กรมการท่องเที่ยวออกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตบริษัทนำเที่ยวเป็นเวลา 6 เดือน หลังพบมีการใช้คนจีนที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ และบังคับขายรายการนำเที่ยว หรือ option tour เพิ่มจนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนักท่องเที่ยว และมีอีก 25 บริษัทอยู่ระหว่างรอพิจารณา ชี้หากทำผิดซ้ำอีกใน 1 ปีมีสิทธิถูกเพิกถอนใบอนุญาต
นางสาววรรณสิริ โมรากุล รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กรมการท่องเที่ยวได้ออกคำสั่ง สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง เรื่องพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยวของบริษัททัวร์แห่งหนึ่งย่านเหม่งจ๋าย เป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา
เนื่องจากบริษัทดังกล่าวฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 30 และมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 โดยนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวจังหวัดชลบุรีระหว่างวันที่ 20 ถึง 25 กรกฎาคม 2558 ทั้งนี้ มีการใช้บุคคลชื่อว่า นายสกาย (ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง) ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่มีใบอนุญาต และปรากฏว่านายสกายพยายามเสนอขายรายการนำเที่ยว หรือ option tour เพิ่มเติมแก่นักท่องเที่ยวหลายครั้ง จนทำให้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนักท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่ประสงค์จะท่องเที่ยวตามรายการนำเที่ยวที่เสนอ
ดังนั้น นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลางจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 33 ประกอบมาตรา 45 (2) แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยว เป็นเวลา 6 เดือน และจะเข้มงวดในการตรวจจับผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนฯ หรือไกด์เถื่อน และจะมีการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ใช้บุคคลเหล่านี้อย่างเข้มงวด โดยได้ดำเนินงานร่วมกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ตรวจผู้มีพฤติกรรมเป็นไกด์เถื่อนสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
สำหรับปีงบประมาณ 2558 นี้ กรมการท่องเที่ยวได้มีการสั่งพักใช้ใบอนุญาตบริษัททัวร์ที่ใช้ไกด์เถื่อนแล้วเป็นจำนวน 4 บริษัท นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2558 จนถึงปัจจุบันสามารถจับกุมไกด์เถื่อนได้จำนวน 24 ราย แยกเป็นชาวจีน 11 ราย ชาวมาเลเซีย 2 ราย ชาวพม่า 1 ราย คนไทย 8 ราย และผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน 2 ราย โดยนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลางจะพิจารณาสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวของบริษัททัวร์อีกกว่า 20 บริษัท ซึ่งเป็นนายจ้างของไกด์เถื่อนเหล่านี้
ทั้งนี้ บริษัททัวร์ที่ถูกนายทะเบียนมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตแล้ว หากปรากฏว่าภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งได้กระทำความผิดขึ้นอีกไม่ว่าจะด้วยความผิดเดียวกัน หรือต่างกัน นายทะเบียนมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตได้ และห้ามมิให้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเป็นเวลา 5 ปี โดยอาศัยอำนาจมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551
รักษาการอธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าวต่อไปว่า กรมการท่องเที่ยวจะเข้มงวดดูแลกรณีที่เกิดขึ้นในลักษณะเช่นนี้อย่างเข้มข้น เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากบริษัททัวร์หลายแห่งโดยเฉพาะบริษัททัวร์ที่รับลูกค้าชาวจีนจะทำทัวร์ในลักษณะทัวร์ต่ำกว่าทุน หรือที่เรียกว่า “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” และเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย บริษัททัวร์และไกด์เถื่อนจะพยายามขาย Option Tour ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน หรือบางคณะทัวร์อาจถูกบังคับขาย Option Tour ซึ่งหากกรมการท่องเที่ยวพบว่ามีการดำเนินการเช่นนี้ก็จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
นางสาววรรณสิริ โมรากุล รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กรมการท่องเที่ยวได้ออกคำสั่ง สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง เรื่องพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยวของบริษัททัวร์แห่งหนึ่งย่านเหม่งจ๋าย เป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา
เนื่องจากบริษัทดังกล่าวฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 30 และมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 โดยนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวจังหวัดชลบุรีระหว่างวันที่ 20 ถึง 25 กรกฎาคม 2558 ทั้งนี้ มีการใช้บุคคลชื่อว่า นายสกาย (ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง) ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่มีใบอนุญาต และปรากฏว่านายสกายพยายามเสนอขายรายการนำเที่ยว หรือ option tour เพิ่มเติมแก่นักท่องเที่ยวหลายครั้ง จนทำให้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนักท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่ประสงค์จะท่องเที่ยวตามรายการนำเที่ยวที่เสนอ
ดังนั้น นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลางจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 33 ประกอบมาตรา 45 (2) แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยว เป็นเวลา 6 เดือน และจะเข้มงวดในการตรวจจับผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนฯ หรือไกด์เถื่อน และจะมีการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ใช้บุคคลเหล่านี้อย่างเข้มงวด โดยได้ดำเนินงานร่วมกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ตรวจผู้มีพฤติกรรมเป็นไกด์เถื่อนสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
สำหรับปีงบประมาณ 2558 นี้ กรมการท่องเที่ยวได้มีการสั่งพักใช้ใบอนุญาตบริษัททัวร์ที่ใช้ไกด์เถื่อนแล้วเป็นจำนวน 4 บริษัท นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2558 จนถึงปัจจุบันสามารถจับกุมไกด์เถื่อนได้จำนวน 24 ราย แยกเป็นชาวจีน 11 ราย ชาวมาเลเซีย 2 ราย ชาวพม่า 1 ราย คนไทย 8 ราย และผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน 2 ราย โดยนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลางจะพิจารณาสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวของบริษัททัวร์อีกกว่า 20 บริษัท ซึ่งเป็นนายจ้างของไกด์เถื่อนเหล่านี้
ทั้งนี้ บริษัททัวร์ที่ถูกนายทะเบียนมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตแล้ว หากปรากฏว่าภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งได้กระทำความผิดขึ้นอีกไม่ว่าจะด้วยความผิดเดียวกัน หรือต่างกัน นายทะเบียนมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตได้ และห้ามมิให้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเป็นเวลา 5 ปี โดยอาศัยอำนาจมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551
รักษาการอธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าวต่อไปว่า กรมการท่องเที่ยวจะเข้มงวดดูแลกรณีที่เกิดขึ้นในลักษณะเช่นนี้อย่างเข้มข้น เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากบริษัททัวร์หลายแห่งโดยเฉพาะบริษัททัวร์ที่รับลูกค้าชาวจีนจะทำทัวร์ในลักษณะทัวร์ต่ำกว่าทุน หรือที่เรียกว่า “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” และเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย บริษัททัวร์และไกด์เถื่อนจะพยายามขาย Option Tour ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน หรือบางคณะทัวร์อาจถูกบังคับขาย Option Tour ซึ่งหากกรมการท่องเที่ยวพบว่ามีการดำเนินการเช่นนี้ก็จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป