xs
xsm
sm
md
lg

กกต.จี้คืนสิทธิใบแดงพึ่งศาลไม่ทัน หนุนแบนตลอดชีพ ฉะ กมธ.ยกร่างฯ ให้รบมือเปล่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สมชัย” แจงมาตรการแก้โกงเลือกตั้งที่ กมธ.ยกร่างฯ กำหนด ไม่ตอบโจทย์ เสียของ ย้ำให้อำนาจใบแดง กกต. พึ่งศาลไม่ทัน แนะใบส้มควรใส่ใน รธน. ตัดปัญหาตีความ หนุนแบนตลอดชีวิต ยันแจกใบไม่ผ่าน กกต.จว.ตัดกังวลวิ่งเต้นรับประโยชน์ จี้เขียนใน รธน.โดนใบต้องยุติหน้าที่ ไม่งั้นก็ลอยนวล บ่นเสนอ 7 ใบแต่เขียนแค่ให้ 3 สอบตก ฉะให้รบมือเปล่า แพ้ควรประหารคนคิดแผน สวนอดีต กกต.7 เคยทำอะไรบ้าง ปิดปากวันเห็นชอบร่าง รธน.

วันนี้ (23 ก.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ว่า มาตรการแก้ไขปัญหาการทุจริตเลือกตั้งที่ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญกำหนดขึ้นยังไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาซื้อสิทธิขายเสียง เป็นการคิดในเชิงอุดมคติที่ไม่สามารถเกิดผลในทางปฏิบัติ ท้ายที่สุดก็จะเสียของ ซึ่ง กกต.เห็นว่า กมธ.ยกร่างฯ ควรให้อำนาจในการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ก่อนวันเลือกตั้งและก่อนประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแก่ กกต. เพื่อเป็นมาตรการในการไล่คนที่มีหลักฐานว่าทุจริตออกจากการเลือกตั้งออกจากการเลือกตั้ง ถือเป็นการตัดสิทธิชั่วคราวเพียง 1 ปี ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นอำนาจของศาล เพราะถ้าส่งไปเชื่อว่าศาลไม่สามารถพิจารณาคดีได้ทันตามเวลาที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนี้ ที่ กมธ.ยกร่างฯ ขานรับข้อเสนอว่า หากมีกระทำการเข้าข่ายให้การเลือกตั้งไม่สุจริต แม้จะยังเชื่อมโยงไม่ถึงตัวผู้สมัคร แต่มีหลักฐานว่าเป็นการกระทำที่มาจากคนกลุ่มเดิมจนทำให้ต้องมีการสั่งเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) ถึง 2 ครั้ง ก็จะถือเป็นใบส้ม คือการตัดสิทธิการเลือกตั้งผู้สมัครรายนั้นเป็นเวลา 1 ปี โดยให้ไปใส่ในกฎหมายลูกหรือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง เห็นว่าหากนำมาใช้จะเกิดปัญหาในเรื่องของการตีความว่าไม่บันทึกเป็นเจตนารมณ์ไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงควรจะใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน ทั้งนี้เชื่อว่าหาก กมธ.ยกร่างฯให้อำนาจใบเหลืองแดงแก่ กกต.ก่อนประกาศรับรองผล กกต.จะปรับกระบวนการภายใน จนสามารถพิจารณาได้ทันภายใน 30 วัน แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องพิจารณาตัวเอง ส่วนหลังประกาศรับรองผลอำนาจให้ใบเหลืองใบแดง ที่ กมธ.ยกร่างฯ กำหนดให้เป็นอำนาจของศาล โดยเฉพาะใบแดงที่เป็นการตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต กกต.เห็นด้วย

“ที่ กมธ.ยกร่างฯ ได้ข้อมูลว่าถ้าให้ กกต.มีอำนาจใบเหลืองใบแดงก่อนประกาศรับรองผลจะมีการวิ่งเต้นในระดับจังหวัด จนทำให้ไม่ไว้วางใจที่จะให้อำนาจ กกต. ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะสำนวนการให้ใบเหลืองแดง ในช่วงเวลาดังกล่าวจะยิงตรงถึง กกต.กลางไม่ผ่าน กกต.จังหวัดที่เกรงว่าจะเรียกรับผลประโยชน์ เป็นสิ่งที่จะไม่เกิดขึ้น จึงถือเป็นข้อกังวลของ กมธ.ยกร่างฯ บนพื้นฐานของความไม่รู้ทำให้กังวลเกินเหตุ”

