เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เผย การเดินทางไปจีนติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ ยืนยันดูแลอย่างดี ที่พักสะอาดปลอดภัย ชี้ เปิดให้ไทยเฝ้าสังเกตการณ์หวังแสดงให้เห็นว่าโปร่งใส อีกทั้งไม่มีนโยบายให้องค์การระหว่างประเทศ หรือสื่อมวลชนที่ไม่ใช่ของจีนเข้าไปดูเรื่องนี้ เชื่อบางองค์กรกระพือผ่านโซเชียลทำร้ายประเทศไทย ทำใจถูกการเมืองระหว่างประเทศเล่นงาน
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.00 น. นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงภายหลังเดินทางไปประเทศจีนเพื่อติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ ระหว่างวันที่ 15 - 19 ก.ค. ว่า การไปครั้งนี้ได้ไปพบหารือกับผู้นำระดับสูงของจีน อาทิ นายเมิ่ง เจียนจู้ เลขาธิการคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยจีนยืนยันเต็มที่ในการดูแลความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ นอกจากนี้ ยังได้เดินทางไปดูสถานที่พักของชาวอุยกูร์ทั้ง 109 คน ซึ่งมีความเป็นอยู่ที่ดีทั้งในแง่ความสะอาด ปลอดภัย และได้พูดคุยกับตัวแทนของทั้ง 109 คนนี้ ซึ่งตัวแทนเหล่านี้ได้พูดถึงสาเหตุของการหลบหนีเข้าเมือง เพราะต้องการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น บางคนถึงกับต้องขายทรัพย์สินที่มีอยู่ บางรายหลบหนีไปยังอัฟกานิสถานและถูกส่งตัวกลับมาเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังได้ไปดูความเป็นอยู่ของชาวมุสลิมที่อยู่ในเขตปกครองพิเศษซินเจียงด้วย
นายอนุสิษฐ กล่าวว่า จีนได้ดูแลคนเหล่านี้เป็นอย่างดี และการที่ให้ไทยเข้าไปถือครั้งแรกที่จีนยอมให้รัฐบาลชาติอื่นเข้าไปสังเกตการณ์ซึ่งไม่เคยมีนโยบายให้เข้าไปก้าวล่วงทางการบริหาร และกระบวนการยุติธรรมของเขา ถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศในแก้ไขปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐาน และการที่จีนอนุญาตให้ตนได้พูดคุยกับตัวแทนของ 109 คน เป็นการตอบโจทย์ให้โลกรับรู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และจีนไม่ประสงค์และไม่มีนโยบายในการที่จะให้องค์การระหว่างประเทศ หรือสื่อมวลชนที่ไม่ใช่ของจีนเข้าไปดูเรื่องนี้ด้วย สิ่งที่ไทยทำถูกต้องชอบธรรม สามารถอธิบายต่อนานาชาติได้ ยกเว้นกระแสข่าวในโซเซี่ยลมีเดียที่บิดเบือนข้อเท็จจริงและทำให้เสียหายต่อประเทศ สื่อควรจะช่วยกัน เช่น การบอกว่ามีคนเสียชีวิต 20 คน เป็นเรื่องที่น่าเกลียดมาก เพราะไม่เป็นความจริงยืนยันยังอยู่ครบหมด ส่วนอุยกูร์ 13 คนที่ทางการจีนรายงานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย ยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน คาดว่าจะมีการสอบสวนจะเริ่มขึ้นเร็วๆ นี้ เนื่องจากชาวต้องมีการฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกายก่อน
เชื่อว่าขณะนี้ในโซเชี่ยลมีเดียขององค์กรระหว่างประเทศบางองค์กร กำลังเอาเรื่องนี้มาทำร้ายประเทศไทย โดยยืนยันว่าการทำงานของเราเป็นไปตามกฎหมายและหลักสากล การปฏิบัติการเรื่องนี้น่าจะเป็นบรรทัดฐานในทุกประเทศที่จะต้องดำเนินการลักษณะนี้เพื่อปกป้องคนของตนเอง และการขยายตัวในการนำคนไปกระทำผิดกฎหมายเรื่องอื่น ๆ ตนคิดว่าทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และทำความจริงให้ปรากฏ ส่วนการที่จะส่งตัวคนที่เหลืออยู่ประมาณ 60 คน คงต้องใช้เวลาและใช้ความสัมพันธ์การเมืองพอสมควร สถานการณ์ที่ผ่านมามีแรงกดดันค่อนข้างมาก ทั้งที่เราเชื่อว่าเราปฏิบัติตามกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างดี
นายอนุสิษฐ กล่าวว่า ในแง่สิทธิมนุษยชนตนว่าประเทศไทยทำได้ดีกว่าหลายประเทศ และเราเคยได้รับการชื่นชมจากองค์กรระหว่างประเทศหลายครั้ง เช่น ยูเอ็นเอชซีอาร์ ที่ผ่านมาเราแบกรับผู้ลี้ภัยต่าง ๆ ดูแลอย่างดีทั้งการศึกษาแก่เด็กต่างด้าว และควรได้รับความชื่นชมจากนานาชาติ แต่เรื่องการเมืองระหว่างประเทศใช้สถานการณ์ในบางเรื่องเพื่อกระทบอีกบางเรื่อง เป็นเรื่องที่เราต้องพยายามทำให้ดีที่สุด สิ่งที่เคยรับการตำหนิหรือไม่ให้เครดิตเรื่องการค้ามนุษย์การประมงผิดกฎหมาย เราจะทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ตนได้รายงานเรื่องนี้ต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และจะทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรต่อนายกฯ ต่อไป