2 อดีต ส.ส.ปชป.ดาหน้าซัด “ธวัชชัย” เต้าข่าวล้มรัฐป้ายสีพรรคการเมือง ฉะเป็นผู้ใหญ่เลี้ยงแกะ ผบ.สส.ยังออกมาปัด โต้พรรคกินปูร้อนท้อง ย้อนมีแต่บางคนจ้องกินกาสิโน-เรือดำน้ำ สวน สนช.ยังนิ่ง 2 สมาชิกส่อโกง จี้ปราบโกงเริ่มที่แม่น้ำ 5 สาย สวนป่วนใต้เอี่ยวงบฯ หรือไม่ ย้อนควรใช้งบปกติได้แล้ว ชี้รัฐบาลเดินถูกทางแล้วเหตุถึงหนักขึ้น ยัน ปชป-พท.ไม่ฮั้วกันเหตุต่างแนวคิด จี้ รบ.รับผิดชอบตั้งเป็นสปช.แต่กุข่าวเสียหาย
วันนี้ (16 ก.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่ามี 2 พรรคการเมืองจับมือเตรียมก่อความรุนแรงล้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นการเต้าข่าวที่กล้ากล่าวคำเท็จให้ร้ายต่อพรรคการเมืองต่อสาธารณชนในที่แถลงข่าวของ สปช. หนึ่งในแม่น้ำ 5 สายที่เริ่มมีกลิ่นไม่ดี ไม่น่าเชื่อว่า สปช.ระดับพลเอกจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่เลี้ยงแกะ เพราะข้อกล่าวหานี้มีโทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรค แล้วยังมีโทษถึงประหารชีวิตอีก แต่คำพูดของ พล.อ.ธวัชชัยเป็นเท็จแน่นอน เพราะแม้แต่ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ยังปฏิเสธว่าไม่มีในรายงานของหน่วยข่าวกรองทหารแต่อย่างใด ดังนั้นการที่ พล.อ.ธวัชชัยบอกว่าพรรคการเมืองอย่ากินปูนร้อนท้อง เพราะเป็นการพูดเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม จึงเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น
“ยืนยันว่าพรรคการเมืองไม่ได้กินปูนร้อนท้อง แต่บางคนบางกลุ่มที่กำลังจะกินกาสิโนแต่กินไม่ได้ จะกินเรือดำน้ำก็กินไม่ไหว จึงอ้างแต่คำว่าปฏิรูป กินเงินเดือนภาษีประชาชนเรื่อยๆ โดยไม่เห็นว่าสังคมจะดีขึ้นตรงไหน นอกจากข้าวยากหมากแพง”
นายวัชระกล่าวอีกว่า เรื่อง 2 พรรคจับมือกันล้มรัฐบาลนั้นไม่มีแน่นอน แต่ที่มี คือ 2 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กินยาปราบศัตรูพืช และไปเป็นกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ พ.ศ. 2559 จัดงบฯ จำนวน 2.72 ล้านล้านบาทนั้นมีแน่ แต่รัฐบาลและ สนช.กลับนิ่งเฉย ไม่ต่างจากการฝากปลาย่างไว้กับแมว คนโกงใกล้ตัวมีตำแหน่ง กลับไม่ปราบโกงเด็ดขาดตามที่พูด งานปราบคอร์รัปชันของรัฐบาล คสช.จะไม่สำเร็จ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เริ่มปราบการคอร์รัปชันที่เริ่มต้นจากแม่น้ำ 5 สาย การปฏิรูปประเทศที่ฝันของ พล.อ.ประยุทธ์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
ด้านนายโกวิทย์ ธราณา อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ พล.อ.ธวัชชัย ออกมาระบุว่า 2 พรรคการเมืองใหญ่ อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า อยากถามว่าเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เกี่ยวเนื่องจากเรื่องของงบประมาณหรือไม่ ตนคิดว่าในพื้นที่ภาคใต้ ถึงเวลาที่ควรจะใช้เป็นงบปกติได้แล้ว ควรไปทบทวนบทบาทท่าทีของนโยบาย ขอถามว่าถ้าวันนี้เดินถูกทางแล้วทำไมเหตุการณ์ถึงรุนแรงมากกว่าเก่า และทหารยังถูกทำร้าย เป็นเพราะระหว่างชาวบ้านกับตัวองค์กรที่เข้ากันไม่ได้ อย่าไปคิดว่าเป็นผู้ก่อการร้ายอย่างเดียว
“พล.อ.ธวัชชัยพูดเช่นนี้ทำให้คนสับสน พรรคการเมืองที่ไหนจะไปฮั้วกัน แบบนี้เขาไม่ทำหรอก เพราะพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย แนวความคิดถึงปัจจุบันนี้ยังแตกต่างกัน คือ เรื่องของระบบการบริหารไม่สามารถเข้ากันได้ ความคิดเห็นและอุดมการณ์ไปกันคนละทาง ฝ่ายหนึ่งทำเพื่อตัวบุคคล แต่อีกฝ่ายหนึ่งต้องทำระบบให้ดี ฉะนั้นเรื่องนี้คือประเด็นสำคัญ ผมคิดว่าเรื่องนี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ เพราะตั้งพล.อ.ธวัชชัย มาเป็น สปช. ซึ่งเป็นคนของรัฐบาล ความจริงแล้ว พล.อ.ธวัชชัยเคยเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ของคนเสื้อแดง ไม่ใช่อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และพล.อ.ธวัชชัยต้องขอโทษว่าได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมาทั้งหมดมาจากใคร ข้อมูลที่ท่านได้มานั้นมาจากไหน ตัวบุคคลหรือองค์กร” นายโกวิทย์กล่าว