80 พนักงานบริษัทเอกชนยื่นหนังสือนายกฯ ร้องธนาคารอิสลามกลั่นแกล้งทำให้เป็นลูกหนี้ผิดนัด บริษัทเสียหาย หวังให้นายทุนฮุบกิจการ
ที่ศูนย์บริการประชาชน (ฝั่ง ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (8 ก.ย.) นายยุทธพงษ์ พุ่มรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีอาร์พี เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์เทรดดิ้ง จำกัด พร้อมด้วยพนักงานจำนวน 80 คน เดินทางมายื่นหนังสือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ต่อธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย แต่ถูกธนาคารกลั่นแกล้งให้กลายเป็นลูกหนี้ตกชั้น โดยเรียกร้องให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง มีนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงษ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชวนเป็นผู้รับเรื่อง
นายยุทธพงษ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารออกใบเสร็จรับเงินไม่ถูกต้องตามความจริง โดยระบุวันเดือนปีที่ครบกำหนดย้อนหลังไป 8 เดือนนับจากวันเดือนปีธนาคารได้รับชำระจริงส่งผลให้บุคคลที่ 3 คือ คณะกรรมการธนาคารหรือผู้ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงเมื่อได้เห็นใบเสร็จที่ออกไม่ถูกต้องทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าบริษัทได้ค้างชำระค่าเช่าซื้อเป็นเวลา 8 เดือน จึงเป็นการร่วมกันกระทำความผิดทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย อันเป็นการร่วมกันและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้พยายามกลั่นแกล้งเพื่อให้บริษัทกลายเป็นลูกหนี้ตกชั้น โดยทางธนาคารอิสลามได้ทำหนังสือทวงถามถึงการชำระหนี้จำนวน 17,654,106.58 บาท ซึ่งทางบริษัทได้นำเงินจำนวน 14,000,000 บาท เพื่อตัดชำระหนี้ถึงสองครั้งและได้ทำหนังสือชำระหนี้ในวงเงินต่างๆ อีก 5 ฉบับ พร้อมทั้งแนบแคชเชียร์ส่งจ่ายให้แก่ธนาคารด้วย แสดงให้เห็นว่าทางบริษัทมีเจตนาชำระหนี้ และไม่ได้อยากเป็นเป็นลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระหนี้กับธนาคาร แต่ทางธนาคารกลับหวังให้บริษัทเกิดความเสียหายโดยต้องการที่จะหานายทุนเข้ามาฮุบกิจการของบริษัท
“ขอให้พิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามที่ร้องเรียน และขอให้มีคำสั่งให้ธนาคารอิสลาม ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของบริษัท โดยให้ตัดเงื่อนไขที่ขัดต่อกฎหมายที่ไม่ถูกหลักธรรมาภิบาลออกไปด้วย” นายยุทธพงษ์กล่าว
ที่ศูนย์บริการประชาชน (ฝั่ง ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (8 ก.ย.) นายยุทธพงษ์ พุ่มรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีอาร์พี เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์เทรดดิ้ง จำกัด พร้อมด้วยพนักงานจำนวน 80 คน เดินทางมายื่นหนังสือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ต่อธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย แต่ถูกธนาคารกลั่นแกล้งให้กลายเป็นลูกหนี้ตกชั้น โดยเรียกร้องให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง มีนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงษ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชวนเป็นผู้รับเรื่อง
นายยุทธพงษ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารออกใบเสร็จรับเงินไม่ถูกต้องตามความจริง โดยระบุวันเดือนปีที่ครบกำหนดย้อนหลังไป 8 เดือนนับจากวันเดือนปีธนาคารได้รับชำระจริงส่งผลให้บุคคลที่ 3 คือ คณะกรรมการธนาคารหรือผู้ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงเมื่อได้เห็นใบเสร็จที่ออกไม่ถูกต้องทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าบริษัทได้ค้างชำระค่าเช่าซื้อเป็นเวลา 8 เดือน จึงเป็นการร่วมกันกระทำความผิดทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย อันเป็นการร่วมกันและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้พยายามกลั่นแกล้งเพื่อให้บริษัทกลายเป็นลูกหนี้ตกชั้น โดยทางธนาคารอิสลามได้ทำหนังสือทวงถามถึงการชำระหนี้จำนวน 17,654,106.58 บาท ซึ่งทางบริษัทได้นำเงินจำนวน 14,000,000 บาท เพื่อตัดชำระหนี้ถึงสองครั้งและได้ทำหนังสือชำระหนี้ในวงเงินต่างๆ อีก 5 ฉบับ พร้อมทั้งแนบแคชเชียร์ส่งจ่ายให้แก่ธนาคารด้วย แสดงให้เห็นว่าทางบริษัทมีเจตนาชำระหนี้ และไม่ได้อยากเป็นเป็นลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระหนี้กับธนาคาร แต่ทางธนาคารกลับหวังให้บริษัทเกิดความเสียหายโดยต้องการที่จะหานายทุนเข้ามาฮุบกิจการของบริษัท
“ขอให้พิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามที่ร้องเรียน และขอให้มีคำสั่งให้ธนาคารอิสลาม ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของบริษัท โดยให้ตัดเงื่อนไขที่ขัดต่อกฎหมายที่ไม่ถูกหลักธรรมาภิบาลออกไปด้วย” นายยุทธพงษ์กล่าว