ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ นำพระเครื่อง “หลวงปู่ดี” แจกสื่อ บอกชื่อรุ่น “ไม่รับร่าง” โล่งใจไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอีกต่อไป ต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน โยน คสช.ตั้งชุดใหม่ ขอบคุณ 105 สปช.โหวตรับ โดยเฉพาะ “พะจุณณ์-เลิศรัตน์-นคร” คาดคงเจอกันอีกแต่ไม่ใช่ฐานะเดิม เสียดายกฎหมายร่างพลเมืองเป็นใหญ่ เซ็งสื่อกระบอกเสียงนักการเมือง บอกไม่เห็นล็อบบี้คว่ำ แต่เรื่องมันผ่านแล้วให้มันผ่านไป เห็นใจ “กมธ.นาวิน” งดออกเสียงเพราะเพิ่งได้เลื่อนยศ ไล่ไปตรวจสอบเองถูกหลอกหรือไม่ ก่อนเปลี่ยนชื่อพระเครื่องเป็นรุ่น “โล่งใจ”
วันนี้ (6 ก.ย.) ที่อาคารรัฐสภา เมื่อเวลา 12.30 น. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงภายหลังร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำ โดยก่อนที่จะแถลง นายบวรศักดิ์ได้นำพระหลวงปู่ดี ธมมธิโร วัดเทพากร บางพลัด กรุงเทพฯ เป็นจำนวนมากมาแจกจ่ายแก่สื่อมวลชน พร้อมให้ชื่อรุ่นพระในครั้งนี้ด้วยตัวเองว่า “รุ่นไม่รับร่าง” จากนั้นได้แถลงว่า ในฐานะอดีตหมาดๆ ของ กมธ.ยกร่างฯ และในฐานะอดีตประธาน เมื่อประมาณ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตนเคยได้บอกกับผู้สื่อข่าวมานานแล้วว่าหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก็จะดีใจ แต่เหนื่อย เพราะว่าต้องไปชี้แจงการทำประชามติ รวมถึงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีกหลายฉบับ
“แต่ถ้าผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ผ่าน ผมได้ตอบไปแล้วว่าโล่งใจ เพราะว่าไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอีกต่อไป ไม่ต้องอธิบายประชามติ ไม่ต้องทำกฎหมายลูกอะไรทั้งสิ้น ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับไป ต่อจากนี้การรับผิดชอบการร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และกรรมาธิการยกร่างฯ ชุดใหม่ 21 คนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะตั้งขึ้น เป็นอันว่า อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ต้องขอขอบคุณผู้สื่อข่าวที่ติดตามมาตลอด ขอขอบคุณ สปช.105 ท่าน ที่ลงมติรับร่าง” นายบวรศักดิ์กล่าว
นายบวรศักดิ์กล่าวว่า โดยเฉพาะนายทหารทั้ง 3 คน ได้แก่ พล.ร.อ.พะจุนณ์ ตามประทีป พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช และ พล.อ.นคร สุขประเสริฐ ถือเป็น 3 นายทหารใหญ่ที่ลงมติให้ความเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ได้ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายด้วยความตั้งใจ จริงใจ เอาปัญหาบ้านเมือง และประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ได้เอาปัญหาตัวเองเป็นตัวตั้ง ตามคำปฏิญาณที่มีต่อพระแก้วมรกต และพระสยามเทวาธิราช เป็นหน้าที่ที่สมบูรณ์ และภูมิใจ ต่อไปพวกตนจะไปทำหน้าที่เป็นประชาชน และคงจะได้พบเจอกันในที่ต่างๆ แต่ไม่ใช่ในฐานะ กมธ.ยกร่างฯ อีกแล้วโดยสมบูรณ์
“ผมยืนยันว่าจะไม่มีการร่างรัฐธรรมนูญอีกต่อไป เพราะว่าเสียดายสิ่งที่เขียนเอาไว้ให้ประชาชน ให้พลเมืองเป็นใหญ่ ให้ความสำคัญกับชุมชน ผู้หญิง และคนยากไร้ผู้ด้อยโอกาส ก็หมดไป เสียดายเหมือนกันเรื่องการปฏิรูปดีๆ ที่จะบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และในกฎหมายประกอบว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ ก็ไม่ได้บัญญัติไว้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะถึงประชาชนโดยตรง แต่ว่าก็น่าเห็นใจ เพราะประชาชนไม่มีเสียง เสียงที่อยู่ในสื่อมวลชนของประเทศไทยนั้น เป็นเสียงที่ดังของนักการเมืองทั้งสิ้น น่าเสียดายตรงนี้ ผมเข้าใจว่าพวกเราในฐานะประชาชน ต้องพยายามดูว่า เขาร่างกันต่อไป จะคิดถึงประชาชนขนาดไหน ประชาชนจะเป็นใหญ่มั้ย มีความสำคัญหรือไม่ การปฏิรูปจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ต้องจับตามอง” นายบวรศักดิ์ระบุ
เมื่อถามว่า มองว่าผลที่ออกมามีการล็อบบี้กันหรือไม่ นายบวรศักดิ์ย้อนกลับหาผู้สื่อข่าวว่า “คุณพูดเองนะ พูดเองทั้งสิ้น ผมไม่เห็น เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป”
เมื่อซักว่าที่ระบุชื่อนายทหาร 3 ท่านลงมติเห็นชอบ ส่วน สปช.สายทหารที่เหลือโหวตคว่ำทั้งหมด จะเป็นการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ไม่ ต้องขอขอบคุณท่านทั้ง 3 ซึ่งเห็นชอบ ขณะที่ท่านอื่นก็ต้องฟังผู้ใหญ่ของเขา ถือเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องธรรมชาติ เราเข้าใจกัน ขนาดในกรรมาธิการยกร่างฯ ยังมีงดออกเสียง 1 รายเช่นกัน เพราะเพิ่งได้เป็นพลเอกมาหมาดๆ ยังต้องอยู่ในราชการต่อไป ท่านก็ต้องเป็นอย่างนั้น เป็นที่เข้าใจได้ ต้องเห็นใจท่าน
เมื่อถามอีกว่า แสดงว่าผู้ใหญ่ที่ระบุว่าต้องฟังนั้นมีการกำกับมา นายบวรศักดิ์ยังยืนยันว่า ผู้สื่อข่าวพูดขึ้นมาเอง ตนไม่ได้พูด พร้อมขอบคุณและพยายามจะเดินออกจากที่แถลง แต่ผู้สื่อพยายามวิ่งเข้าไปสอบถามอีกว่าถูก คสช.หลอกและหักหลังหรือไม่ นายบวรศักดิ์บอกว่า ตนไม่ได้พูด ให้สื่อมวลชนไปตรวจสอบเอาเอง พร้อมยืนยันว่าจะไม่ตอบคำถามเหล่านี้อีกต่อไป
ทั้งนี้ภายหลังสัมภาษณ์เสร็จ นายบวรศักดิ์ได้เปลี่ยนใจให้ชื่อรุ่นพระดังกล่าวอีกครั้งว่า “รุ่นโล่งใจ”