รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย เผยเที่ยวนี้หาคนนั่ง 21 อรหันต์คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญยาก เหตุคนมาต้องชั่งใจ กลัวถูกคว่ำซ้ำสอง บอกไปประชุมกฤษฎีกา ไม่เห็น “บวรศักดิ์” จะเฮิร์ตอะไร ชมยิ้มได้เมื่อภัยมา แต่ชวดขอพระบอกแจกหมดแล้ว
วันนี้ (8 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 17.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการสรรหาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ฉบับใหม่ 21 คน จะมีฝ่ายการเมืองเข้ามาร่วมหรือไม่ว่า ในกติกาไม่มีการกำหนดไว้จะเป็นฝ่ายใดก็ไม่มีปัญหา แต่ในทางปฏิบัติจริงเห็นสมควรว่ามีหรือไม่ตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงแม้ว่าจะมีฝ่ายการเมืองเข้ามาก็ต้องมีปัญหาอยู่ดี เพราะเราไม่สามารถเอามาทุกฝ่ายได้ โดยมีการกำหนดคุณสมบัติของคณะกรรมการร่างฯ ไว้แล้ว ซึ่งเป็นคุณสมบัติของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญชุดที่แล้ว ซึ่งระบุว่าจะต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองย้อนหลัง 3 ปี จึงต้องพิจารณาในส่วนนี้ก่อน ส่วนบุคคลในองค์กรอิสระจะมาเป็นคณะกรรมการร่างฯ ในขณะเดียวกันไม่ได้ ยกเว้นลาออกแล้วมาเป็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การคว่ำร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ผ่านมาจะเป็นอุปสรรคในการชักชวนใครเข้ามาเป็นคณะกรรมการร่างฯ ชุดใหม่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ที่ผ่านมา คณะกรรมการทุกคณะ ระบุว่า การร่างรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องง่าย และจะยากกว่าการหา กมธ.ยกร่างฯ 36 คน เพราะตอนนั้นเป็นการเข้ามาทำงานใหม่ยังไม่เห็นถึงปัญหา แต่คราวนี้มีเดิมพัน เพราะได้เห็นว่ามีการคว่ำรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ดังนั้นคนที่จะเข้ามาต้องคิดว่าหากทำแล้วต้องทำให้ดีและต้องไม่ล้ม ถือเป็นความรู้สึกกดดันอยู่ จึงทำให้หาคนมาร่วมยาก แต่เชื่อว่าสามารถหาได้ อาจมีบางคนที่ได้ปฏิเสธจากคราวที่แล้วอาจจะรับในคราวนี้ก็ได้ เพราะข้อขัดข้องที่เคยมีอาจหมดไปแล้ว
เมื่อถามว่า มีการปลอบใจนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างฯ หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ได้ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งผมอยู่คณะเดียวกับนายบวรศักดิ์ ก็ไม่เห็นว่าท่านจะเฮิร์ตอะไร ผมยังขอพระท่าน ท่านบอกว่าแจกหมดแล้ว คนที่มีความสามารถยิ้มได้เมื่อภัยมาคือ คนที่ควรยกย่อง เหมือนเพลงยิ้มได้เมื่อภัยมาในทุกสถานการณ์ ถึงจะยิ้มแหยๆ ช่างเถอะ ก็ขอให้ยิ้ม”
เมื่อถามว่า การที่ สปช.หมดวาระไปแสดงว่าผลงานที่ทำมาไม่ได้เป็นที่ยอมรับใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อย่าเรียกว่าไม่ยอมรับ แต่อะไรก็ตามที่รัฐธรรมนูญเขียนกติกาไว้ และมีการลงมติหมายความว่าจะรับหรือไม่รับก็ได้ แต่เมื่อผลออกมาไม่รับจะบอกว่าไม่เป็นที่ยอมรับก็ไม่ใช่ และผลงานจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่เป็นเรื่องของสังคม แต่เสียงโหวตเป็นเรื่องนิตินัย ซึ่ง กมธ.ชุดเดิมและตนไม่ถือว่าผลงานดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะกรรมการชุดใหม่อาจจะหยิบยกจากชุดเดิมมาใช้ประโยชน์ได้