xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” จี้ 5 รองนายกฯ ลงพื้นที่ ตจว.ตอบโจทย์ ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
“บิ๊กตู่” จี้ 5 รองนายกฯ ลงพื้นที่ ตอบโจทย์ความต้องการประชาชน รัฐบาล ยังสรุปคดี ข้าราชการเอี่ยวทุจริตทุกล็อต เกรงหลักฐานตกหล่น

วันนี้ (14 ก.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ดำเนินการจัดทำข้อมูลสำรวจทัศนคติวัดผลความพึงพอใจ รวมทั้งความต้องการของประชาชน ต่อการดำเนินงานหรือการบริหารงานของรัฐบาลและ คสช. ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รับทราบ จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้นำข้อมูลดังกล่าว แจงจ่ายให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นฐานข้อมูลในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้องของประชาชน นอกจากนี้ ยังสั่งการให้บรรดารองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เพื่อรับทราบถึงปัญหาของประชาชนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยไม่จำเป็นต้องรอการลงพื้นที่พร้อมตัวนายกฯ และให้นำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการแก้ไขปัญหาด้วย

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ดังกล่าวต้องหาข้อยุติ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ และหากพบว่ามีสิ่งใดเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนก็จำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจในทุกประเด็น ส่วนเรื่องใดที่เข้าใจถูกต้องแล้ว ก็ให้มีการขยายผลให้เข้าใจทั่วกันด้วย

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สอบถามข้อมูลการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงสอบถามรายชื่อข้าราชการที่อาจมีส่วนเข้าไปเกี่ยวพันในเรื่องทุจริต ที่มีรายชื่อออกมา 2 ครั้ง โดยแบ่งระดับรายชื่อออกเป็น 2 ส่วน คือ ข้าราชการระดับซี 8 ขึ้นไป หรือข้าราชการระดับสูง ซึ่งมีการใช้คำสั่ง คสช. ตามอำนาจมาตรา 44 ในการปรับย้ายและให้ฝ่ายเกี่ยวข้อง อาทิ ป.ป.ช., ป.ป.ท., สตง. เป็นผู้ตรวจสอบ

ขณะที่ข้าราชการระดับกลาง หรือระดับล่าง ที่ไม่ได้โยกย้ายออกจากหน้าที่เดิม เพราะเห็นว่าหากอยู่ในตำแหน่งเดิมคงไม่มีผลที่จะทำให้หลักฐานต่าง ๆ ยุ่งเหยิงได้ อย่างไรก็ตาม ในการพิสูจน์หลักฐานของข้าราชการระดับซี 8 ขึ้นไป นายกฯ ไม่ต้องการให้เร่งรีบ หรือรีบร้อนในการสอบสวนพยานหลักฐานต่าง ๆ เพราะไม่อยากให้หลักฐานตกหล่น

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า แต่ขณะเดียวกัน ขอให้ฝ่ายต่าง ๆ ที่ตรวจสอบข้อมูลได้เข้าใจสถานการณ์ว่าจะช้ามากไม่ได้ เพราะจะเป็นที่ครหาว่าใช้เวลานานเกินไป แต่ขณะนี้สังคมกำลังจับตาข้าราชการระดับสูงอยู่ ส่วนข้าราชการระดับล่างปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานต้นสังกัดสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งขณะนี้การส่งข้อมูลข้าราชการระดับล่างยังมีจำนวนน้อย นายกฯ จึงขอให้ทุกหน่วยงานเร่งสอบสวนขึ้นมา

ทั้งนี้ มีการแจ้งข้อมูลว่าบางกระทรวงมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหลายราย การตั้งคณะกรรมการสอบอาจไม่พอที่ประชุม จึงมีมติว่าให้แต่ละกระทรวงที่มีฐานข้อมูลที่เชื่อได้ว่าข้าราชการอาจมีส่วนเข้าไปเกี่ยวพันกับการทุจริตฐาน ให้ใช้คณะกรรมการสอบสวนเพียงคณะเดียว และทำทุกอย่างให้เป็นไปตามขั้นตอน

ส่วนกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การส่งตัวชาวอุยกูร์ส่วนหนึ่งกลับไปยังประเทศจีนนั้น ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือถึงประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ต้องการให้มีการขยายผลในเรื่องนี้ เพราะถือว่ารัฐบาลได้ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างถูกต้องแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามกติกาสากล เพราะไม่ทำอย่างนั้นกฎหมายก็จะถูกละเลย และกลับกลายเป็นว่า ประเทศใดก็ตามที่มีเหตุร้ายขึ้น แล้วมีคนหลบหนีเข้ามายังไทย คนเหล่านั้นก็จะรู้สึกปลอดภัย เพราะเชื่อว่าจะไม่ถูกส่งตัวกลับไปดำเนินคดี จากนั้นไทยเองก็จะกลายเป็นแหล่งซ่องสุมของผู้ก่อเหตุร้าย ดังนั้น วิธีการจัดการของรัฐบาลถือเป็นทางออกของปัญหา.


กำลังโหลดความคิดเห็น