รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ถกคณะกรรมการอำนวยการโครงการ คนกล้าคืนถิ่น เผย ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป จ่อเชิญ “อภิสิทธิ์ - ยิ่งลักษณ์” ร่วมรายการเดินหน้าปฏิรูป หวังเป็นช่องทางแชร์ความรู้ในอดีตมาประยุกต์ใช้ ด้าน โฆษก คสช. เผย ชวน “จาตุรนต์” คุยการศึกษาแล้ว
วันนี้ (8 ก.ค.) ที่สโมสรทหารบก พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการ คนกล้าคืนถิ่น ครั้งที่ 2 โดยใช้เวลาการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนแถลงว่า โครงการคนกล้าคืนถิ่น ว่า เป็นการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นหลัก เพื่อมาพัฒนาให้เป็นการเกษตรทฤษฎีใหม่ มาเป็นหลักให้ประชาชนที่เคยจากถิ่นฐาน กลับมาเป็นเกษตีกรในบ้านของตนเอง เพราะการเกษตรเป็นอาชีพหลักของประเทศ ที่ผ่านมาคนยุคใหม่ซึ่งเป็นลูกหลานของคนในพื้นที่ เมื่อมีการศึกษาก็พยายามออกไปพื้นที่เมือง ทำให้พื้นที่ชนบทขาดการดูแล จากคนยุคใหม่ จึงได้เกิดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อจัดอบรมให้คนรุ่นใหม่กลับเข้ามาในพื้นที่บ้านเกิด ที่ผ่านมา ได้เปิดรับสมัครตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 58 จากนั้นเริ่มอบรมในเดือนมีนาคม ซึ่งใช้ระยะเวลา 5 วัน เพื่อให้ความรู้และความเข้าใจในหลักทฤษฎีต่าง ๆ ก่อนลงไปปฏิบัติในพื้นที่ ส่วนผู้ที่เข้าร่วมโครงการรุ่นแรกมีประมาณ 700 คน ต้องช่วยกันดูแลและให้กำลังใจ โดยมีวิทยากรและปราชญ์ชาวบ้านให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง กำกับดูแลวางแผนว่าในพื้นที่ต่าง ๆ จะปลูกอะไรได้บ้าง จนถึงขณะนี้สามารถปลูกพืชลงแปลงได้แล้วเป็นระยะเวลา 2 เดือน
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมบางพื้นที่ยอมรับว่ามีผลสำเร็จเป็นอย่างดี ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการอยู่ได้ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเราจะติดตามผลเป็นระยะเป็นเวลา 5 เดือน เชื่อว่า หลังจากนั้นทุกอย่างจะอยู่ตัวและจะเปิดรับสมัครคนรุ่นใหม่ต่อไปเพื่อขยายโครงการ ทำให้เกิดอาชีพทางการเกษตรที่มีความมั่นคงต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะต้องอาศัยเงินทุนจากภาคส่วนต่างๆเพื่อสร้างเกษตรกรรายใหม่ที่มีความแข็งแรงและเข้มแข็ง ทำให้พื้นฐานประเทศเดินหน้าอย่างมั่นคงต่อไป ส่วนประชาชนที่ไม่มีที่ดินทางรัฐจะจัดสรรให้ แต่ไม่สามารถถือครองเป็นเจ้าของได้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องได้รับการชี้แนะจาก สำนักงาน สปก. เพื่อสำรวจประชาชนที่ต้องการของพื้นที่ทำกินภายใต้เงื่อนไขที่ สปก. ระบุไว้
พลเอก อุดมเดช กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) มีแนวทางเชิญแกนนำพรรคการเมืองมาออกรายการ “เดินหน้าปฏิรูป” ว่า เป็นแนวคิดในการเปิดช่องทางให้แต่ละกลุ่มได้แสดงความคิดเห็น และนายกฯ เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ เพราะ พลเอก พิสิทธิ์ สิทธิสาร ผู้อำนวยการ ศปป. ที่มีแนวความคิดอยากให้แต่ละกลุ่มมาแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปสู่การทำแผนแนวทางปฏิรูปที่เป็นประโยชน์ และนำไปสู่ช่องทางที่เป็นไปได้ คิดว่าหลายฝ่ายมีความรู้และประสบการณ์ในอดีตในการนำมาประยุกต์ใช้ได้ในปัจจุบัน ซึ่งรายการดังกล่าวเดิมมีกำหนดออกอากาศทุกวันพุธ แต่ขณะนี้ได้เสนอหัวหน้า คสช. และรอการอนุมัติให้มาออกอากาศในวันจันทร์แทนเพื่อความต่อเนื่อง โดย ศปป. จะเชิญทุกกลุ่มทุกฝ่ายรวมถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ต้องดูความพร้อมของบุคคลที่เชิญด้วย
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า คสช. ได้เพิ่มช่องทางเพื่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน กับผู้แทนของ สปช. เพื่อประโยชน์ต่อการเดินหน้าประเทศในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องของการปฏิรูป และอาจจะมีการเชิญนักการเมือง หรืออดีตผู้บริหารหน่วยงาน ซึ่งยังไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นใคร คงจะพิจารณาเลือกจากตัวประเด็นที่น่าสนใจไว้เป็นหลักก่อน ที่ผ่านมา อยากแลกเปลี่ยนในเรื่องพลังงาน จึงได้เชิญ นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีต รมว.พลังงาน มาร่วมพูดคุยในรายการ สำหรับในวันที่ 8 ก.ค. นี้ ก็จะเป็นเรื่องของการศึกษาจึงได้เชิญ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน สำหรับสัปดาห์ต่อไปจะต้องมีการประชุมหารือกำหนดประเด็นอีกครั้ง