รายงานการเมือง
ตำรวจออกหมายจับแล้วชายต่างชาติเสื้อยืดเหลือง เชื่อมือระเบิดแน่นอน เว็บเพจดังทำฮือฮาจับเบาะแสเสื้อมือบึ้ม มาไกลถึงอินโดนีเซีย แต่ไม่แน่ใจเป็นสินค้าไทยส่งไปขายหรือเปล่า แฉพฤติการณ์นักฆ่าเลือดเย็นเลียนแบบคดีสะเทือนโลก “บอสตันมาราธอน” สะพายกระเป๋าเป้ แทรกตัวเข้าหากลุ่มคนก่อนจุดชนวนสุดอำมหิต
เหตุสะเทือนขวัญ กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณแยกราชประสงค์ ข้างรั้วศาลพระพรหมเอราวัณ กทม. เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่า จากการประชุมฝ่ายความมั่นคงตำรวจ - ทหาร ในเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า จะออกหมายจับชายต้องสงสัยตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดแล้ว แม้จะยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่จะใช้รูปพรรณสัณฐานจาก CCTV เป็นหลักฐานในการขอหมายจับจากศาล เป็นชายรูปร่างสูง อายุประมาณ 25 - 30 ปี คล้ายชาวตะวันตก ผมหยิกสีน้ำตาล สวมแว่นตากรอบดำ เสื้อยืดคอกลมสีเหลือง สวมปลอกแขนคล้ายต้องการอำพรางรอยสักหรือตำหนิ กางเกงสามส่วน สวมรองเท้าผ้าใบลายดำ - แดง
ชายดังกล่าวสะพายกระเป๋าเป้มานั่งเก้าอี้ เมื่อปลดเป้ออกก็รีบเดินออกไปก่อนเกิดการระเบิด จนมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 12 ศพ และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 8 ราย รวมเป็น 20 ศพ ส่วนคนเจ็บมีมากกว่า 100 ราย
รายงานข่าวแจ้งว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้แจ้งต่อฝ่ายความมั่นคง ว่า ขอให้เร่งรัดการข่าวในเชิงรุกให้มีประสิทธิภาพกว่าที่เป็นอยู่ ทำให้ในส่วนของตำรวจนำโดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช. สันติบาล พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ต้องประชุมกันอย่างเร่งด่วนจนได้ข้อสรุปดังกล่าว คือ เร่งออกหมายจับคนร้ายตามภาพที่ปรากฏให้เร็วที่สุด
ล่าสุด ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติหมายจับไปแล้ว ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด จนเป็นเหตุให้บุคคลอื่น ถึงแก่ความตาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย, ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่ออกใบอนุญาตไม่ได้ ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธ (วัตถุระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ รวม 6 ข้อหา
สำหรับการเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลมีเดีย หลังเกิดการก่อวินาศกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติการณ์ของกรุงเทพมหานคร ปรากฏว่า มีการแชร์ข้อมูลที่น่าสนใจกันตลอดทั้งวัน โดยเว็บเพจ CSILA นักสืบโซเชียลฯ เจ้าเก่าที่โด่งดังจากคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ได้โพสต์ภาพเสื้อยืดยี่ห้อกุชชี่ สีเหลือง ที่คนร้ายสวมใส่ในวันก่อเหตุ มาให้สมาชิกช่วยกันค้นหาเบาะแส ปรากฏว่า มีผู้แจ้งแหล่งซื้อขายมาจากประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ในเวลาไล่เลี่ยกัน เว็บ Dranaaddict มีข้อมูลแย้งว่าเสื้อยืดลักษณะดังกล่าวอาจจะเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย แล้วส่งไปจำหน่ายที่อินโดนีเซียก็เป็นได้ และใน กทม. เองสามารถหาซื้อได้หลายแห่ง นับเป็นการแชร์ข้อมูลเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ยังมีมุมมองจากเว็บอื่น ๆ ที่ตั้งข้อสังเกตถึงพฤติการณ์ของคนร้าย โดยเชื่อว่าน่าจะเลียนแบบมาจากนายโชการ์ ซาร์นาเยฟ ผู้ต้องหาลอบวางระเบิดงานบอสตันมาราธอน เมื่อปี 2556 มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 260 คน โดยขณะนี้ศาลลูกขุนสหรัฐฯ พิจารณาโทษให้ประหารชีวิตไปแล้ว
ทั้งนี้ ช่วงเกิดเหตุผู้ต้องหาได้สะพายกระเป๋าเป้ภายในซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องไว้ก่อนนำไปวางทิ้งไว้ตรงจุดเส้นชัย ซึ่งมีผู้คนยืนดูอยู่จำนวนมาก และอีกอย่างที่อยู่ในอารมณ์เดียวกัน ก็คือ หลังเกิดเหตุชาวบอสตันได้ผนึกกำลังกันช่วยทางการเสาะหาข้อมูลอย่างเต็มกำลัง ทั้งจากกล้องวงจรปิด และการบันทึกภาพต่าง ๆ ที่ผู้ร่วมชมการแข่งขันบันทึกไว้ จนพบพิรุธของผู้ต้องหารายนี้มีการสะพายกระเป๋าเป้แฝงเข้าไปยังฝูงชน แต่พอเดินออกมากลับมีแต่ตัวเปล่า เช่นเดียวกับผู้ต้องสงสัยชายเสื้อยืดสีเหลือง จากเหตุการณ์ระเบิดศาลพระพรหม สี่แยกราชประสงค์ เมื่อค่ำวันที่ 17 ส.ค. ซึ่งปรากฏในภาพอย่างชัดเจน