นายสมชัยยังเรียกร้องให้ กมธ.ยกร่างฯ บัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญว่า หลังประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเมื่อศาลอุทธรณ์รับคำร้องใบเหลือง ใบแดง ไว้พิจารณาให้ผู้ที่ถูกร้องซึ่งเป็น ส.ส.-ส.ว. และเพิ่มเติมถึงรัฐมนตรีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหลักการนี้เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 แต่รัฐธรรมนูญใหม่ไม่ได้บัญญัติไว้ ถ้าไม่มีบทบัญญัตินี้ ส.ส., ส.ว. และรัฐมนตรี เมื่อถูกร้องต่อศาลก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป

“การให้สู้ถึง 2 ศาล คนเป็น ส.ส., ส.ว. ก็ลอยนวลอยู่ในสภา รัฐมนตรีที่ทำผิด ก็อยู่ได้จนครบวาระถอนทุนกันเรียบร้อย ท่านพายเรือให้ใครนั่ง ตนว่าไม่ได้พายเรือให้ประชาชน เพราะฉะนั้นการออกแบบแก้ไขปัญหาทุจริตจะต้องมองใบเหลืองใบแดงให้ครบทุกใบ ผมพูดมาทั้งหมด 7 ใบ แต่ท่านเขียนในรัฐธรรมนูญให้เราแค่ 3 ใบ คือ ใบเหลืองก่อนประกาศรับรองผล และเหลืองกับแดงหลังประกาศรับรองผลที่ต้องไปศาล หายไปครึ่ง 7 ข้อ ตอบได้ 3 ข้อ ถือว่าสอบตกไปลงทะเบียนใหม่ ที่พูดไม่ได้บอกให้เชื่อแต่อยากให้ กมธ.ยกร่างฯ ไปคิดว่าจะทำอย่างไรกับกลไกเหล่านี้ถ้ามีการทุจริตก่อนการรับรองผล ถ้าส่งไปศาลแล้วศาลจะทำทันหรือไม่ ถ้าไม่ทันเขียนไปก็ไร้ประโยชน์ กมธ.ยกร่างฯ จึงต้องสร้างกลไกที่ทำได้จริง”

เมื่อถามว่าหาก กมธ.ยกร่างฯ ไม่มีการแก้ไขตามข้อเสนอกกต.จะทำอย่างไร นายสมชัยกล่าวว่า แม้ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจ กกต. กกต.ก็ต้องจัดการเลือกตั้งให้สุจริตมากเท่าที่ทำได้ แต่ถ้ามีไม้กระบองก็ดีกว่าสู้ด้วยมือเปล่า เหมือนเวลาจะออกรบคนเป็นเสนาธิการต้องรู้ว่าส่งทหารไปสู้กับอะไร ก็ต้องให้ยุทโธปกรณ์พอสมควร จะให้เราเป็นยักษ์ก็ต้องมีกระบอง เป็นนักรบก็ต้องมีดาบ ไม่ใช่ไปมือเปล่า ถ้าไปรบแล้วแพ้คนที่คิดวางแผนก็สมควรโดนโทษประหาร

นายสมชัยยังกล่าวถึงกรณีที่มีอดีต กกต.ให้ความเห็นว่าอำนาจการให้ใบแดงควรเป็นของศาล เพราะที่ผ่านมา กกต.ไม่มีความสามารถ ขออนุญาตตอบกลับสั้นๆ ว่าท่านอยู่ที่นี่มา 7 ปี สามารถช่วยให้ระบบต่างๆ ดีขึ้นได้ แต่ 7 ปีที่ผ่านมาท่านได้ทำอะไรอยู่ขอให้ทบทวนด้วย อีกทั้งในส่วนของ กกต.ได้มีการตกลงกันว่าวันที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ กกต.จะไม่มีการอออกให้ความเห็นเชิงวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญอีก เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ากระบวนการจัดทำประชามติที่ กกต.เป็นผู้ดำเนินการนั้น จะต้องกระทำด้วยความเป็นกลาง แต่ในขณะนี้ยังถือว่ายังอยู่ในช่วงเวลาปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ กกต.ในฐานะผู้ปฏิบัติขอใช้สิทธิวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญเกิดประโยชน์



กำลังโหลดความคิดเห็น