นายกรัฐมนตรี วอน กำนัน - ผู้ใหญ่บ้านร่วมสร้างประเทศใหม่ รวมกลุ่มสร้างความเข้มแข็ง ความสงบเรียบร้อย ยืนยันไม่สามารถยุบได้ ถ้าทำดีจะดูแล เรื่องเงินเดือนรับปากว่าจะดูให้ พร้อมฝากปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้าน “อนุพงษ์” ซ้ำไม่มีใครยุบได้ เหลือเพียงอย่างเดียวคือทำตัวให้มีค่า
วันนี้ (14 ก.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวมอบนโยบายแก่นายกสมาคมกำนัน - ผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย และอุปนายกสมาคมกำนัน - ผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ว่า กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ ที่ต้องมาร่วมมือกันแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง ต้องช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ วันนี้ทุกคนต้องลืมภาพเก่าแล้วมาร่วมกันสร้างประเทศใหม่ สิ่งสำคัญคือ สร้างความรับรู้และความเข้าใจ สร้างความไว้เนื้อเชื้อใจ และสิ่งที่ขอมาทั้งเรื่องเงินเดือน งบประมาณต่าง ๆ ก็พร้อมจะให้ได้ และหากสร้างความเข้มแข็ง สร้างความเชื่อมโยงเครือข่ายขึ้นมา ถ้าทุกคนทำดีไม่มีใครมายุ่ง และตนยืนยันไม่มีใครสามารถยุบได้ วันนี้ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร ยังอยู่ในขั้นตอนการปฏิรูป
“กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ใช่นักการเมือง หัวคะแนน หรือผู้มีอิทธิพล ต้องทำบทบาทของตัวเองในการเป็นข้าราชการส่วนภูมิภาคที่ดีให้ได้ ถ้าทำดี เข้มแข็ง ผมก็จะดูแลท่าน ซึ่งเชื่อว่ามีทั้งคนดีและไม่ดี แต่เราต้องทำให้คนไม่ดีลดลงให้ได้ หรือเอาคนไม่ดีออกจากระบบ ช่วยกันดูแลลูกบ้านแก้ไขความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่ เพราะท่านเป็นข้าราชการที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด วันนี้รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาทุกเรื่อง แต่ผมไม่ได้แก้เพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อประเทศ ไม่ได้ต้องการเป็นนายกฯสักวัน แต่มันจำเป็น เพราะถ้าไม่ทำประเทศไทยก็อยู่ไม่ได้ ไม่ได้หวังหรือต้องบังคับใครมาชอบผม ทุกอย่างผมจะดูแลในภาพรวมให้ ทุกอย่างทุกเรื่องอยู่ในใจ ไม่ต้องขอ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เราอย่าให้ใครมากำหนดอนาคตบ้านเมือง เราต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์สร้างอนาคต องค์การว่วนท้องถิ่นจะมาทะเลาะกันไม่ได้ ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยให้ได้ อย่าให้ใครมาสร้างความเข้าใจผิด ๆ ใครไม่ดีก็บอกมา ขอให้ท่านกลับไปรวมกลุ่มกันเคลื่อนไหวทำประโยชน์เพื่อประเทศกันให้ได้ ไม่ใช่รวมกลุ่มสร้างความขัดแย้ง เวลาจากนี้ไม่มีอีกแล้วเราต้องช่วยกัน ประเทศจะแบ่งแยกการปกครองไม่ได้ ต้องรวมพลังสร้างสรรค์ไม่ใช่รวมพลังสร้างความขัดแย้ง วันนี้ตนต้องรับฟังทุกอย่าง บางทีก็เหนื่อยแต่ก็ต้องยิ่งทำ ไม่เช่นนั้นวันหน้าใครจะมาแก้ คิดว่าคงไม่มีใครคิดมาเสี่ยงแบบนี้อีกแล้ว
