เมื่อเวลา 16.30 น. วานนี้ (24 มี.ค.) ที่อาคารรับรอง เกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการประกาศบัญชีรายชื่อนายทหารระดับชั้นนายพล ช่วงกลางปี 2558 ว่า ใกล้จะประกาศแล้วในเร็วๆ นี้ ทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งในกองทัพเรือ จนมีการปรับเปลี่ยนระดับ 5 เสือของกองทัพเรือช่วงกลางปีนั้น ตนจำรายชื่อทั้งหมดไม่ได้ เพราะมีหลายรายชื่อ แต่จำนวนไม่มากนัก เนื่องจากเป็นการปรับย้ายช่วงกลางปี โดยหลักการพิจารณาเป็นไปตามความเหมาะสม ความอาวุโส และความรู้ความสามารถ ตนในฐานะ รมว.กลาโหม ไม่ได้ไปก้าวก่าย และปล่อยเป็นเรื่องของ ผบ.เหล่าทัพที่จะประชุมกันเอง เมื่อได้รายชื่อทั้งหมด จึงนำมาสู่การพิจารณาในภาพรวมของคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม 7 คน
"ผมไม่สามารถบอกได้ว่ามีการปรับย้ายหรือไม่ จะบอกได้ก็ต่อเมื่อมีการประกาศก่อน แต่ทุกอย่างทำตามขั้นตอน และเป็นเรื่องของ ผบ.เหล่าทัพ ผมไม่กล้าบอก เพราะกลัวผิด ส่วนของกองทัพบก ผมก็จำไม่ได้ ต้องไปถาม ผบ.ทบ." พล.อ.ประวิตร กล่าว
**เผยเปอร์เซ็นสูงทร. มีเรือดำน้ำ
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ ที่กองทัพเรือจะจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการ ว่า เราต้องมีเรือดำน้ำ เพราะมีความจำเป็น อีกทั้งประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศเวียดนามก็มีหมดแล้ว ซึ่งกองทัพเรือจะใช้งบประมาณในส่วนของตนเองในการจัดซื้อ โดยเป็นการผูกพันงบประมาณ 4-5 ปี ทั้งนี้ตนไม่สามารถตอบได้ว่าเรือดำน้ำของประเทศใดเหมาะสมกับไทย เพราะตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของกองทัพเรือ ที่จะตั้งคณะกรรมการพิจารณา แม้กระทั่ง ผบ.ทร. ก็ตกลงใจเองไม่ได้ เนื่องจากต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ เพราะหาก ผบ.ทร.ตัดสินใจผิดพลาด ก็จะ ย้อนกลับมาหาผบ.ทร.เอง แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็จะถูกตรวจสอบ เพราะฉะนั้นทุกอย่างจึงต้องทำตามขั้นตอนให้เกิดความโปร่งใสที่สุด และเมื่อตนยืนอยู่ตรงนี้ ทุกอย่างก็ต้องโปร่งใส
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ ที่จะได้รับการอนุมัติในรัฐบาลชุดนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นได้ แต่ไม่สามารถเจาะจงได้ว่า จะใช้งบประมาณของปีใด ทั้งนี้ นายกฯจะไม่ลงมาดูรายละเอียด เพราะแผนพัฒนากองทัพแต่ละกองทัพจะทำขึ้นมาเอง โดยตนในฐานะ รมว.กลาโหม จะเป็นผู้ดูรายละเอียด แต่ตนจะไประบุไม่ได้ว่ากี่เปอร์เซ็น แต่เมื่อบอกว่ามีโอกาสได้ ก็ต้องเกิน 50 -60 เปอร์เซ็นขึ้นไป เมื่อมีโอกาสต้องมากกว่าครึ่ง
**แหวกประเพณีปรับย้าย 5 เสือทร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประเดือนเม.ย.58 ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ภายในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารกลางปี ส่วนใหญ่เป็นการปรับย้ายให้กับนายทหารที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนก.ย.นี้ ให้มีตำแหน่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพบก ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกันหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะในตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. แต่สุดท้าย พล.อ.อุดมเดช สีบุตร รมช.กลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารบก ได้หารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แล้ว โดยเห็นพ้องต้องกันว่า จะยังไม่มีการขยับตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. ในการปรับย้ายกลางเดือนเม.ย. นี้
สำหรับในส่วนของกองทัพเรือค่อนข้างที่จะฮือฮากับการตัดสินใจปรับเปลี่ยนตำแหน่ง 5 เสือทร. ของ พล.ร.อ.ไกรสรณ์ จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) โดยจะมีการปรับพล.ร.อ.ธนะรัชต์ อุบล เสนาธิการทหารเรือ ซึ่งเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่นที่ 13 ของพล.ร.อ.ไกรสรณ์ และขยับให้ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ มาเป็น เสนาธิการทหารเรือแทน และมีการขยับให้ พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเป็นน้องชาย พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง อดีต รอง ผบ.สส. มาดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งการปรับเปลี่ยนในตำแหน่งดังกล่าว พล.ร.อ.ไกรสรณ์ ต้องการที่จะให้มีการขยับในตำแหน่ง 5 เสือทร. เพื่อรองรับการปรับย้ายนายทหารปลายเดือน ก.ย.นี้ เนื่องจากในส่วนของกองทัพเรือ จะมีการเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง 5 เสือทร. คือตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ รองผู้บัญชาการทหารเรือ และ ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ
