xs
xsm
sm
md
lg

กกต.เล็งทดลองใช้เครื่องลงคะแนนทำประชามติที่ราชเทวี - ผุดแอปฯ นำทางเข้าคูหาแห่งแรกของโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากแฟ้ม
กกต. ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการเลือกตั้ง เตรียมชิมลางเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ 2 หน่วยเลือกตั้งในราชเทวี พร้อมพัฒนาแอปพลิเคชั่น “ดาวเหนือ” ใส่เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก แสดงผลหน่วยเลือกตั้ง ที่ตั้งหน่วย ลำดับการใช้สิทธิ์ รวมทั้งแผนที่นำทาง ชูแห่งแรกของโลก

วันนี้ (22 ก.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการเลือกตั้ง โดย นายสมชัย เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการเลือกตั้งด้วยเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะมีการจัดทำแผนพัฒนาเครื่องลงคะแนนใน 3 ระดับ คือ ระยะสั้น 1 ปี ระยะกลาง 5 ปี และระยะยาว 10 ปี และเพื่อให้ทันกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ กกต. จะใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ในหน่วยออกเสียงประชามติ ซึ่งจะเป็นหน่วยต้นแบบ 2 หน่วย ในเขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงประมาณ 1,600 คน ทั้งนี้ จะทำให้ผู้มาใช้สิทธิได้มีโอกาสเลือกรูปแบบการออกเสียง และเป็นการทดสอบระบบเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ว่าสามารถตรวจสอบได้ และให้เกิดความไว้ใจ ซึ่งจะเป็นการโชว์ศักยภาพของหน่วยเลือกตั้งในอนาคต

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีการหารือถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันดาวเหนือในโทรศัพท์มือถือ ที่จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยสามารถโหลดแอปพลิเคชัน แล้วกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ก็จะสามารถทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยเลือกตั้ง ที่ตั้งหน่วย ลำดับการใช้สิทธิ์ รวมทั้งแผนที่นำทางไปยังหน่วยเลือกตั้งที่บุคคลนั้นมีสิทธิ ทั้งนี้ จะเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นดังกล่าวให้เสร็จภายในเดือน พ.ย. นี้

อย่างไรก็ตาม หากมีการทำประชามติในเดือน ม.ค. 2559 ก็จะเป็นครั้งแรกที่ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติจะได้ใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าว และถือว่าเป็นประเทศแรกในโลกที่ใช้แอพพลิเคชั่นอำนวยความสะดวกและลดความยุ่งยากให้กับผู้มีสิทธิออกเสียง เพราะจากที่ผ่านมาได้สอบถามผู้จัดการเลือกตั้งในประเทศต่าง ๆ อาทิ สหรัฐอเมริกาอังกฤษ ออสเตรเลีย และ สิงคโปร์ ก็ยังไม่มีการใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการบุกเบิกแห่งแรกของโลก และเชื่อว่าจะทำให้จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิสูงกว่าเดิมอย่างแน่นอน โดยการพัฒนาแอปพลิเคชั่นดังกล่าวจะใช้งบประมาณกว่าแสนบาท แต่ทั้งนี้ ในส่วนของแผนที่นำทางน่าจะใช้ได้ในเขตเมือง แต่ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกล


กำลังโหลดความคิดเห็น