xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ คิดอยู่ปรับ ครม. ทำจริงทุกคนรับได้ ปัดมียื่นลาออก โวยโยงโผทหาร-คสช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” อารมณ์ดีแจงสื่อปรับ ครม.รับคิดอยู่ ดักปรับไม่ปรับก็ถูกจับเป็นประเด็น ขออย่าจี้ปรับทีมเศรษฐกิจมาก แนะมองทุกมิติ ขอสื่ออย่าคุ้ยมาก รับข่าวปรับ ครม.ทำเสียสมาธิ ยังไม่มี รมต.ยื่นลาออก ยันสุภาพบุรุษกันอยู่แล้วปรับออกรับได้ โวยนำมาโยงโผทหาร-คสช. ชี้ปัญหาแยะต้องจัดลำดับให้ดี ย้อนให้ความเป็นธรรมบ้างทำงานมาแค่ 1 ปี บ่นสื่อเล่นแต่ประเด็นแรง เผยอาการป่วย “ประวิตร” ดีขึ้น



วันนี้ (24 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวถึงความชัดเจนในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยล่าสุดผลสำรวจของกรุงเทพโพลล์ระบุว่าควรมีการปรับ ครม.ว่า ก็มีข่าวปรับทุกวัน เมื่อถามย้ำว่าจะมีการปรับจริงใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “กำลังคิดอยู่ คือก็ไม่อยากให้มีผลกระทบ แต่ถ้าปรับก็คือปรับ ไม่ปรับก็คือไม่ปรับ ถ้าพูดทุกวันก็ทำให้ทุกอย่างแย่ไปหมด เศรษฐกิจ ความมั่นคงก็แย่ เกิดความขัดแย้ง”

“พอปรับเสร็จสื่อก็บอกว่านี่คือความขัดแย้ง บอกว่าผมไม่สนใจไม่ฟังเสียงประชาชน เอ๊ะ! จะเอาอย่างไรกัน ถามหลายครั้งจะปรับใครล่ะบอกมาซิ ชื่ออะไรเสนอมา จะให้ปรับใครบ้าง บอกมา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวระบุว่า ผลสำรวจส่วนใหญ่ต้องการให้มีการปรับในกระทรวงเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “หรา ..เขาทำผิดอะไรผิดบ้างบอกมาซิ สิ่งไหนที่เขาทำวันนี้มันไม่ดีตรงไหน หรือดีตรงไหน ทำให้เศรษฐกิจเลวลงหรืออย่างไร เลวลงเพราะเขาทำ เพราะผมทำ หรือมันเพราะเศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจข้างล่าง ความผิดความถูกการกระทำ ธุรกิจที่ผ่านมามองให้ครบทุกมิติด้วย เอาล่ะถ้ามองแง่ของความไว้วางใจความน่าเชื่อถือก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะฉะนั้นสังคมต้องมองให้ออกว่าถ้าเผื่อปรับไปแล้วไม่ดีขึ้นกว่าเดิมจะโทษใครอีก โทษผมมั้ง ปรับผมออกใช่หรือเปล่า อย่าเพิ่งไปให้ความสำคัญมากนักเดี๋ยวผมจัดการของผมเอง”

เมื่อถามว่าเพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่มจะทำให้เร็วขึ้นหรือไม่ในการปรับ ครม. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ กระเพื่อมอะไร แล้วในความคิดของสื่อมีความคิดเห็นอย่างไร มันแย่ลงมากมั้ย แล้วจะเอาใครมาเป็น เสนอใส่กระดาษมาให้ผม เขียนส่งมาเดี๋ยวผมจะดูให้ วันนี้หนังสือพิมพ์ก็มีสองขาตลอด เชียร์คนนี้เชียร์คนโน้น ก็มาตั้งเสียเองก็แล้วกัน”

ผู้สื่อข่าวถาม ทำไมข่าวปรับ ครม.จึงเกิดในช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มันต้องดูว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือเปล่า มันเป็นอย่างนี้เขาไม่เข้าใจหรือไม่ ใจร้อนหรือเปล่าไม่ทันใจ อีกส่วนหนึ่งคือความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นรายบุคคล มีการเมืองฝ่ายตรงข้ามไปก่อกวนอะไรข้างล่างหรือเปล่า มันเกิดขึ้นได้หมดทุกเรื่อง ตนอยากจะบอกว่าวันนี้ทุกคนควรต้องคิดไคร่ครวญให้ดีว่ารัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทุกคนก็รู้อยู่เป็นรัฐมนตรี ใครทำหน้าที่อะไรมันมีกติกาของฝ่ายการเมือง ตนไม่ใช่คนตั้งกติกาตรงนี้ ดังนั้นตนจะดูที่ผลงาน ดูที่ประสิทธิภาพ จึงต้องให้เวลาไปสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับประชาชนไม่เช่นนั้นมุมมองในภาคธุรกิจก็ไม่กล้าที่จะทำอะไร สื่อก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย อะไรที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแค่เพียงคำบอกเล่าหรือไม่มีหลักฐานขุดคุ้ยขึ้นมามันก็ไม่มีประโยชน์

เมื่อถามว่า ข่าวปรับ ครม.ที่ออกมาส่งผลให้ ครม.เสียสมาธิในการทำงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนที่เสียสมาธิคือตน รัฐมนตรีเขาต้องมีสมาธิอยู่แล้วเพราะเขาทำงานตามที่ตนสั่ง ถ้าทำได้ก็ไม่มีปัญหาแต่ถ้าทำไม่ได้ตนก็ต้องหาคนทำให้ได้เท่านั้นเอง ผู้สื่อข่าวถามว่าครั้งนี้เป็นการปรับใหญ่หรือปรับเล็ก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อะไรคือใหญ่ อะไรคือเล็ก เมื่อถามย้ำว่าปรับ ครม.หลายตำแหน่งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเลี่ยงว่า “อ๋อเหรอ ก็เสนอเข้ามาสิ” เมื่อถามว่าวันนี้มีรัฐมนตรีถอดใจยื่นใบลาออกบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปฏิเสธว่ายังไม่เห็นมีใคร ทุกคนก็ยังเข้มแข็งอยู่ พยายามทำหน้าที่ ประเด็นปัญหาวันนี้คือปัญหามีเยอะมาก ทับซ้อนมากและตนก็รู้ปัญหาเยอะจึงสั่งการณ์เยอะ อีกทั้งมีความกดดันข้างนอกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องจัดลำดับให้ดี ว่าอะไรทำได้อะไรควรทำ อะไรที่ทำแล้วเกิดความเชื่อมั่นไว้วางใจอะไรที่ก่อให้เกิดการค้าการลงทุนมากขึ้น ในเมื่อเราฝากความหวังเศรษฐกิจทั้งประเทศไว้กับการส่งออกซึ่งมีถึงร้อยละ 70 ถามว่ามันจะได้หรือไม่ ถ้าทำอย่างนี้ต่อไปวันข้างหน้าก็ต้องเป็นแบบนี้อีก ไม่สามารถทำได้เพราะโครงสร้างมันไม่ถูก และเราก็ไปทุ่มเทกับองค์กรสิทธิมนุษยชนบ้าง เอ็นจีโอบ้าง ซึ่งไม่ใช่ว่าจะผิด แต่ต้องดูว่าประเทศเราต้องการอะไรเดินให้เป็นคู่ขนาน เราสร้างความเข้มแข็งในภาคอื่นไม่ได้ก็ต้องพึ่งการส่งออกอย่างเดียว ซึ่งการส่งออกก็ต้องพึ่งภาคการเกษตรอย่างเดียว รายได้ร้อยละ 70 คือการส่งออก ซึ่งร้อยละ 90 คือธุรกิจเอสเอ็มอี ร้อยละ 70 เป็นการเกษตรทั้งสิ้น ดังนั้นเราต้องสร้างการใช้จ่ายในประเทศ ปรับคุณภาพ ปรับนวัตกรรม ความต้องการต่างๆ ปรับต้นทุน สร้างโรงงานแปรรูป หาตลาดเพิ่ม