“จากนี้ไปรัฐบาลอยู่ในกำมือของท่าน ที่ต้องเลือกเข้ามาเป็นรัฐบาลที่ต้องมีธรรมมาภิบาล มีความโปร่งใส ดูแลประชาชนด้วยความเป็นธรรม วันนี้คนที่เขียนในโซเชียลมีเดียที่อยู่ต่างประเทศให้กลับมา ถ้าไม่ผิดให้กลับมา ผมพร้อมให้ความเป็นธรรม อยากให้นึกถึงคนเจ็บคนตาย ทหาร ชาวบ้าน ตายไปมาก ทุกอย่างต้องให้ชัดเจนว่าใคร ถ้าไม่ยอมรับกระบวนการเลยมันไม่ใช่ และวันนี้เราวางอนาคตยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มองดูไส้ในหลวม ๆ มีทั้งคนหวังดีและหวังร้าย เพื่อทำให้รัฐบาลเดินหน้าไม่ได้ และขอฝากทุกคนในเรื่องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ที่ใจ อย่าทำให้ท่านต้องกังวล เพราะพระองค์ท่านอยู่เหนือความขัดแย้งอย่าดึงลงมา และพระองค์ท่านไม่เคยมาสั่งอะไรผม ผมเกิดมากับสถาบันก็ต้องตายกับสถาบัน ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก และไม่ว่าเป็นประชาชนสีไหนก็เป็นคนไทยของพระองค์ท่านทั้งสิ้น เราทุกคนจึงต้องร่วมกันสร้างความสงบเรียบร้อย ความขัดแย้งที่ผ่านมาเกิดจากฝ่ายหนึ่งมีเงิน กับอีกฝ่ายเอาความรักชาติมาสู้กัน ซึ่งฝ่ายหนึ่งเขาต้องการจะล้มอะไรให้ได้ เขาต้องใช้ทุกวิถีทาง แต่ที่ผมมาวันนี้ไม่ได้ต้องการมาสร้างศัตรูเพิ่ม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ประเทศเราคือประเทศมีรายได้ปานกลางต้องยอมรับ และปลดล็อกให้ได้ การใช้จ่ายงบประมาณต่าง ๆ ต้องคำนึงรายได้ของประเทศด้วย ตนเข้าใจว่า กำนัน - ผู้ใหญ่บ้านเหน็ดเหนื่อย แต่ต้องมองคนข้างล่างประชาชนเขาเหนื่อยกว่าเรา เราต้องคิดถึงเขา และขอให้คุยกับประชาชาให้เข้าใจนโยบายรัฐบาลในสิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้ด้วย วันนี้เดี๋ยวก็เข้าทางเขาอีก ปัญหาวันนี้ทั้งน้ำแล้ง เศรษฐกิจตกต่ำ รายได้ประเทศไม่ดี แต่ถ้าวันนี้คนรวยไม่ใช้เงินตนจะแช่ง เพราะเศรษฐกิจเดินได้ด้วยเงิน ถ้าคนกลัวการใช้เงินหมดเศรษฐกิจก็แย่ มีเงินมากใช้มาก เผื่อแผ่แบ่งปัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเรื่องบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ว่า ได้วางแผนระยะยาวถึงปี 2560 โดยทุกหมู่บ้านต้องมีน้ำประปา และเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก วันนี้ปัญหาภัยแล้งต้องช่วยกันแก้ค่อย ๆ แก้ อย่างเพิ่งเรียกร้องอะไรรัฐบาลกำลังดำเนินการทุกอย่าง ไม่ใช่ตนไม่ห่วงชาวนา ตื่นมาก็เป็นห่วง ตนไม่เคยคิดเอื้อประโยชน์ใคร แต่เราต้องวางอนาคต