ส่วนที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งในกองทัพเรือ จนมีการปรับเปลี่ยนระดับ 5 เสือของกองทัพเรือช่วงกลางปีนั้น ตนจำรายชื่อทั้งหมดไม่ได้ เพราะมีหลายรายชื่อ แต่จำนวนไม่มากนัก เนื่องจากเป็นการปรับย้ายช่วงกลางปี โดยหลักการพิจารณาเป็นไปตามความเหมาะสม ความอาวุโส และความรู้ความสามารถ ตนในฐานะ รมว.กลาโหม ไม่ได้ไปก้าวก่าย และปล่อยเป็นเรื่องของ ผบ.เหล่าทัพที่จะประชุมกันเอง เมื่อได้รายชื่อทั้งหมด จึงนำมาสู่การพิจารณาในภาพรวมของคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม 7 คน
"ผมไม่สามารถบอกได้ว่ามีการปรับย้ายหรือไม่ จะบอกได้ก็ต่อเมื่อมีการประกาศก่อน แต่ทุกอย่างทำตามขั้นตอน และเป็นเรื่องของ ผบ.เหล่าทัพ ผมไม่กล้าบอก เพราะกลัวผิด ส่วนของกองทัพบก ผมก็จำไม่ได้ ต้องไปถาม ผบ.ทบ." พล.อ.ประวิตร กล่าว
**เผยเปอร์เซ็นสูงทร. มีเรือดำน้ำ
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ ที่กองทัพเรือจะจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการ ว่า เราต้องมีเรือดำน้ำ เพราะมีความจำเป็น อีกทั้งประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศเวียดนามก็มีหมดแล้ว ซึ่งกองทัพเรือจะใช้งบประมาณในส่วนของตนเองในการจัดซื้อ โดยเป็นการผูกพันงบประมาณ 4-5 ปี ทั้งนี้ตนไม่สามารถตอบได้ว่าเรือดำน้ำของประเทศใดเหมาะสมกับไทย เพราะตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของกองทัพเรือ ที่จะตั้งคณะกรรมการพิจารณา แม้กระทั่ง ผบ.ทร. ก็ตกลงใจเองไม่ได้ เนื่องจากต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ เพราะหาก ผบ.ทร.ตัดสินใจผิดพลาด ก็จะ ย้อนกลับมาหาผบ.ทร.เอง แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็จะถูกตรวจสอบ เพราะฉะนั้นทุกอย่างจึงต้องทำตามขั้นตอนให้เกิดความโปร่งใสที่สุด และเมื่อตนยืนอยู่ตรงนี้ ทุกอย่างก็ต้องโปร่งใส
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ ที่จะได้รับการอนุมัติในรัฐบาลชุดนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นได้ แต่ไม่สามารถเจาะจงได้ว่า จะใช้งบประมาณของปีใด ทั้งนี้ นายกฯจะไม่ลงมาดูรายละเอียด เพราะแผนพัฒนากองทัพแต่ละกองทัพจะทำขึ้นมาเอง โดยตนในฐานะ รมว.กลาโหม จะเป็นผู้ดูรายละเอียด แต่ตนจะไประบุไม่ได้ว่ากี่เปอร์เซ็น แต่เมื่อบอกว่ามีโอกาสได้ ก็ต้องเกิน 50 -60 เปอร์เซ็นขึ้นไป เมื่อมีโอกาสต้องมากกว่าครึ่ง
**แหวกประเพณีปรับย้าย 5 เสือทร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประเดือนเม.ย.58 ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ภายในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารกลางปี ส่วนใหญ่เป็นการปรับย้ายให้กับนายทหารที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนก.ย.นี้ ให้มีตำแหน่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพบก ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกันหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะในตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. แต่สุดท้าย พล.อ.อุดมเดช สีบุตร รมช.กลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารบก ได้หารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แล้ว โดยเห็นพ้องต้องกันว่า จะยังไม่มีการขยับตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. ในการปรับย้ายกลางเดือนเม.ย. นี้
สำหรับในส่วนของกองทัพเรือค่อนข้างที่จะฮือฮากับการตัดสินใจปรับเปลี่ยนตำแหน่ง 5 เสือทร. ของ พล.ร.อ.ไกรสรณ์ จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) โดยจะมีการปรับพล.ร.อ.ธนะรัชต์ อุบล เสนาธิการทหารเรือ ซึ่งเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่นที่ 13 ของพล.ร.อ.ไกรสรณ์ และขยับให้ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ มาเป็น เสนาธิการทหารเรือแทน และมีการขยับให้ พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเป็นน้องชาย พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง อดีต รอง ผบ.สส. มาดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งการปรับเปลี่ยนในตำแหน่งดังกล่าว พล.ร.อ.ไกรสรณ์ ต้องการที่จะให้มีการขยับในตำแหน่ง 5 เสือทร. เพื่อรองรับการปรับย้ายนายทหารปลายเดือน ก.ย.นี้ เนื่องจากในส่วนของกองทัพเรือ จะมีการเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง 5 เสือทร. คือตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ รองผู้บัญชาการทหารเรือ และ ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