รมว.คลัง รายงาน 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “บิ๊กตู่-หม่อมอุ๋ย” รับทราบแล้ว แต่ยังไม่เข้า ครม. เผยมีโครงการใน 4-5 กระทรวง หวังเม็ดเงิน 1.5 แสนล้านถึงมือคนจน หวังจ้างงาน-ช่วยเกษตรกร 10 ล้านคน เตรียมดัน กม.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง-กม.ให้อำนาจคลังบริหารจัดการหนี้ประมาณ 7 แสนล้านเข้า ครม.รอบหน้า ด้าน ครม.ไฟเขียวโอนเงินกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เข้าบัญชีสะสมอีก 1.24 หมื่นล้าน เพื่อชำระคืนเงินต้น
วันนี้ (4 ส.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้าน มีรายงานว่า นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ได้รายงานมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้าน ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว โดยมีโครงการลงทุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ 3-4 กระทรวง หรือประมาณ 20 หน่วยงาน เป็นวงเงิน 150,000 ล้านบาท กระจายอยู่ในโครงการท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเบิกจ่ายเพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจถือเป็นการดำเนินโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เกิดการจ้างงานและช่วยเหลือเกษตรในท้องถิ่นให้ได้ 10 ล้านคน ทั้งนี้ ได้รายงานให้ทราบว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้าน เป็นมาตรการที่มีอยู่แล้ว แต่ได้จัดหมวดหมู่ให้เห็นภาพชัดเจนว่ามีเงินแค่ไหน และมีการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว
ก่อนหน้านี้ นายสมหมายระบุว่าจะนำเสนอ 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ประกอบด้วย 1. มาตรการกระตุ้นที่เกี่ยวกับการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบราง ถนน น้ำ สนามบิน 2. มาตรการกระตุ้นเพื่อการส่งเสริมการลงทุนผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รวมถึงโครงการในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และโครงการที่ผ่านการลงทุนเศรษฐกิจเฉพาะทาง 3. มาตรการกระตุ้นโดยใช้นโยบายการเงินการคลัง 4. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่านโครงการที่มีอยู่ในงบประมาณประจำ 5. มาตรการกระตุ้นโดยกองทุนหมุนเวียน และ 6. มาตรการการปรับปรุงจัดการสหกรณ์ที่มีอยู่
มีรายงานว่า ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังบริหารจัดการหนี้ประมาณ 720,000 ล้านบาท ให้ ครม.เห็นชอบ ในส่วนของการเก็บภาษีที่ดินจะมีการผ่อนผันมากขึ้น เช่น หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้จะเว้นการเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินไปก่อนเป็นเวลา 3 ปี เพื่อเป็นการบรรเทาภาระให้แก่ผู้เสียภาษี เป็นต้น
อีกด้าน พล.ต.สรรเสริญเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการโอนเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(FIDF) เข้าบัญชีสะสมเพิ่มเติมอีก 12,400 ล้านบาท เพื่อชำระคืนเงินต้นและการชดใช้ความเสียหายของกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งเป็นบัญชีสะสมในปีงบประมาณ 2558 โดยให้กองทุนฟื้นฟูฯ ทยอยโอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีสะสมตามปริมาณสภาพคล่องของกองทุนฟื้นฟูฯ
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2558 กองทุนฟื้นฟูฯ ได้ส่งเงินเข้าบัญชีไปครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 57 จำนวน 21,000 ล้านบาท และครั้งที่ 2 วันที่ 20 เม.ย. 58 อีกจำนวน 31,629 ล้านบาท รวมที่ส่งเงินเข้าบัญชีแล้ว 52,629 ล้านบาท
“ทางคณะกรรมการฯ เห็นว่ากองทุนฟื้นฟูฯ มีสภาพคล่องในช่วง มิ.ย.-ก.ย. เพราะฉะนั้นจึงให้กองทุนฯ ส่งเงินเข้าบัญชีสะสมเพื่อใช้คืนเงินต้นเพิ่มเติมในปี 2558 อีก 12,400 ล้านบาท ซึ่ง ครม.ก็เห็นชอบตามนั้น” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