ASTVผู้จัดการรายวัน - "บิ๊กป้อม" เรียก"บิ๊กโด่ง" หารือโผทหาร โดยเฉพาะตำแหน่ง ผบ.ทบ. ส่งสัญญาณหนุน "ธีรชัย" ขึ้นแท่น อ้างถ้าตั้ง "ปรีชา" เจอกระแสโจมตีรัฐบาล อ่วมแน่
หลังจากมีกระแสข่าวการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 แทนนายทหารที่เกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.58 จำนวน 466 นายโดยมีนายทหารระดับสูงเกษียณหลายราย อาทิ พล.อ.พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ไพชยนต์ ค้าทันเจริญ พล.อ.วิชิต ศรีประเสริฐ พล.ร.อ.ชุมนุม อาจวงษ์ พล.อ.อ.ทรงธรรม โชคคณาพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.วุฒินันท์ ลีลายุทธ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา พล.ร.อ.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ พล.อ.อ.พลเทพ โหมดสุวรรณ รอง ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.
รวมทั้ง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิช ผบ.ทร. พล.ร.อ.พจนา เผือกผ่อง รอง ผบ.ทร. พล.ร.อ.อภิชัย อมตยากุล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ พล.ร.อ.ชัยณรงค์ เจริญรักษ์ หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา พล.ร.อ.อธิคมน์ ภมรสูต ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ พล.ร.อ.พิจารณ์ ธีรเนตร ผบ.กองเรือยุทธการ พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธุ์ รองผบ.ทอ.และพล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ
ทั้งนี้ มีนายทหารที่น่าจับตามองในตำแหน่ง ผบ.ทบ. คนที่ 39 ต่อจาก พล.อ.อุดมเดช โดยเฉพาะคู่แคนดิเดต อย่าง“บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ที่เป็นน้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ขณะที่ “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วย ผบ.ทบ. น้องเลิฟ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่มีโอกาสด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้มีการหยิบยกนายทหารทั้งสองรายขึ้นมาพิจารณากันถึงความเหมาะสม ซึ่ง พล.อ.อุดมเดช จะสนับสนุนใครนั้น ขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสม รวมถึงการยอมรับของผู้ใต้บังคับบัญชาอีกด้วย ก่อนจะเสนอต่อ รมว.กลาโหม เพื่อนำรายชื่อนายทหารระดับสูง เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณานายทหารชั้นนายพล ระดับกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นประธานฯ ก่อนจะได้ข้อสรุปเป็นเอกฉันท์ และเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ
ล่าสุดมีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ได้หารือกับ พล.อ.อุดมเดช ขอให้พิจารณา พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เนื่องจากมีความสามารถสูง เหมาะสมหลายประการ ที่สำคัญผ่านการคุมกำลังมาอย่างโชกโชน และเป็นนายทหารบูรพาพยัคฆ์ด้วยกัน จึงขอให้ ผบ.ทบ. นำไปเป็นข้อคิดเห็นประกอบการพิจารณาในครั้งนี้ด้วย
ส่วน พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ถึงแม้จะเป็นน้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ก็ตาม แต่หากได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ.ในครั้งนี้ ก็อาจจะถูกตำหนิจากสังคมภายนอกว่า นายกรัฐมนตรี เลือกที่จะเอาน้องชายขึ้นสืบทอดอำนาจในกองทัพบก และเป็นประวัติศาสตร์กองทัพบกที่ว่า มีพี่น้องตระกูล“จันทร์โอชา”ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก ทั้งคู่ อีกทั้งเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ตำแหน่ง ผบ.ทบ. เป็นกำลังหลักในการสนับสนุนรัฐบาลให้เกิดความสงบเรียบร้อยในประเทศได้ เพื่อให้รัฐบาลสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นายกรัฐมนตรี ต้องให้น้องชายตนเองขึ้นเป็น ผบ.ทบ.
