รองนายกฯ - รมว.กลาโหม ถกอนุคณะ กก. ยุทธศาสตร์ คสช. 7 ด้าน สรุปผลปฏิบัติงาน เตรียมเสนอนายกฯ เร็วๆ นี้ ยังไม่กำหนดวันรัฐบาลแถลงผลงาน 6 เดือน ปัดตอบ “ประยุทธ์” อาจเจอ “ทักษิณ” ที่สิงคโปร์ เผยโผทหารนายพลกลางปี 58 ใกล้คลอด ยันเรียบร้อยดี ปัดตอบทัพเรือขัดแย้ง ปรับย้าย 5 เสือใหม่ แย้มเปอร์เซ็นต์สูงมีเรือดำน้ำใช้ ระบุเวียดนามมีแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับทัพเรือพิจารณา
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่อาคารรับรอง เกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการยุทธศาสตร์ของ คสช. ทั้ง 7 คณะ ว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อสรุปงานด้านการขับเคลื่อนของคณะอนุกรรมการยุทธศาสตร์ของ คสช. ทั้ง 7 คณะ เพื่อสนับสนุนงานรัฐบาลให้เดินไปข้างหน้า โดยได้ดูข้อติดขัดในการทำงาน เช่น ด้านเศรษฐกิจและคมนาคม เป็นต้น โดยคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 7 คณะ ได้ชี้แจงที่ประชุมและจะสรุปเพื่อเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ต่อไป โดยข้อสรุปดังกล่าวยังไม่ใช่ข้อยุติ แต่เป็นข้อเสนอแนะด้านต่างๆ เช่น มาตรการการช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯจะรวบรวมให้ตนลงนามก่อนเสนอนายกฯ ในเร็วๆ นี้
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลเลื่อนวันแถลงผลงานครบรอบ 6 เดือน ว่า ไม่ใช่เป็นการเลื่อน เพราะไม่มีสาเหตุในการเลื่อน เพียงแต่ยังไม่ได้กำหนดวันและเวลาที่ชัดเจน อีกทั้งในช่วงเวลาดังกล่าวติดกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงต้องขยับปรับวัน เพื่อให้เกิดความชัดเจน
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางเยือนสิงคโปร์จะมีความเป็นไปได้ที่จะพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ไป ดังนั้นต้องไปถามนายกฯ เพราะตอบแทนนายกฯ ไม่ได้
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงความคืบหน้าการประกาศบัญชีรายชื่อนายทหารระดับชั้นนายพลช่วงกลางปี 2558 ว่า ใกล้จะประกาศแล้วในเร็วๆ นี้ ทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งในกองทัพเรือจนมีการปรับเปลี่ยนระดับ 5 เสือของกองทัพเรือช่วงกลางปีนั้น ตนจำรายชื่อทั้งหมดไม่ได้ เพราะมีหลายรายชื่อ แต่จำนวนไม่มากนักเนื่องจากเป็นการปรับย้ายช่วงกลางปี โดยหลักการพิจารณาเป็นไปตามความเหมาะสม ความอาวุโส และความรู้ความสามารถ ตนในฐานะ รมว.กลาโหมไม่ได้ไปก้าวก่าย และปล่อยเป็นเรื่องของ ผบ.เหล่าทัพที่จะประชุมกันเอง เมื่อได้รายชื่อทั้งหมดจึงนำมาสู่การพิจารณาในภาพรวมของคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม 7 คน
“ผมไม่สามารถบอกได้ว่ามีการปรับย้ายหรือไม่ จะบอกได้ก็ต่อเมื่อมีการประกาศก่อน แต่ทุกอย่างทำตามขั้นตอนและเป็นเรื่องของ ผบ. เหล่าทัพ ผมไม่กล้าบอกเพราะกลัวผิด ส่วนของกองทัพบกผมก็จำไม่ได้ ต้องไปถาม ผบ.ทบ.” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่กองทัพเรือจะจัดหาเรือดำเข้าประจำการ ว่า เราต้องมีเรือดำน้ำ เพราะมีความจำเป็น อีกทั้งประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศเวียดนามก็มีหมดแล้ว ซึ่งกองทัพเรือจะใช้งบประมาณในส่วนของตนเองในการจัดซื้อ โดยเป็นการผูกพันงบประมาณ 4 - 5 ปี ทั้งนี้ ตนไม่สามารถตอบได้ว่าเรือดำน้ำของประเทศใดเหมาะสมกับไทย เพราะตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของกองทัพเรือที่จะตั้งคณะกรรมการพิจารณา แม้กระทั่ง ผบ.ทร. ก็ตกลงใจเองไม่ได้ เนื่องจากต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ เพราะหาก ผบ.ทร. ตัดสินใจผิดพลาดก็จะย้อนกลับมาหา ผบ.ทร. เอง แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็จะถูกตรวจสอบ เพราะฉะนั้นทุกอย่างจึงต้องทำตามขั้นตอนให้เกิดความโปร่งใสที่สุด และเมื่อตนยืนอยู่ตรงนี้ทุกอย่างก็ต้องโปร่งใส
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ที่จะได้รับการอนุมัติในรัฐบาลชุดนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นได้ แต่ไม่สามารถเจาะจงได้ว่าจะใช้งบประมาณของปีใด ทั้งนี้ นายกฯ จะไม่ลงมาดูรายละเอียดเพราะแผนพัฒนากองทัพแต่ละกองทัพจะทำขึ้นมาเอง โดยตนในฐานะ รมว.กลาโหม จะเป็นผู้ดูรายละเอียด แต่ตนจะไประบุไม่ได้ว่ากี่เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อบอกว่ามีโอกาสได้ก็ต้องเกิน 50 - 60 เปอร์เซ็นขึ้นไป เมื่อมีโอกาสต้องมากกว่าครึ่ง