หัวหน้าทีมกฎหมายประชาธิปัตย์ กลัวยกเลิกเอกสิทธิ์ ส.ส. - ส.ว. ทำรัฐบาลไม่สุจริต ใช้อำนาจแจ้งข้อหากบฏ หรือฆ่าคนตายใส่ใครก็ได้ จนมีผลต่อการโหวตในสภา เชื่อ 248 ส.ส. รอดถูกถอดตามบรรทัดฐาน อดีต 38 ส.ว. เว้นแต่พวกเสียบบัตรแทน
วันนี้ (19 ก.ค.) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ยกเลิกเอกสิทธิ์ ส.ส. และ ส.ว. ว่า ตนคิดว่าหลักการนี้ยังมีช่องว่างอยู่ ถ้าหากรัฐบาลที่เข้ามาทำหน้าที่ หลักการใหม่นี้คงจะใช้ได้ แต่ถ้าหากรัฐบาลไม่สุจริตเข้ามา ก็สามารถแจ้งข้อหาที่มีบทลงโทษเกิน 10 ปี กับ ส.ส. คนใดก็ได้ อาทิ ข้อหากบฏหรือฆ่าคนตาย เป็นต้น ซึ่งตนมองว่าข้อหาเหล่านี้แจ้งกันได้ง่ายมาก เมื่อ ส.ส. หรือ ส.ว. ผู้ถูกกล่าวหาถูกล็อกตัวไปแล้ว ก็จะส่งผลต่อการโหวตในสภา ซึ่งในบางครั้งก็ตัดสินแพ้ชนะกันที่คะแนนเสียงเดียว ผู้ถูกกล่าวหาก็อาจจะถูกคุมขังจนเลยเวลาลงคะแนนเสียงไปแล้ว ดังนั้น ตนเชื่อว่า ควรจะคงเอกสิทธิ์การคุ้มครอง ส.ส. และ ส.ว. เอาไว้ตามหลักการเดิม คือ คุ้มครองในช่วงที่มีการประชุมสภาซึ่งจะมีการลงคะแนนเสียง และควรจะไปดำเนินคดีต่อหลังจากพ้นประชุมสภาแล้ว
เมื่อถามต่อกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังพิจารณาถอดถอนอดีต 248 ส.ส. กรณีแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 โดยมิชอบ นายวิรัตน์ กล่าวว่า ฐานความผิดของอดีต ส.ส. 248 อยู่ในฐานความผิดเดียวกับ อดีต 38 ส.ว. ที่รอดจากการถอดถอน โดยอ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ถูกยกเลิกไปแล้ว ซึ่งถ้าหาก สนช. พิจารณาตามหลักนิติรัฐ และหลักนิติธรรม ก็น่าจะยอมรับได้ เว้นแต่กรณีผู้ที่มีความผิดกรณีสอดบัตรแทนกัน หรือผู้ที่ปลอมญัตติ ตรงนี้ก็ต้องไปรับผิดทางอาญา ซึ่งก็ต้องว่ากันตามกระบวนการต่อไป