วิป สปช.โพสต์ทวิตเตอร์ เผยไทยเข้าสู่เดือนหัวเลี้ยวหัวต่อลงมติรัฐธรรมนูญ มีเคลื่อนไหวมากขึ้น แนะคิดถึงชาติก่อน ย้ำจุดยืนโรดแมปนายกฯ ถูกแล้ว เปลี่ยนแปลงยิ่งขัดแย้ง ย้อนรัฐบาลปฏิรูปมากว่า 1 ปีแล้วแถมมีพิพม์เขียวของ สปช.อีก ชี้ปัญหาหมักหมมรัฐบาลเดียวแก้ไม่ได้ เลิกคว่ำร่าง-ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ขอให้ทำตามโรดแมป
วันนี้ (9 ส.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการวิปสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้เขียนข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่เดือนสุดท้ายของหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญอีกครั้ง เมื่อ สปช.จะต้องลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญ การเคลื่อนไหวทางการเมืองเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันลงมติรัฐธรรมนูญ ทั้งการคว่ำรัฐธรรมนูญจนถึงประชามติให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง 2 ปี ดังนั้น การกระทำใดๆ ในช่วงนี้ล้วนมีผลต่ออนาคตของประเทศทั้งสิ้น ถ้าทุกคนทุกฝ่ายคิดถึงประเทศมากกว่าอนาคตของตัวเองว่าจะมีได้ใคร่ดี ประเทศก็มีอนาคต เพราะเราต้องเดินหน้าด้วยระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และพิมพ์เขียวปฏิรูปเพื่ออัปเกรดประเทศสู่ศักยภาพและอนาคตใหม่ที่ดีกว่า ซึ่งจุดยืนของนายกรัฐมนตรีที่ยึดมั่นการเดินตามโรดแมปถูกต้องแล้ว เพื่อช่วยให้ประเทศไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนและไม่แน่นอน เพราะการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะกระทบต่อโรดแมปมีแต่จะสร้างความขัดแย้ง ซ้ำเติมประเทศและยากที่ประเทศจะตั้งลำเดินหน้าใหม่บนเส้นทางการปฏิรูปอย่างที่หวัง
นายอลงกรณ์กล่าวว่า รัฐบาลได้ปฏิรูปประเทศมาโดยตลอดหลังรัฐประหาร ตั้งแต่การนำประเทศสู่ความสงบสุข การบังคับใช้กฎหมายจัดระเบียบบ้านเมือง การปราบทุจริตและธุรกิจมืด การปราบผู้มีอิทธิพล การคืนผืนป่า การออกกฎหมายภาษีมรดก การปฏิรูปเศรษฐกิจระดับโครงสร้าง การสร้างศักยภาพใหม่บนฐานเขตเศรษฐกิจชายแดนเชื่อมโยงอาเซียน การแก้ปัญหาค้ามนุษย์ การริเริ่มอุตสากรรมยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทดแทน การลงทุนเทคโนโลยีและนวัตกรรม การสร้างเศรษฐกิจดิจิตอล การเดินหน้าบำนาญประชาชน ซึ่งจะเห็นว่ารัฐบาลปฏิรูปประเทศมาปีกว่าและมีเวลาอีก 1 ปี ที่จะปฏิรูปประเทศ ก่อนมอบหน้าที่ให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งรับผิดชอบประเทศต่อไปตามโรดแมป ยิ่งกว่านั้นยังมีพิมพ์เขียวปฏิรูปที่ สปช.ทำเสร็จในวันที่ 13 ส.ค.นี้ และรัฐธรรมนูญที่จะลงมติและทำประชามติเพื่อความชอบธรรมเป็นรากฐานของประชาธิปไตยและการปฏิรูป
“ปัญหาที่สะสมหมักหมมมานานจะแก้ให้หมดในรัฐบาลเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงเศรษฐกิจตกต่ำทั้งโลกเช่นนี้ ขอแต่คนอื่นอย่าสร้างปัญหาซ้ำเติมก็เป็นพอ การเดินตามโรดแมปและร่วมกันขับเคลื่อนการปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรัฐบาลนี้และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งปลายปีหน้าจะดีที่สุดสำหรับประเทศ ดังนั้น ข้อเสนอให้คว่ำรัฐธรรมนูญหรือปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง 2 ปี แฝงความพยายามหาทางออกให้ประเทศแต่เกรงว่าจะก่อวิกฤตความขัดแย้งครั้งใหม่ สู้ให้ประเทศเดินตามโรดแมปจะดีกว่า”