“ประยุทธ์” ย้ำแค่รับเอกสารสรุป สปช. ปฏิรูปรอสภาขับเคลื่อนฯ เมื่อมีรัฐบาลใหม่ คกก.ยุทธศาสตร์เข้ามาดู เหตุเชื่อไม่ทำตามแน่ รับแล้วแต่อารมณ์ร่วมวงหรือไม่ ฉุนกุข่าวใช้งบ 300 ล้านออกกฎหมาย ชี้ปฏิรูปต่อเนื่องไม่ระบุเสร็จกี่ปี บ่นพูดมากหาว่าอยู่ต่อ เสียหายก่อนหน้านี้ไม่ขุดกัน เมินตอบรัฐบาลปรองดอง เปรยอยากทำไรก็ทำ
วันนี้ (13 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ที่จะไปรับมอบผลงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และแนวทางที่จะทำให้รัฐบาลในอนาคตสานต่อการปฏิรูปว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว ตนคิดไว้แล้วและพูดไปแล้วสิบรอบแต่ไม่ยอมฟัง ขั้นตอนในวันนี้ คือ การรับเอกสารสรุปผลงานมาจาก สปช.เท่านั้น มีประมาณ 36 วาระ แต่จะอยู่ในกรอบการปฏิรูป 11 ด้าน รายละเอียดจากเอกสารนั้นจะมีหัวข้อกิจกรรมที่ สปช.ได้ไปทำมา และเรื่องต่างๆ ของการปฏิรูป ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ทันที ขั้นตอนต่อไปจะไปอยู่ที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่จะตั้งขึ้นในวันหน้า มีหน้าที่รับไปรับพิจารณาอีกครั้ง สามารถเพิ่มเติมหรือตัดทิ้งก็ได้ ตนไม่ได้อยากจะตั้งหลายสภาแล้ว พอแล้ว จากนั้นเมื่อทั้งหมดเสร็จสิ้นกระบวนการก็จะถูกส่งต่อไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่สามารถตัดหรือเพิ่มเนื้อหาอีกก็ได้เช่นกัน เพราะเขามีหน้าที่ทำให้การปฏิรูปทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า เมื่อเรื่องการปฏิรูปผ่านไปได้ทุกกระบวนและสามารถทำได้ การปฏิรูปก็จะถูกส่งต่อไปยังรัฐบาลในอนาคต และคนที่จะมาดูตรงนี้จะเป็นส่วนของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ นี่คือเหตุว่าทำไมต้องมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เพราะการมีรัฐบาลมาเลือกตั้งอย่างเดียวเขาจะทำหรือไม่ ตอบตนสิ ผู้สื่อข่าวตอบกลับไปว่าไม่ทำ หรืออาจจะทำแต่ไม่หมดไม่ครบ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า เขาไม่ทำ เพราะเขายังพูดกันอยู่ว่าไม่เห็นจะต้องปฏิรูปอะไรเลย ทำไมไม่ฟังเขา ทีตนทำปฏิรูปไปตั้งเยอะแยะแต่เขากลับมาบอกว่าไม่เห็นทำอะไรเลย แค่รื้อแผนพลังงานออกมาให้ชัดเจนขึ้น จัดระเบียบต่างๆ อีก ถามว่ามันเคยทำไหม การปฏิรูปคือต้องทำใหม่ทั้งหมดหรือ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การปฏิรูป คือ 1. สิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น ทั้งการค้าการลงทุน เขตเศรษฐกิจพิเศษให้เป็นรูปธรรม นั่นคือสิ่งที่จะปฏิรูป มีสิ่งใหม่ๆ เกิดเป็นรูปธรรม 2. การแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหาของชาติบ้านเมือง และแก้ไขคือการทำ ต้องแก้ไขกฎหมายไปด้วย
“มีบางคนออกมาเปรียบเทียบว่ารัฐบาลนี้ออกกฎหมายร้อยกว่ากฎหมาย ใช้งบประมาณไป 300 กว่าล้านบาท มันเขียนอย่างนี้ไปได้ยังไงวะ ผมอยากจะรู้ ใช้สมองส่วนไหนเขียนออกมา เป็นค่าเบี้ยเลี้ยง ก็ไปหารกับกฎหมาย รู้หรือไม่ว่ากฎหมายฉบับหนึ่งมีผลประโยชน์ต่อคน 70 ล้านคน มันมีมูลค่าวัดได้ตรงไหน ผมถาม กฎหมาย 100 กว่าฉบับที่ออกมา ถามว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมาออกได้หรือไม่ ทำไมไม่เขียนอย่างนี้ ทำไมไม่มองตรงนี้กันบ้าง ผมไม่เข้าใจ มันเหมือนกับที่เขาเรียกว่าไม่มีตรรกะในการคิด การเขียน การวิจารณ์ มันไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์
เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองบอกว่าจะไม่ทำการปฏิรูปต่อ แบบนี้จะต้องหันมาคิดว่าต้องทำปฏิรูปให้จบก่อนที่รัฐบาลจะออกไปหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าจบไม่จบ บอกแล้วว่าการปฏิรูป 1 ปี จบ 2 ปี จบ 20 ปีก็ได้ แต่ถามว่าใครจะทำต่อ ก็ทำต่อกันไป หากลไกในการทำ เขาก็เขียนมาแล้วว่ามีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติในการดูแล 5 ปี ก็ประมาณรัฐบาลใหม่และส่งต่อรัฐบาลหน้าอีก ที่เขาทำก็เพื่อทำให้ต่อเนื่องอะไรที่ไม่เสร็จ ทำไมจะต้องมาบอกว่าจะเสร็จภายใน 2 ปีประเทศไหนเขาทำได้ มีไหมรู้ไหมประเทศไหนเขาปฏิรูปกันบ้าง ใช้เวลากี่ปี
“พอผมพูดมากก็ว่าผมจะอยู่ต่อ คิดแบบนี้ คิดอยู่แค่นี้ เผด็จการ เลือกตั้ง ประชาธิปไตย ไอ้ที่เสียหายมาก่อนปี 2557 ทำไมไปคิดบ้างล่ะ เสียหายอะไรกันบ้าง เข้าใจกันหรือยัง มายุ่งกันแต่จะปลดจะย้าย จะแต่งตั้ง จะตั้งใครล่ะผมยังอยู่ ผมก็ทำงานของผม แล้วใครจะไม่ทำ มีใครจะไม่ทำไหม ไม่รู้ว่าจะกลัวอะไรกันนักหนา การปฏิรูปก็เขียนรัฐธรรมนูญออกมาต้องเป็นประชาธิปไตย แล้วถามว่าประชาธิปไตยที่ผ่านมาแก้อะไรได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นต้องเป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญต้องเป็นประชาธิปไตย บทเฉพาะกาลก็ต้องมีให้ทำ ระยะเวลานี้จะต้องทำอย่างนี้ ปฏิรูปอย่างนี้ ถ้าไม่เขียนอะไรเลยจะเกิดขึ้นได้ไหม ถามแล้วตอบสิ เพราะฉะนั้นอย่ามาวิจารณ์ผมอย่างนั้นอีก” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ มีมีกำหนดคุณสมบัติให้คณะกรรมการเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีเข้าร่วม มีโอกาสหรือไม่ที่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจเข้าร่วมคณะกรรมการดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ เขาเขียนว่าอย่างไร เขาเขียนว่ามีนายกรัฐมนตรีโดยตำแหน่งมิใช่หรือ ใครเป็นนายกฯ ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ส่วนคุณสมบัติที่ระบุว่ามีอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย และเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วม จะตัดสินใจเข้าร่วมคณะกรรมการดังกล่าวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่รู้เลย แล้วแต่อารมณ์ผม ถ้าเบื่อมากๆ ก็ไม่อยากเป็นอะไรทั้งนั้น” ผู้สื่อข่าวบอกว่าทำเพื่อชาติ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีเพื่อชาติ เธอยังไม่ทำเพื่อฉันเลย ให้ฉันทำคนเดียว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีข้อเสนอแนวคิดที่จะมีคำถามประชามติให้มีรัฐบาลปรองดองแห่งชาติว่า “ไม่รู้ เป็นเรื่องของประชามติ ทำไมต้องคิดอะไร ถ้าคิดว่าผมมีส่วนได้ส่วนเสียตรงนั้น ผมก็คิดไม่ได้ อยากจะทำอะไรก็ทำกันเถอะ”