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวกับตัวแทนสมาคมกำนัน - ผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ที่มารอพบรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ว่า กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน มีความสำคัญต่อความสงบเรียบร้อย กลไกของประเทศชาติทั้งหมดจะลงไปสู่ประชาชนได้ ต้องมีกำนัน - ผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น ไม่มีใครจะมายุบกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ได้ ชาวมหาดไทยเราเรียนรู้ดีในการปกครองท้องที่ กำนัน - ผู้ใหญ่บ้านและกลไกทางด้านความมั่นคงของเราด้านท้องที่มีความสำคัญในทุก ๆ เรื่อง ทั้งเรื่องความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความสงบเรียบร้อย กลไกของประเทศชาติทั้งหมดที่จะลงไปสู่ประชาชนได้ มีกลไกเดียวเท่านั้น ก็คือ ท่าน ทหารก็ไม่ใช่ เพราะทหารไม่มีกลไกถึงชาวบ้าน แต่ท้องที่เป็นกลไกของประเทศชาติที่อยู่คู่กับประชาชน
“ผมอยากฝากเรื่องยุบกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ไม่มีใครยุบได้ เหลือเพียงอย่างเดียว คือ ทำตัวเราให้มีค่า ทำตัวเราให้คนทั้งชาติเห็นความสำคัญของสถาบันท้องที่ ที่อยู่มาตั้งแต่ปี 2457 เดี๋ยวนี้กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ก็มีความพัฒนาขึ้น สิ่งสำคัญที่กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน จะต้องมีต่อไป คือความศรัทธาของคนในพื้นที่ ท่านได้ผ่านการเลือกตั้งเป็นสิ่งประกันอย่างหนึ่ง ว่า ประชาชนถือว่าท่านจะเป็นผู้ช่วยเหลือเขาได้ หรือเรียกว่าท่านเป็นผู้มีบารมี อยากวิงวอนให้ท่านทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ให้ดีที่สุด สมกับที่สถาบันนี้อยู่มายืนยาว รัฐบาลหวังว่าไม่ว่าอะไรทั้งสิ้นท่านจะบันดาลให้เกิดขึ้นได้” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ตนอยากมีเวลาพูดคุยกับกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน อย่างเต็มที่ คุยกันอย่างเปิดอก ท่านอยากถามอะไรตนก็ถามได้เลย ตนผ่านมาของทุก ๆ สี ที่มีเรื่องกัน ทุก ๆ รัฐบาล ตนจะอธิบายท่านได้ และเราจะได้พูดคุยกันว่าประเทศชาติของเราท่านจะต้องยอมรับว่ามันเดินอยู่บนความขัดแย้งไม่ได้ ตนว่าทุกคนได้อยู่ในช่วงวิกฤตในปี 49 มากับตน นี่จะ 10 ปีแล้ว ที่อยู่ในวังวนของความขัดแย้ง สิ่งที่เกิดขึ้นคือความบาดหมางของคนในชาติ เดี๋ยวนี้เวลาพูดกันต้องพูดว่าสีอะไร ที่เขารบกันทั่วโลก เขาถามว่าศาสนาอะไร เชื้อชาติอะไร และเขาตีกันเพราะคนละพวกกัน แต่ของไทยไม่มี ไม่เคยถาม ไม่ถามว่าสีอะไร และนำเอาความที่ชอบไม่เหมือนกันมาเป็นความขัดแย้ง ตนอยากวิงวอนท่านในฐานะเป็นนักปกครอง ท่านจะเลี่ยงไม่ได้ ท่านจะผ่านหลักสูตรอะไรมาตนไม่รู้ รู้แต่ท่านเป็นนักปกครองที่อยู่กับประชาชน ผ่านกลไกรัฐบาลมา ถ้าเทียบกับทหารแล้ว ถ้าหมู่คนเล็กรบไม่เป็น หมวดมันก็รบไม่ได้หรอก ถ้าหมวดรบไม่เป็น กองร้อยกองพันก็รบไม่ได้ คือเซลล์เล็ก ๆ จะต้องทำเป็น นั่นคือประเทศชาติจะสงบสุข มีความเรียบร้อย คนในระดับหมู่บ้านจะต้องดี ทำอะไรลงไปจะต้องดี
