“ประสาร มฤคพิทักษ์” ปฏิเสธมีข่าวลือ คสช. ล็อบบี้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญแลกเก้าอี้สภาขับเคลื่อนฯ ชี้แต่ละคนพยายามทำลายความชอบธรรม แต่นายกฯ พูดแล้วว่าต้องการอยู่ในโรดแมป เชื่อ สปช. เคารพตัวเอง มีวิจารณญาณอิสระ ด้าน สปช. บุรีรัมย์ นัดกินข้าว ล็อบบี้โหวตคว่ำร่าง โวได้ 140 เสียง แต่หวังได้เสียงสายวิชาการ - สังคม ขณะที่ อดีต ส.ส. พิษณุโลก วอนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ชี้ หากผ่านเท่ากับคงอำนาจรัฐประหารไปอีกนาน
วันนี้ (4 ก.ย.) นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งสัญญาณมายัง สปช. ให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ โดยล่อใจว่าจะได้ตีตั๋วต่อเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปต่อไป ว่า ข่าวลือจะมีจริงหรือไม่ ตนไม่รู้ แต่ฟังมาว่ามีการบริหารจัดการ แบ่งงานกันไป บางคนมีหน้าที่โทรศัพท์ บางคนมีหน้าที่นัดคุยเป็นกลุ่ม บางคนคอยออกสื่อ บางคนยกเมฆตัวเลขสูง ๆ ของฝ่ายคว่ำไว้จูงใจเพื่อน บางคนมีหน้าที่เอาสว่านเจาะเรือให้รั่วเพื่อทำลายความชอบธรรมของรัฐธรรมนูญ เขาเอาชันยารูรั่วแล้ว ก็ยังไปเจาะรูใหม่ไม่เลิกรา พวกนี้มักทำงานอยู่ในหลืบในซอกมุมมืดที่ไม่ต้องแสดงตัวเปิดเผย
นายประสาร กล่าวต่อว่า ตนได้ดูข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นว่า นายกรัฐมนตรีย้ำว่าต้องการเดินตามโรดแมป และนายกฯ ยังถือว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ที่บัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญ คือทางออกประเทศไทย เป็นหลักประกันว่า การปฏิรูปต้องดำเนินต่อไป จะถอยหลังไปอยู่จุดเดิมไม่ได้ และในยามวิกฤต คปป. จะทำหน้าที่ปลดล็อกความรุนแรงได้ ไม่ต้องก้าวไปสู่กลียุค ไม่ต้องลากรถถังออกมา เพราะมีหนทางสันตินี้รองรับไว้ โดยจะใช้เพียง 5 ปีในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านเท่านั้น
“ผมเชื่อว่า สปช. ส่วนใหญ่ จะเคารพตนเอง จะมีวิจารณญาณอิสระ ไม่ไหลเคลื่อนไปตามสัญญาณที่มาจากไหนไม่รู้ สปช. เข้าใจดีว่าชะตากรรมของบ้านเมืองไม่ใช่ทำตามบัญชาของใคร และไม่ใช่การยื่นหมูยื่นแมว ระหว่างคะแนนเสียงกับตำแหน่งล่อใจใด ๆ การลงคะแนนในวันที่ 6 ก.ย. นี้ จะเป็นมติประวัติศาสตร์ ที่ส่งมอบให้ประชาชนร่วมกันพิพากษาว่าประเทศไทยจะก้าวไปสู่การเมืองคุณภาพใหม่แห่งการปฏิรูป หรือจะหวนกลับไปสู่วังวนของการเมืองน้ำเน่าแบบเดิม” นายประสาร กล่าว
ด้าน นายทิวา การกระสัง สปช. บุรีรัมย์ กล่าวถึงการนัดประชุม สปช. จังหวัดภาคอีสาน ในคืนวันที่ 4 ก.ย. ว่า เป็นการนัดเลี้ยงสังสรรค์ขอบคุณ สปช. ภาคอีสาน หลังจากได้ทำงานร่วมกันมานาน ซึ่งคงมีการพูดคุยประเมินทิศทางคะแนนเสียงของกลุ่มไม่รับร่างรัฐธรรมนูญกันบ้าง ขณะนี้เสียง สปช. ทั้ง 2 กลุ่ม ถือว่าสูสีกันมาก เท่าที่เช็กเสียงล่าสุด กลุ่มไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมีเสียงอยู่ 140 เสียง แต่คะแนนในส่วนนี้ยังอาจจะสวิงกลับไปที่ฝ่ายรับร่างรัฐธรรมนูญได้ประมาณ 20 เสียง ถ้าคะแนนส่วนนี้สวิงกลับไปจริง กลุ่มไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจะมีคะแนนตามหลังกลุ่มรับร่างรัฐธรรมนูญทันที แต่ตามอยู่ไม่มาก ดังนั้นจึงต้องเร่งทำความเข้าใจให้เพื่อนสมาชิก สปช. ให้ทราบถึงข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
“ขณะนี้เสียง สปช. สายจังหวัดจะร่วมโหวตไม่รับร่างด้วยจำนวนมาก แต่กลุ่มไม่รับร่างอยากได้เสียงจาก สปช. สายวิชาการ และสายสังคม ที่ยังเทเสียงมาให้แค่บางส่วนเท่านั้น” สปช. บุรีรัมย์ ระบุ
ขณะที่ นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคชาติพัฒนา ออกมาเรียกร้องให้ สปช. ลงมติคว่ำรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเห็นว่าเป็นกฎหมายที่ขัดหลักการประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง ทำลายการเมืองภาคประชาชน แอบแฝงอำนาจให้ชนชั้นนำกลุ่มเล็ก ๆ สามารถควบคุมการบริหารประเทศได้ คงอำนาจคณะทหารให้อยู่เหนือการเมืองผ่านกลไกคณะกรรมการปฏิรูปและปรองดอง อ้างว่า สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันการรัฐประหาร แต่ความจริงคือเป็นการคงอำนาจรัฐประหารอย่างถาวร หรือจะเรียกว่าเป็นการรัฐประหารโดยกฎหมายก็ได้ นับว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ล้าหลัง ฉุดให้ประชาธิปไตยถอยหลังลงคลอง ตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
“ขอร้อง สปช. อย่าได้คำนึงถึงอามิสสินจ้าง หรือยศถาบรรดาศักดิ์ ที่คณะรัฐประหารมอบให้ แต่ขอให้นึกถึงอนาคตของประเทศไทย ถ้ารัฐธรรมนูญนี้ผ่าน เราจะตกอยู่ใต้การปกครองโดยทหารไปอีกนาน ขอให้ สปช. คว่ำรัฐธรรมนูญเพื่อส่งสัญญาณไปยัง คสช. ว่า ประชาชนต้องการประชาธิปไตยที่ประชาชนมีอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง” นายนคร กล่าว