xs
xsm
sm
md
lg

ลูกทัวร์บริษัทดังพะเยาแห่ร้อง สคบ.-เปิดเวทีจี้คดีถูกหลอกซื้อตั๋วเที่ยวนอกแล้วลอยแพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พะเยา - กลุ่มลูกค้าบริษัททัวร์ดังเมืองกว๊านพะเยารวมตัวร้อง สคบ.ซ้ำ พร้อมเปิดเวทีตามจี้ความคืบหน้าคดีถูกหลอกซื้อตั๋วทัวร์ต่างประเทศ แต่พอถึงเวลานัดกลับถูกลอยแพสูญเงินกันเป็นสิบล้าน โวยลั่นทั้งแจ้งความ-ร้องเรียนมาเป็นปี คดีไม่มีคืบ แถมจับใครยังไม่ได้อีก

วันนี้ (25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียหายกว่า 60 คน ใน 164 คน ที่ถูกห้างหุ้นส่วนจำกัดนภิสทัวร์ หลอกขายทัวร์สูญไปนับ 10 ล้านบาท แต่ผ่านมาแล้ว 1 ปีคดียังไม่คืบและยังไม่สามารถติดตามจับกุมเจ้าของบริษัทได้ รวมตัวกันเข้าร้องเรียน และเปิดเวทีติดตามคดีกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดพะเยา

นายสมาน ขันกฤษณ์ ประธานชมรมข้าราชการครูบำนาญ อ.เมืองพะเยา ระบุว่า กลุ่มของตนเองจำนวนกว่า 60 คนจะเดินทางไปเที่ยวสิบสองปันนา และมีการมัดจำเงินกับบริษัทดังกล่าวไปแล้วจำนวนกว่า 300,000 บาท แต่พอถึงเวลากลับไม่ได้เดินทางตามที่นัดหมายไว้ และมีการแจ้งความดำเนินคดีมากว่า 1 ปีแล้ว แต่จนถึงขณะนี้คดีไม่คืบหน้า ไม่สามารถที่จะจับตัวผู้ที่ทำการยักยอกเงินผู้เสียหายได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เร่งด่วนด้วย

ทั้งนี้ ห้างหุ้นส่วนจำกัดนภิสทัวร์ ที่มีนางสาวรมย์ชลี รุ่งมงคลเกียรติ และนายกิตติทัศน์ รุ่งมงคลเกียรติ เป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ชื่อดังของพะเยา ถูกลูกทัวร์ทั้งคณะสงฆ์, ครู, พยาบาล และชาวบ้านในพะเยา กับจังหวัดใกล้เคียง แจ้งความดำเนินคดี-ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระหว่าง 1 เม.ย.-8 พ.ค. 57 เนื่องจากที่ซื้อทัวร์เป็นกลุ่มเพื่อที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น สิบสองปันนา และยุโรป แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายกลับถูกลอยแพ ไม่สามารถเดินทางได้

เมื่อตรวจสอบไปที่บริษัททัวร์ก็ถูกปิดอาคาร และหลบหนีไป เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายกว่า 164 คน มูลค่าความเสียหายนับ 10 ล้านบาท และมีการแจ้งความดำเนินคดีมาจนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 1 ปี แต่คดียังไม่มีความคืบหน้าไม่สามารถจับกุมผู้ประกอบการดังกล่าวได้เลย

นอกจากนี้ กลุ่มผู้เสียหายยังยื่นข้อเรียกร้องให้สำนักงานการท่องเที่ยว ประสานกับกรมการท่องเที่ยว เพื่อดำเนินการหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ รวมทั้งมีมาตรการในการป้องกันและเยียวยาผู้เสียหายที่ชัดเจน พร้อมกับให้สถานีตำรวจภูธรเมืองพะเยาเร่งดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาในพื้นที่มาลงโทษอย่างจริงจัง และให้ประสานกับตำรวจทุกภาคส่วน เพื่อติดตามตัวทั้งสองมาดำเนินคดี

พร้อมกับให้สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดพะเยา ในฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่โดยตรงในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ต้องเป็นองค์กรหลักในการประสานการช่วยเหลือ

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพะเยาเร่งติดตามความชัดเจนเรื่องกองทุนการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเงินกองทุนยุติธรรม เพื่อมาดำเนินการช่วยเหลือผู้เสียหายและเรียกร้องให้สภาทนายความดำเนินคดีแห้งกับเจ้าของบริษัทดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน

ขณะที่นายอภิเชษฐ์ วรรณโกฏฐ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดพะเยา ระบุว่า ขณะนี้ทางสภาทนายความฯ รับเป็นตัวแทนที่จะฟ้องแพ่งให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยจะไม่มีการเสียค่าธรรมเนียมศาลและอากรใดๆ และจะจัดหาทนายเพื่อช่วยเหลือคดีนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านจริงๆ ในส่วนของคดีอาญานั้นตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งคดีให้ทางอัยการแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น