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ประเทศชาติของเราเดินบนความขัดแย้งสูงมานานเกินไปแล้ว จนกระทั่งเป็นความร้าวฉานของคนในชาติ ไม่มีตำราไหนสอนให้ท่านเป็นสีสันไหน คุณจะชอบสีอะไรไม่ว่า แต่พูดกันด้วยเหตุผล หลักการ ว่าคนไทยจะต้องอยู่ร่วมกัน อย่างที่ท่านทราบเราก็ต้องดูแลคนอพยพมา คนผิดกฎหมายเราก็ต้องดูแล เราเป็นคนไทยอยู่ด้วยกัน อย่าคิดแตกแยก อย่าคิดขัดแย้ง ตนเรียนว่าทำไม่ได้ ขอฝากผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ให้พูดคุยกับพวกท่าน ตนเน้นไปแล้วว่าความขัดแย้งของคนในชาติมีไม่ได้ เห็นต่างได้ ชอบต่างได้ แต่ต้องพูดด้วยเหตุผล อย่าพูดด้วยความมอมเมา ความขัดแย้งไม่ได้สร้างให้ประเทศเจริญ ถ้าได้คุยกันท่านจะรู้ว่าผมเองก็ไม่ได้วิโสอะไร ตนทำตามด้วยเหตุผล อำนาจหน้าที่ ไม่เคยคิดเป็นอื่น
รมว.มหาดไทย กล่าวต่อว่า เรื่องที่เป็นปัญหาวาระแห่งชาติในเวลานี้ คือ เรื่องยาเสพติด การค้ามนุษย์ ฯลฯ งานของกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน จึงเป็นงานหนัก คุณตั้งรัฐมนตรียี่สิบสามสิบคนก็ทำไม่ได้ เพราะคนจะทำเรื่องนี้ได้อยู่ที่กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันดูแลลูกบ้าน ทำอย่างไรไม่ให้เกิดความต้องการยาเสพติด ไม่ให้เกิดปัญหาต่าง ๆ งานของกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน เป็นงานหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะไม่มีการยุบกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ท่านนายกฯก็พูด ไม่มีใครไปยุบหรอก และจะดูแลให้มากขึ้นอย่างไร เมื่อเช้าก็มีการพูดเรื่องเงินเดือนจะขยับได้หรือไม่อย่างไร
“สำหรับผมไม่มีวาระอื่น พวกผมไม่ใช่การเมือง ไม่มีเรื่องเงินทอง ไม่มีเรื่องสี ผมและรัฐมนตรีช่วยฯเอาหัวเป็นประกันว่าไม่ยุ่ง ขอเพียงให้ผู้ว่าฯ กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ยืนให้อยู่ถ้ามีวิกฤตประเทศชาติ ถ้ายืนไม่อยู่ในจุดที่ยืนอยู่ ประเทศชาติวิกฤต ท่านจำคำผมไว้อย่างหนึ่ง ถ้าวิกฤตคราวหน้าอาวุธมาแน่ รับรองได้ว่าทุกพวกมีอาวุธทั้งนั้น แต่ถ้าตัวเองถือยังไม่ค่อยแรง เขาก็จะไปจ้างอดีตทหารพรานถือปืนรบกันแน่นอน ผมยืนยันว่า ความวิกฤต ความวิบัติของชาติจะเกิดขึ้น ท่านอย่าให้เกิดขึ้น ขอให้ทำหน้าที่ให้สมกับสถาบันปกครองท้องที่ที่อยู่กับประเทศไทยมานาน ทำให้เกิดมรรคผลกับประเทศ ใครจะมายุ่งมาเปลี่ยนแปลงเทศบาล อบจ. อบต. ไม่ได้ อยากให้ท่านมีเกียรติมีศักดิ์ศรีมากกว่านี้ ซึ่งจะต้องค่อย ๆ ดูกันไป เห็นแต่มีศักดิ์ศรี แต่ถ้าเงินเดือนไม่ให้ก็ไม่ค่อยไหวเหมือนกัน ผมทราบภาระท่านเยอะ ท่านนายกฯก็รู้ ก็ทราบ พูดคุยเปิดอกได้ไม่เป็นไร” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า นายยงยุทธ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ยื่นข้อเรียกร้องแก่นายกฯ 3 ข้อประกอบด้วย ข้อ 1 ให้รัฐบาลสนับสนุนตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้านให้อยู่ต่อไปในการปกครองส่วนท้องถิ่น 2 ขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้านตามงบของประเทศที่มี และ 3 ขอชื่นชมคำสั่ง คสช. ที่ช่วยเหลือคนจนในประเทศมีการจัดสรรพื้นที่ทำกินซึ่งเป็นประโยชน์มากที่สุด