xs
xsm
sm
md
lg

ขีดเส้น “สมคิด” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 3 เดือนเห็นผล-ไม่ผ่านก็เละ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

“รัฐมนตรีชุดใหม่ไม่มีเวลาฮันนีมูน เพราะต้องทำงานหนักกว่าเก่า เพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้าตามเป้าหมายให้ได้” คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หลังจากที่มีการแบ่งงานใหม่ให้กับบรรดารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ได่รับการแต่งตั้ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ามีความคาดหวังกับ “ทีมเศรษฐกิจ” ที่นำโดย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยหวังว่าจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้เห็นผลเป็นรูปธรรมได้ภายในสามเดือนนับจากนี้ไป

ทั้งนี้ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรม และยังมอบหมายและมอบอำนาจให้สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีในสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และยังการมอบอำนาจให้ปฏิบัติราชการหรือดำเนินการใดๆ ในการรักษาการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

เรียกได้ว่า “ครบวงจร” เมื่อพิจารณาจาก 7 กระทรวงและหน่วยงานทางสำคัญทางเศรษฐกิจ เช่นสภาพัฒน์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และวิสาหกิจเอสเอ็มอี

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาในมุมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่แบ่งงานมอบหมายหน่วยงานดังกล่าวให้กำกับดูแล ก็เท่ากับว่า “แทงเต็งหมดหน้าตัก” เหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ก็ยอมให้ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เลือกทีมเข้ามาเอง สังเกตได้จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ คือ อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็นเพื่อนนักเรียนที่รู้ใจกันมา รวมไปถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น รัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ก็ยิ่งทำให้การบริหารแบบ “บูรณาการ” ของเขาทำได้คล่องตัวขึ้น และ “เป็นทีม” มากกว่าในยุคก่อนหน้านี้

คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่ามีความเชื่อมั่นทีมเศรษฐกิจที่นำโดย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่มีแนวทางสอดคล้องกัน คือ การกระตุ้นรากหญ้าให้ฟื้นขึ้นมา และการเร่งสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศในเรื่องการค้าการลงทุน โดยอยากให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในสามเดือนนับจากนี้ เป็นเรื่องที่น่าติดตามมากที่สุด

เพราะต้องไม่ลืมว่าช่วงเวลานับจากนี้ไปบรรยากาศการเมืองจะเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนที่เห็นเค้าลางมาก่อนก็คือการแท็กทีมร่วมมือกันขย่มรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติจากฝ่ายการเมือง นั่นคือจากสองพรรคการเมืองใหญ่ ทั้งพรรคเพื่อไทย และประชาธิปัตย์ ที่ล่าสุดทั้งยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ประกาศชัดแล้วว่าต้องคว่ำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบบคว่ำในสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือว่ารณรงค์ให้คว่ำในขั้นตอนการทำประชามติ

แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจจับทางในเรื่อง “เป้าหมายที่ซ่อนอยู่” ภายในว่ามีเจตนาต้องการอะไรกันแน่ เป็นการ “ลับลวงพราง” แบบไหน แต่ถึงอย่างไรด้วยความเคลื่อนไหวแบบนี้มันยิ่งทำให้บรรยากาศตึงเครียดร้อนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาคำนวณจากตารางเวลานับจากนี้ไปคาดกันว่า “จุดพีก” ก็น่าจะเป็นช่วงสามสี่เดือนข้างหน้า ตรงกับช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุ้นให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สามารถทำได้ “เข้าตา” ชาวบ้านตามที่ได้ทุ่มแทงเต็งเอาไว้หมดหน้าตักไปแล้ว

อย่างไรก็ดี อาจจะเป็นเรื่องดีอยู่บ้างที่การเข้ามาของทีมเศรษฐกิจที่นำโดย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้สร้างความหวังให้กับชาวบ้านและนักธุรกิจ สังเกตได้จากผลสำรวจที่ออกมาในทางเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรยิ่งมีความคาดหวังมากก็ยิ่งมีความกดดันมาก เพราะหากทำให้ผิดหวังผลออกมาเป็นตรงกันข้ามมันก็จะพังครืนทันที และยิ่งมาพิจารณาจากปัจจัยที่เป็นอยู่ทั้งภายนอกภายในเห็นแล้วก็น่าเป็นห่วง ภายนอกด้านเศรษฐกิจโลกที่เวลานี้กำลังจับตาไปที่จีนว่าจะสร้างความปั่นป่วนขยายวงกว้างไปไกลแค่ไหน เศรษฐกิจของญี่ปุ่นก็อาการไม่ดี ขณะที่ข้างในเราจะกระตุ้นได้ดีแค่ไหน มีเงินพอหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องลุ้นกันหนัก

เอาเป็นว่าถึงอย่างไรก็ต้องเอาใจช่วยและลุ้นให้ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ทำงานให้สำเร็จ อย่างน้อยก็ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมภายในสามเดือนนับจากนี้ ดังที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ตั้งความหวังเอาไว้ตั้งแต่ต้น เพราะเที่ยวนี้ถ้าพลาดอีก นอกจากนายสมคิดจะจบเกมแล้ว สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องมีชะตากรรมที่ไม่ต่างกัน เพราะลองถ้าปัญหาเศรษฐกิจปากท้องยังไม่ฟื้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว มันก็พอหลับตานึกภาพได้เลยว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร

โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวแท็มทีมกันของบรรดานักการเมือง ถึงตอนนั้นก็ถล่มกันจมดินแน่!
กำลังโหลดความคิดเห็น