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการแต่งตั้ง ผบ.ทบ.ในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องปฎิบัติตามนโยบายของรัฐบาล จึงเป็นไปได้ว่าหาก พล.อ.ธีรชัย ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ. จากการผลักดันของ รมว.กลาโหม พล.อ.ปรีชา ก็จะได้รับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อลดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมที่จ้องโจมตีการทำงานของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ รมว.กลาโหม จะได้นัด ผบ.เหล่าทัพ หารือในการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 ในเดือนก.ค.นี้
หลังจากมีกระแสข่าวการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 แทนนายทหารที่เกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.58 จำนวน 466 นายโดยมีนายทหารระดับสูงเกษียณหลายราย อาทิ พล.อ.พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ไพชยนต์ ค้าทันเจริญ พล.อ.วิชิต ศรีประเสริฐ พล.ร.อ.ชุมนุม อาจวงษ์ พล.อ.อ.ทรงธรรม โชคคณาพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.วุฒินันท์ ลีลายุทธ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา พล.ร.อ.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ พล.อ.อ.พลเทพ โหมดสุวรรณ รอง ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.
รวมทั้ง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิช ผบ.ทร. พล.ร.อ.พจนา เผือกผ่อง รอง ผบ.ทร. พล.ร.อ.อภิชัย อมตยากุล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ พล.ร.อ.ชัยณรงค์ เจริญรักษ์ หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา พล.ร.อ.อธิคมน์ ภมรสูต ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ พล.ร.อ.พิจารณ์ ธีรเนตร ผบ.กองเรือยุทธการ พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธุ์ รองผบ.ทอ.และพล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ
ทั้งนี้ มีนายทหารที่น่าจับตามองในตำแหน่ง ผบ.ทบ. คนที่ 39 ต่อจาก พล.อ.อุดมเดช โดยเฉพาะคู่แคนดิเดต อย่าง“บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ที่เป็นน้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ขณะที่ “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วย ผบ.ทบ. น้องเลิฟ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่มีโอกาสด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้มีการหยิบยกนายทหารทั้งสองรายขึ้นมาพิจารณากันถึงความเหมาะสม ซึ่ง พล.อ.อุดมเดช จะสนับสนุนใครนั้น ขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสม รวมถึงการยอมรับของผู้ใต้บังคับบัญชาอีกด้วย ก่อนจะเสนอต่อ รมว.กลาโหม เพื่อนำรายชื่อนายทหารระดับสูง เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณานายทหารชั้นนายพล ระดับกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นประธานฯ ก่อนจะได้ข้อสรุปเป็นเอกฉันท์ และเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ
ล่าสุดมีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ได้หารือกับ พล.อ.อุดมเดช ขอให้พิจารณา พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เนื่องจากมีความสามารถสูง เหมาะสมหลายประการ ที่สำคัญผ่านการคุมกำลังมาอย่างโชกโชน และเป็นนายทหารบูรพาพยัคฆ์ด้วยกัน จึงขอให้ ผบ.ทบ. นำไปเป็นข้อคิดเห็นประกอบการพิจารณาในครั้งนี้ด้วย
ส่วน พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ถึงแม้จะเป็นน้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ก็ตาม แต่หากได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ.ในครั้งนี้ ก็อาจจะถูกตำหนิจากสังคมภายนอกว่า นายกรัฐมนตรี เลือกที่จะเอาน้องชายขึ้นสืบทอดอำนาจในกองทัพบก และเป็นประวัติศาสตร์กองทัพบกที่ว่า มีพี่น้องตระกูล“จันทร์โอชา”ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก ทั้งคู่ อีกทั้งเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ตำแหน่ง ผบ.ทบ. เป็นกำลังหลักในการสนับสนุนรัฐบาลให้เกิดความสงบเรียบร้อยในประเทศได้ เพื่อให้รัฐบาลสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นายกรัฐมนตรี ต้องให้น้องชายตนเองขึ้นเป็น ผบ.ทบ.
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการแต่งตั้ง ผบ.ทบ.ในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องปฎิบัติตามนโยบายของรัฐบาล จึงเป็นไปได้ว่าหาก พล.อ.ธีรชัย ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ. จากการผลักดันของ รมว.กลาโหม พล.อ.ปรีชา ก็จะได้รับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อลดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมที่จ้องโจมตีการทำงานของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ รมว.กลาโหม จะได้นัด ผบ.เหล่าทัพ หารือในการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 ในเดือนก.ค.นี้