“สาธิต” รับรัฐธรรมนูญใหม่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่มั่นใจจะแก้ปัญหาการเมืองไทยได้ แนะปลูกฝัง อธิบายทำความเข้าใจระบอบรัฐสภา สับสนเพื่อไทยปากเรียกร้องประชาธิปไตยแต่ให้คว่ำร่างฯ ชี้กฎหมายใหม่ยังดีกว่าพฤติกรรมเลวๆ ของนักการเมืองบางคน ด้าน “จุรินทร์” ชี้เนื้อหาพาชาติไปสู่ทิศทางที่น่าห่วง มุบมิบ เป้าหมายซ่อนเร้น ปิดประตูตีแมว ทำประชาพิจารณ์แค่พิธีกรรม หวั่นต้องเขียนใหม่อีก
วันนี้ (23 ส.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญว่า ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยจริง หากมองในแง่การแบ่งแยกอำนาจ 3 ฝ่าย ตามหลักการปกครองระบบรัฐสภาที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ถ้ามองบริบทและจุดมุ่งหมายของผู้ร่างที่ออกมายืนยันว่าเป็นการออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาของการเมืองไทยที่มีปัญหาพิเศษต่างไปจากประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ ส่วนจะสามารถตอบโจทย์แก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่นั้น ส่วนตัวยังไม่มั่นใจตามที่ กมธ.ยกร่างฯ หรือผู้มีอำนาจคาดหวัง เพราะการแก้ไขปัญหาการเมืองไทยที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด และการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตตามที่กฎหมายกำหนดของผู้มีอำนาจในขณะนั้นซึ่งส่วนใหญ่มักใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ส่วนการแก้ไข คือ ต้องปลูกฝังและอธิบายทำความเข้าใจการปกครองแบบรัฐสภาที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยและกลุ่ม นปช.ประกาศคว่ำการทำประชามติในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะถือเป็นการสืบทอดอำนาจและเป็นร่างทรงเผด็จการ นายสาธิตกล่าวว่า ตนยังรู้สึกสับสนกับพฤติกรรมของพรรคเพื่อไทยที่ปากเรียกร้องประชาธิปไตย ขอให้รัฐบาลคายอำนาจ เดินตามโรดแมปเพื่อจัดเลือกตั้งให้เร็วที่สุด แต่วันนี้กลับออกมารณรงค์ให้ประชาชนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ถามว่าถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญแล้วจะเลือกตั้งได้อย่างไร ตนจึงเห็นว่าแม้วันนี้ร่างรัฐธรรมนูญจะไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ แต่เมื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมของคนที่ชอบอ้างประชาธิปไตย เมื่อมีอำนาจแล้วกลับปู้ยี้ปู้ยำประเทศ ใช้นโยบายสร้างกระแสโดยไม่รับผิดชอบ สร้างหนี้สาธารณะให้ประเทศมากมาย ตนจึงคิดว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้ยังดีกว่าพฤติกรรมเลวๆ ของนักการเมืองบางคน ส่วนการรณรงค์ให้ประชาชนว่าจะรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญก็ขอให้ประชาชนศึกษารายละเอียดในร่างรัฐธรรมนูญให้ดีก่อน เพราะมีผลกระทบต่อทุกคน
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเพิ่งเห็นตัวร่างวันนี้และคิดว่ามีเนื้อหาที่จะพาประเทศไปสู่ทิศทางที่น่าเป็นห่วง และกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญก็ดูเหมือนจะดำเนินไปแบบปกปิด จนทำให้รู้สึกเสมือนการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องส่วนตัวของกรรมาธิการเท่านั้น คนอื่นไม่เกี่ยว ทั้งที่รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของคนไทยทุกคนและเกี่ยวข้องกับทุกสถาบัน ทุกคนจึงควรมีสิทธิ์มีส่วนรับรู้ แสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ได้ตั้งแต่ต้น โดยผ่านกระบวนการยกร่างที่โปร่งใสเปิดเผย และกรรมาธิการก็มีหน้าที่ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังไม่ใช่ทำแค่เป็นพิธีกรรม
“ดังนั้น เมื่อได้ติดตามกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ จึงเห็นได้ชัดเจนว่ามีความพยายามที่จะผลักดันให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นไปตามเป้าหมายซ่อนเร้นที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวได้ถูกระบุไว้ในการเขียนรัฐธรรมนูญช่วงต้น เพียงแต่ต่อมาเมื่อถูกวิจารณ์และสะท้อนการไม่ยอมรับจากหลายฝ่ายอย่างกว้างขวาง ในช่วงกลางกรรมาธิการจึงลดแรงเสียดทานโดยการเปิดรับฟังความคิดเห็นและนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขจนกระทั่งดูเหมือนจะทำให้รัฐธรรมนูญดูเข้ารูปเข้ารอยและยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตยมากขึ้น แต่สุดท้ายก็มีการมุบมิบนำเนื้อหาในเป้าหมายซ่อนเร้นเดิม แปลงรูปแล้วใส่กลับเข้ามาใหม่ในช่วงปลาย โดยไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายใดแสดงความเห็น และล่วงรู้เนื้อหาที่แท้จริงได้แม้แต่สื่อมวลชน แล้วรีบปิดประตูตีแมวสรุปนำเสนอ สปช.พิจารณาให้การรับรองในทันที” นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวว่า การใช้เงินงบประมาณจัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นและจัดทำผลสำรวจความเห็นของประชาชนก่อนหน้านี้จึงเป็นแค่ละคร ทำให้ตนเป็นห่วงกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญในลักษณะนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นตราบาปตั้งแต่นับหนึ่งให้กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้และอาจมีผลให้เกิดการไม่ยอมรับจนต้องนำไปสู่การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่อีก