อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ตอก “ตู่ เสื้อแดง” กินปูนร้อนท้อง กล่าวหาโฆษกรัฐบาลป้ายสีแก๊งแดง ยกคำปราศรัยในอดีตรัดคอ แนะควรบอกนายใหญ่หยุดอาฆาตประเทศไทย เลิกใช้ความรุนแรง
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ออกมาโจมตี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ว่าป้ายสีกลุ่ม นปช.มีเอี่ยวกับการระเบิดที่ราชประสงค์ว่า นายจตุพรกินปูนร้อนท้อง เพราะ พล.ต.สรรเสริญมิได้ระบุชื่อใครเลย นอกจากวิเคราะห์ตามเหตุว่าแนวโน้มเกิดจากผู้เสียประโยชน์การเมืองกลุ่มเดิมๆ เพื่อทำลายบรรยากาศของประเทศและมีการปล่อยข่าวทางโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่เฉพาะ พล.ต.สรรเสริญเท่านั้นที่คิดเช่นนี้ หากแต่ประชาชนทั้งประเทศก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง การออกมาปฏิเสธของนายจตุพร ประชาชนทั่วไปจะเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ระหว่างคำพูดของจำเลยในคดีก่อการร้าย คือนายจตุพร กับ พล.ต.สรรเสริญ โฆษกรัฐบาลคนใหม่ ประชาชนจะเชื่อใครมากกว่ากัน เป็นเรื่องที่มองได้ไม่ยาก
“ที่ผ่านมานายจตุพรเคยปราศรัยเรื่องกระสุนพระราชทานที่ราชประสงค์ ที่เดียวกับที่มีการวางระเบิด กองทัพบกต้องส่งนายทหารพระธรรมนูญไปแจ้งความดำเนินคดี แต่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ามาช่วยในคดีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่สงสัยบ้างหรือ หรือกรณีที่นายจตุพรเคยปราศรัยว่า เดิมทีคนเสื้อแดงมีแค่พรรคการเมืองและมวลชน แต่วันนี้แก้วอีกประการหนึ่ง คือ กองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่พร้อมปกป้องคนเสื้อแดง หรือกรณีปราศรัยบนสะพานผ่านฟ้าฯ ว่าต้องขอบคุณชายชุดดำ ถ้าไม่มีพวกเขาพวกเราคงตายมากกว่านี้เยอะ สิ่งที่นายจตุพรปราศรัยนั้นมันเป็นหลักฐานรัดคอนายจตุพรเองอยู่แล้ว แล้วจะไปว่า พล.ต.สรรเสริญได้อย่างไร อย่าไปถือสานายจตุพรเลย ผมอยากให้เจ้าหน้าที่ทหารตรวจสอบคดีคนเสื้อแดงขับมอเตอร์ไซค์แล้วระเบิดร่างกายขาดเป็นสองท่อนที่ สน.มีนบุรี, เหตุการณ์ระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น นนทบุรี และขอนแก่นโมเดล ล้วนเชื่อมโยงกันทั้งสิ้น”
นายวัชระกล่าวว่า แนวทางการใช้ความรุนแรงในเมืองต้องยุติ นายจตุพรควรรีบบอก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าหยุดอาฆาตประเทศไทยได้แล้ว และต้องบอกให้กลุ่มหัวรุนแรงยุติแนวทางอาวุธโดยเด็ดขาด เพราะมิใช่เป็นหนทางไปสู่ความปรองดองแต่ประการใด และเราต่างก็เป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น หากนายจตุพรสงสัย วันที่ 2 ก.ย.นี้ สามารถสอบถามตนเป็นการส่วนตัวได้ที่ศาลอาญา เพราะเป็นวันนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ตนฟ้องนายจตุพร พร้อมนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในคดีหมิ่นประมาทและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
