พังงา - เกษตรกรในจังหวัดพังงา รวมกลุ่มปลูกแตงโม หลังรับการช่วยเหลือจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดพังงา
วันนี้ (9 พ.ค.) น.ส.ธันย์บดี หนูเงิน หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดพังงา นำ นายสุทีป สุธาประดิษฐ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพังงา นายจำเริญ นาคคง ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดพังงา นายธนวัฒน์ พันธุ์สนิท ปศุสัตว์จังหวัดพังงา และนายพงษ์นารถ ทิพย์อักษร ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดพังงา ในฐานะกรรมการกองทุนฯ เข้าร่วมตรวจเยี่ยมการเก็บเกี่ยวผลแตงโม ที่แปลงเกษตรตำบลบางม่วง ของนายชัยชาญ วงศ์ยา สมาชิกกลุ่มร่วมใจการเกษตร บ้านเชิงปราง ซึ่งปลูกแตงโมในพื้นที่ จำนวน 27 ไร่
น.ส.ธันย์บดี เปิดเผยว่า ปัญหาของเกษตรกรคือ ที่ผ่านมาสมาชิกบางส่วนในกลุ่มเป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรตะกั่วป่า จำกัด และสมาชิกได้กู้เงินมาลงทุนปลูกแตงโม แต่ขาดทุนทำให้ต้องเป็นหนี้สะสม ไม่สามารถที่จะชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์ได้ จึงถูกฟ้องร้อง จำนวน 8 ราย ทางสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และทางสหกรณ์การเกษตรตะกั่วป่า จำกัด จึงหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร จำนวน 8 ราย ที่มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 662,698.11 บาท ซึ่งเป็นเงินต้น 364,866.00 บาท ดอกเบี้ย 297,832.11 บาท โดยสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ช่วยเหลือด้วยการชำระหนี้แทนทั้งหมด และให้เกษตรกรจ่ายชำระหนี้คืนให้กองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 50% ของเงินต้น คือ 182,433.00 บาท พร้อมทั้งจ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี จึงเป็นการช่วยเหลือลดภาระหนี้ให้แก่เกษตรกรสมาชิก
โดยหลังจากเกษตรกรได้รับการชำระหนี้แทนแล้ว ทางสำนักงานกองทุนฟื้นฟูก็จะช่วยฟื้นฟูอาชีพให้แก่เกษตรกร ให้เกษตรกรเขียนแผนโครงการขอรับการสนับสนุนตามความเหมาะสม สำนักงานกองทุนฯ จะให้ความช่วยเหลือในลักษณะของกลุ่มองค์กร เพื่อให้องค์กรมีความเข็มแข็ง โดยสมาชิกมีความรัก สามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ สามารถพึ่งพากันเองในกลุ่มได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน กลุ่มรวมใจการเกษตร บ้านเชิงปราง มีสมาชิกกลุ่ม 8 คน และร่วมกันเขียนแผนโครงการปลูกข้าวโพด และแตงโม โดยในระยะนี้เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวแตงโม ซึ่งใช้พันธุ์ลูกผสมระหว่างจินตหรา กับคอมมันโด ในเนื้อที่ร้อยกว่าไร่ ซึ่งให้ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 3 ตัน มีสัดส่วนผลขนาดใหญ่ กลาง เล็ก คือ 1:1:1 ตัน ราคาขายส่งกิโลกรัมละ 7:5:3 บาท ตามลำดับ
ในขณะที่ นายชัยชาญ วงศ์ยา เกษตรกร กล่าวว่า ปีนี้คงไม่มีกำไรมากนักเพราะต้นทุนต่อไร่อยู่ที่ประมาณ 13,000 บาท โดยในปีนี้ต้องลงทุนต่อสายน้ำจากต้นแหล่งหลายกิโลเมตร เนื่องจากประสบภาวะฝนทิ้งช่วงนานเกินไป แต่ผลผลิตก็มีความสมบูรณ์ดี ผลโตขนาดใหญ่สุดมีน้ำหนักเกือบ 10 กิโลกรัม โดยรอบหน้าอาจจะเปลี่ยนเป็นปลูกข้าวโพดเพื่อปรับสภาพดิน เนื่องจากปลูกแตงโม ติดต่อกันมา 3 รอบแล้ว