“สรรเสริญ” เผยส่งออกติดลบ รัฐบาลยังมองบวกขีดความสามารถส่งออกยังแข็งแกร่ง เมื่อเทียบชาติอื่นไทยถือว่าติดลบน้อย ยิ่งดูจากเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ไม่ควรเสียกำลังใจ ชี้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นหลายประเทศ เชื่อค่าเงินบาทอ่อนส่งเสริมส่งออก นายกฯ ให้กำลังใจเอกชนฝ่าฟัน ห่วงไม่มองภาพรวมทำตื่นตระหนก
วันนี้ (29 ก.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีรายงานตัวเลขการส่งออก ของประเทศในช่วง 6 เดือนของปี 2558 ที่ระบุว่าการส่งออกลดลงร้อยละ 4.8 การนำเข้าลดลงร้อยละ 7.9 และเกินดุลการค้ามูลค่า 3,472.7 ล้านเหรียญสหรัฐว่า แม้ตัวเลขการส่งออกจะติดลบ แต่รัฐบาลยังมองในเชิงบวกว่าขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกของไทยยังถือว่าแข็งแกร่ง เพราะแม้ตัวเลขการส่งออกติดลบตามภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก แต่เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆจะพบว่า ไทยติดลบในสัดส่วนที่น้อยมาก แสดงให้เห็นว่าแม้ในภาวะยากลำบากภาคเอกชนไทยยังคงมีความสามารถในการแข่งขันและมียอดการส่งออกปรับตัวลงไม่มาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
“แม้ตัวเลขติดลบจะไม่ใช่ตัวเลขที่เราพอใจ แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์การค้าโลกในภาวะเช่นนี้ ก็นับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ควรเสียกำลังใจ และที่สำคัญแม้จะเป็นช่วงที่ตลาดโลกถดถอย แต่ไทยสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดในประเทศคู่ค้าสำคัญไว้ได้ทั้งหมดและหลายประเทศเราสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่น ตลาดสหรัฐ ส่วนแบ่งตลาดของสินค้าไทยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.28 จากเดิมเรามีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 1.16 ในตลาดจีน เราเพิ่มเป็นร้อยละ 2.22 จากร้อยละ 1.95 ในตลาดญี่ปุ่นเราเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.13 จากร้อยละ 2.68 หรือในตลาดสิงคโปร์ เพิ่มเป็นร้อยละ 2.61 จากร้อยละ 2.39 เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นความสามารถและความแข็งแกร่งของภาคเอกชนไทย และเชื่อว่าแนวโน้มที่อ่อนค่าลงของค่าเงินบาทจะเป็นหนึ่งในปัจจัยช่วยส่งเสริมภาคการส่งออกในครึ่งปีหลังของประเทศไทยต่อไป ท่านนายกรัฐมนตรียังได้ฝากให้กำลังใจภาคเอกชนไทยทุกท่านว่า การสามารถฝ่าฟันในช่วงยากลำบากหรือเครื่องพิสูจน์ความสามารถของผู้ประกอบการไทยอย่างแท้จริง”
ทั้งนี้ ข้อมูลของ Global Trade Atlas ซึ่งรายงานตัวเลขการส่งออกของประเทศต่างๆ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2558 จะพบว่าส่วนใหญ่ติดลบมากว่าประเทศไทย เช่น รัสเซียติดลบร้อยละ 29.2 ออสเตรเลียติดลบร้อยละ 21.9 นิวซีแลนด์ติดลบร้อยละ 17.9 ฝรั่งเศสติดลบร้อยละ 16.8 สิงคโปร์ติดลบร้อยละ 13.3 มาเลเซียติดลบร้อยละ 13.1 อังกฤษติดลบร้อยละ 12.2 ญี่ปุ่นติดลบร้อยละ 7.8 หรือสหรัฐติดลบร้อยละ 5.2 มีเพียงจีนเท่านั้นที่ส่งออกเพิ่มร้อยละ 0.5
พล.ต.สรรเสริญยังกล่าวเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงในกรณีที่การสื่อสารข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจในสังคม บางครั้งขาดการมองในภาพรวม มุ่งเน้นตัวเลขบางเพียงจุดบางประเด็น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุหรือการวิเคราะห์สถานการณ์ที่ผิดพลาด จึงอยากเห็นการอธิบายความที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงเหตุและผลที่ชัดเจนรอบด้าน