือกันมันก็น่าจะเร็ว แค่ 10 กว่าเดือนก็คงไม่ช้าหรอก ในทำนองเดียวกันก็ต้องวางอนาคตของประเทศไทยให้มีความเชื่อมั่นว่าประเทศเราจะต้องดี เจริญทัดเทียมเท่ากับต่างประเทศ ทุกคนมีความคิดความอ่านดีกันทั้งนั้น แถมหวังดีต่อประเทศชาติทั้งหมด แต่ช่วงนี้ต้องปล่อยให้ คสช.ดำเนินการ” รองนายกฯ กล่าว
