“ประวิตร” เผยนัดทุกเหล่าทัพส่งโผทหาร 15 ส.ค. ชี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก ยันนายกฯ ไม่ยุ่ง เชื่อ ผบ.ทบ.ใหม่ไม่ถึงขั้นโหวต รับยังไม่มีชื่อในใจ พร้อมนั่ง ปธ.ประชุมเขต ศก.พิเศษ มอบ “สภาพัฒน์-บีโอไอ-มท.” กำหนดความชัดเจน ปัดข้อเสนอ “หม่อมอุ๋ย” อ้างเป็นเรื่องบริหารไม่ยุ่ง สั่งเร่งแก้ปัญหา ICAO ให้ชัดเจน สัปดาห์หน้าคุยซ้ำ แย้มเอี่ยว ตปท.ไม่ใช้ ม.44
วันนี้ (11 ส.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 ว่า ได้นัดทุกเหล่าทัพให้ส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ และหลังจากนั้นตนจะนัดหมายเพื่อกำหนดวันประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลที่มีด้วยกัน 7 คน โดยมีตนเป็นประธาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ โดยทาง พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลจะเป็นผู้รวบรวมบัญชีรายชื่อทั้งหมดก่อนจะนัดวันประชุม เรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก โดยทางนายกรัฐมนตรีได้บอกว่าท่านจะไม่เข้ามายุ่ง ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนที่จะพิจารณากันในคณะกรรมการ ส่วนตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรต้องหนักใจจนถึงขั้นต้องโหวต
เมื่อถามว่า ระหว่าง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผช.ผบ.ทบ.คนที่ 1 และ. พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผช.ผบ.ทบ.คนที่ 2 ใครเหมาะสม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ใครก็ได้ทั้งนั้น แต่ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด นายกรัฐมนตรีก็บอกไว้แล้วว่าต้องพิจารณาถึงความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ความไว้วางใจ ความซื่อสัตย์ ตลอดจนผลงานที่ผ่านมาของแต่ละคนซึ่งก็ใกล้เคียงกันหมด เราต้องดูว่าใครเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และขณะตนยังไม่มีชื่อของ ผบ.ทบ.คนใหม่อยู่ในใจ และยังไม่เห็นบัญชีรายชื่อการปรับย้ายนายทหารประจำปี
ด้าน พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ในส่วนของรายชื่อการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2558 ของกองทัพเรือได้ส่งไปแล้ว ขอให้เชื่อใจ พล.อ.ประวิตร โดยการพิจารณาเน้นที่ความรู้ความสามารถ เลือกคนที่ดีที่สุด พล.อ.ประวิตรท่านสุดยอดอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษว่า ในที่ประชุมมีการพูดคุยกันถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยตนมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปหารือกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในประเด็นข้อเสนอคาสเตอร์ศักยภาพที่จะพัฒนาในระยะแรก ทั้งเรื่องยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์ แปรรูปอาหาร ยางพารา ไอที และอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยจะไปกำหนดให้มีความชัดเจนในแต่ละพื้นที่ เพื่อมาเสนอในที่ประชุมอีกครั้งสัปดาห์หน้า นอกจากนี้จะต้องดูประเด็นที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดผังเมืองเอาไว้ว่าตรงกันหรือไม่ รวมทั้งเรื่องสิทธิประโยชน์ว่าตรงไหนจะให้สิทธิประโยชน์ได้บ้าง โดยจะเอาไปเปรียบเทียบกับต่างประเทศอีกด้วย
เมื่อถามถึงอุปสรรคการดำเนินการ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อาจจะเป็นเรื่องการประสานงาน แต่ทางบีโอไอ สภาพัฒน์ และกระทรวงมหาดไทยจะไปพูดคุยกันให้เกิดความชัดเจน โดยมีคณะกรรมการฯของตนเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ถ้าพบว่าติดปัญหาใดเราจะรีบดำเนินการ จากนั้นจะรายงานให้นายกฯรับทราบต่อไป อย่างไรก็ตามเราจะทำให้เร็วที่สุด และให้เสร็จภายในปีนี้
เมื่อถามว่าได้นำเอาข้อสังเกตของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ มาปรับให้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “คงไม่ เพราะเป็นคนละประเด็นกัน ประเด็นของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเป็นเรื่องของการบริหาร ผมไม่ยุ่งเกี่ยว และไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ เพียงแต่ว่าหน้าที่ผมจะดูว่าอะไรที่ติดขัดก็ให้หน่วยงานต่างๆ มาประสานงานกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจน”
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวภายหลังการประชุมการดำเนินตามพันธกรณีระหว่างประเทศในประเด็นผลการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินจากองค์กรการบินระหว่างประเทศว่า ในวันนี้ตนอยากให้เร่งรัดให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น โดยมอบหมายให้กรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม ร่วมหารือกับกองทัพอากาศ ส่วนจำเป็นต้องใช้คำสั่งอะไรหรือไม่ ตนคิดว่าต้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหารือกันอยู่ พิจารณาว่าบางเรื่องก้าวหน้าอย่างไร และบางเรื่องก้าวหน้าไม่ได้ตรงไหน แล้วจำเป็นต้องมีที่ปรึกษาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เราอยากให้เกิดความชัดเจนเพื่อให้องค์กรการบินระหว่างประเทศเกิดความมั่นใจว่าเราจริงจังในการแก้ไขปัญหา พร้อมกันนี้สัปดาห์หน้าจะมีการพุดคุยกันอีกครั้ง
เมื่อถามว่าจะใช้มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ถ้าจำเป็นก็ใช้ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ใช้ หากเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้”