ครม.ไฟเขียว กฎหมายอ้าแขนรับ“ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ผ่านร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพิ่ม “สคบ.ท่องเที่ยว”คุ้มครองนักท่องเที่ยว เผยกฎหมายควบคุมให้ “บริษัททัวร์”โกงถึงคุก ต้องจ่ายเงินคืนนักท่องเที่ยว หากยกเลิกทัวร์ทุกกรณี
วันนี้(11 ส.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงว่า การปรับปรุงแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2550 ในส่วนอำนาจของคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ โดยเพิ่มให้มีผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) และผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ เป็นกรรมการ และแก้ไขตำแหน่งกรรมการจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว เป็นตำแหน่งอธิบดีกรมการท่องเที่ยว
ตลอดจนปรับปรุงวัตถุประสงค์ของกองทุนคุ้มครองธุรกิจนำเที่ยว, เพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ให้เข้าสู่มาตรฐานสากล เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย รวมถึงการควบคุมการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและการเป็นมัคคุเทศก์ให้มีมาตรฐานทัดเทียมนานาชาติ และสอดคล้องกับภารกิจของกรมการท่องเที่ยวในการพัฒนาผู้ประกอบการด้านธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์, แก้ไขการกำหนดหลักเกณฑ์และลักษณะต้องห้ามเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมทั้งผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ ให้เป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด,
เพิ่มเติมการจัดทำเอกสารโฆษณาหรือชี้ชวนเกี่ยวกับการนำเที่ยว ให้มีรายการกำหนดจำนวนมัคคุเทศก์หรือผู้นำเที่ยวด้วย, เพิ่มเติมการยกเลิกการเดินทางภายหลังการชำระค่าบริการแล้วให้รวมถึงเหตุกรณีการยกเลิกการเดินทางโดยมิใช่ความผิดของนักท่องเที่ยวหรือเหตุสุดวิสัยให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจ่ายเงินคืนให้แก่นักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่าอัตราตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด, แก้ไขเพิ่มเติมห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจัดบริการนำเที่ยวโดยไม่ได้รับค่าบริการหรือรับค่าบริการในอัตราที่เห็นได้ว่าไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนดให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ,
แก้ไขเพิ่มเติมให้นายทะเบียนมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ได้แก่ กรณีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดตามมาตรา 12(3) กรณีการก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวอย่างร้ายแรง เป็นต้น, แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ยังมิได้ชำระค่าธรรมเนียม ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและเงินเพิ่มตามวรรคสอง มาตรา 35 ให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวสิ้นสุด, กำหนดเหตุให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวสิ้นสุด ได้แก่ การไม่ชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามที่กำหนด, กำหนดโทษทางปกครองและโทษทางอาญา
สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1. กำหนดบทนิยาม “ธุรกิจนำเที่ยว” “นักท่องเที่ยว” “มัคคุเทศก์” “ผู้นำเที่ยว” “ค่าบริการ”“กองทุน”
2. แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์โดยเพิ่มให้มีผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ เป็นกรรมการ และแก้ไขตำแหน่งกรรมการจาก “ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว” เป็น “ตำแหน่งอธิบดีกรมการท่องเที่ยว”
3. แก้ไขการกำหนดหลักเกณฑ์และลักษณะต้องห้ามเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมทั้งผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ ให้เป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด
4. เพิ่มเติมการจัดทำเอกสารโฆษณาหรือชี้ชวนเกี่ยวกับการนำเที่ยว ให้มีรายการกำหนดจำนวนมัคคุเทศก์หรือผู้นำเที่ยวด้วย
5. เพิ่มเติมการยกเลิกการเดินทางภายหลังการชำระค่าบริการแล้วให้รวมถึงเหตุกรณีการยกเลิกการเดินทางโดยมิใช่ความผิดของนักท่องเที่ยวหรือเหตุสุดวิสัยให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจ่ายเงินคืนให้แก่นักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่าอัตราตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
6. แก้ไขเพิ่มเติมห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจัดบริการนำเที่ยวโดยไม่ได้รับค่าบริการหรือรับค่าบริการในอัตราที่เห็นได้ว่าไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนดให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
7. แก้ไขเพิ่มเติมให้นายทะเบียนมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ได้แก่ กรณีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดตามมาตรา 12 (3) กรณีการก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวอย่างร้ายแรง เป็นต้น
8. แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ยังมิได้ชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่ยวและเงินเพิ่มตามวรรคสอง มาตรา 35 ให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวสิ้นสุด.