“ลืมหรือยังว่าผมเข้ามาทำงานกี่เดือนแล้ว เป็น คสช.มาตั้งแต่ 22 พ.ค. 2557 เป็นรัฐบาลในเดือน ก.ย. 2557 รวมแล้วปีกว่า แต่ปัญหาที่มีอยู่ทับซ้อนมาเป็นสิบปี แต่ผมก็ทำได้ในเวลาแค่ปีเดียว เป็นธรรมกับผมบ้างว่าอะไรที่ทำแล้ว อะไรที่ยังไม่ทำและอะไรที่กำลังทำอยู่ แค่นี้ยังหาไม่เจอผมพูดทุกวัน และการที่ต้องพูดมากในทุกๆ เรื่อง เพราะต้องการให้ทุกคนได้ฟังและรับรู้แต่ก็ยังไม่ฟังกัน ตนจึงต้องมาคาดหวังกับสื่อวันข้างหน้าก็อาจใช้วิธีการแจกเอกสารไปบ้าง เพราะสื่อเองก็คงจดไม่ทันเพราะตนเป็นคนพูดเร็ว สื่อบางคนจดไปก็ครบบ้างไม่ครบบ้าง อีกทั้งพื้นที่ข่าวก็มีไม่มาก สื่อก็เลือกแต่ประเด็นแรงๆไปนำเสนอ เนื้อหาสาระไม่ได้ใส่ลงไปทำให้เกิดความขัดแย้ง พวกสื่อไม่ได้ตั้งใจตนรู้ แต่วันนี้ก็ต้องช่วยตนในการสร้างการรับรู้ ส่วนอะไรที่เป็นปัญหาก็ต้องช่วยชี้แจงข้อเท็จจริง”

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ให้กำลังใจ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกระแสข่าวถูกปรับออกจาก ครม.บ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมก็ให้กำลังใจทุกคนนั่นแหละ ผมก็ให้มาตลอดทุกวันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมก็ให้กำลังใจ หรือจะต้องให้ไปลดกำลังใจคนอย่างนั้นหรือ ทำไม”

เมื่อถามว่าแต่การทำงานอาจจะเกิดความหวั่นไหวเพราะมีกระแสข่าวทุกวัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ท่านก็บอกแล้วนี่ว่าท่านก็พร้อม ฟังบ้างเวลาที่ท่านพูด ทุกคนเขาก็สุภาพบุรุษกันอยู่แล้วไม่ต้องกลัว ทุกคนเขารู้ดีว่าเข้ามาแล้วต้องเจอกับสถานการณ์อะไรบ้าง เขารับได้ทั้งหมด แต่ก็อย่าไปทำให้เขาเสียกำลังใจ คือปรับมันก็ต้องปรับ แต่ไม่ใช่ปรับเพราะเขาเลว ไม่ดี เขาไม่เก่ง มันไม่ใช่ แต่ในแง่ของปัญหาที่ทับซ้อนเยอะ แล้วกระบวนการประชาธิปไตยมันก็เร่งรัด นักการเมืองก็อยากให้เข้ามาเลือกตั้งเร็วๆ ต้องมองทั้งปัจจัยภายในและภายนอกทั้งในและนอกประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมันก็ดี

ผู้สื่อข่าวถามว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้จะมาพร้อมกับโผโยกย้ายนายทหารในเดือน ก.ย.นี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวย้อนถามว่า มันเกี่ยวอะไร พวกคุณไปเขียนอะไรขึ้นมา ตนยังไม่คิดสักคนว่าจะเอาใครจากกองทัพมา แค่นี้มันก็จะแย่อยู่แล้ว วันนี้กองทัพก็คือกองทัพ ทำไมจะต้องเอาคนนั้นคนนี้มา ไปเอาข่าวมาจากไหน เมื่อถามว่าแต่ในเดือน ก.ย.นี้จะมีทหารระดับสูงเกษียณอายุราชการหลายคน และมีข่าวว่าอาจมีการปรับรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ทำไม อ๋อเหรอ อือๆ ก็ผมไม่เปลี่ยนอะ ทำไม” เมื่อถามว่าจะมีการปรับในส่วนของ คสช.ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่มีๆ ทำไมต้องปรับ คสช.เป็นรัฐบาลหรือ คสช. เป็นอะไรมาจากการเลือกตั้งหรืออย่างไร ผมตั้งไปแล้วก็คือตั้งไปแล้ว มีแต่จะตั้งเพิ่ม ขอร้องว่าอย่าไปเขียนกันอีกกองทัพก็คือกองทัพ วันนี้เขาก็อยู่ของเขาอยู่แล้วทำหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรี ทหารเหล่านี้เขาหมดหน้าที่ก็เหมือนกับผมที่คิดไว้ว่าเเมื่อเกษียณอายุแล้วก็จะกลับไปอยู่บ้าน ถ้าไม่มีเรื่องผมก็ไม่มายืนให้เมื่อยอยู่แบบนี้ เขาก็คงไม่มีใครอยากจะมานักหรอก อย่าไปเขียนว่าพอเกษียณแล้วก็อยากจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ถามว่าผมต้องรับคนเข้ามาเยอะแยะเลยหรือ ถ้าผมบอกว่าไม่เอาใครเดี๋ยวก็จะมาเกลียดผม วันนี้เขามีหน้าที่เมื่อเกษียณเขาก็ยังมีหน้าที่อยู่ใน คสช.แล้วจะเอาอะไรอีก”

เมื่อถามย้ำอีกครั้งว่ามีรัฐมนตรีคนใดถอดใจยื่นใบลาออกบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนพูดมา 3 ครั้ง แล้ววันนี้มีใครส่งข่าวไปบอกสื่อบ้างหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มี นายสมหมาย ภาษี รมว.คลังก็บอกแล้วว่าเขาพร้อมออกแต่ก็พร้อมทำงานไปก่อน เขาไม่ได้ลาออก ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับ ครม.ต้องฟังจากปากนายกฯคนเดียวเพราะมีอำนาจตัดสินใจ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ใช่ แล้วทำไมต้องถามกันมากมาย “มันง่ายหรือเปล่า สั่งวันนี้แล้วพรุ่งนี้ออกหรือ มันไม่ได้ ต้องมาคัดเลือกตัวบุคคล ตรวจสอบคุณสมบัติ เรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ร่างประวัติและต้องนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำวันนี้จดรายชื่อ 15 คน 10 คน หรือ 9 คน แล้วใส่ลงไปพร้อมดึงคนใหม่เข้ามา มันไม่ใช่”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงอาการป่วยของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ลาป่วยหลายวันว่า อาการของ พล.อ.ประวิตรก็ดีขึ้น และคุยกับตนทุกวัน เพียงแต่เจ็บแขนก็เลยไม่สะดวก ออกกำลังกายมากไปอะไรไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ก็เจ็บขาด้วย ส่วนการปั่นจักรยานนั้นก่อนหน้านี้ท่านก็ขี่ แต่ตอนหลังท่านขี่ไม่ไหวเพราะทั้งน้ำหนักด้วย และอายุด้วย ต้องระวัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การให้สัมภาษณ์วันนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ใช้เวลากว่า 45 นาที เป็นที่น่าสังเกตว่ามีอารมณ์ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อถูกถามถึงเรื่องการปรับ ครม. พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามอย่างใจเย็น ผิดจากทุกครั้งที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเมื่อผู้สื่อข่าวหมดคำถาม พล.อ.ประยุทธ์ยังแกล้งยืนเพื่อขอพูดต่ออีก


กำลังโหลดความคิดเห็น