xs
xsm
sm
md
lg

ดึงแกนนำ"พท.-ปชป."ออกทีวี เสนอไอเดียปรองดองสมานฉันท์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (7 ก.ค.) ที่กองทัพบก พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รองเสนาธิการทหารบก และเลขาธิการรักษาความมั่นคงภายใน (ลธ.รมน.) กล่าวกับตัวแทนมูลนิธิคนไทยในบอสตัน ที่เดินทางมามอบเงินสดจำนวน 1,003,000 บาท เพื่อใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ว่า ที่ผ่านมาตนเดินทางไปต่างประเทศ และได้อธิบายให้สหรัฐฯ หรือออสเตรเลียให้ทราบว่า เมื่อรัฐบาลเดินหน้าไปตามโรดแมป ก็จะนำไปสู่การเลือกตั้ง ไม่มีการสืบทอดอำนาจ เหตุการณ์ที่ผ่านมาเราไม่มีทางออก เพราะรัฐบาลไม่ลาออก เป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถใช้จ่าย และจัดทำงบประมาณได้ อีกทั้งมีกลุ่มที่ออกมาต่อต้าน ทหารจึงเกรงว่าจะเกิดการปะทะ จะปล่อยให้สถานการณ์บานปลายไปไม่ได้ โดยไม่ต้องห่วงว่าคสช.จะสืบทอดอำนาจ ยึดถือไปตามโรดแมป เราไม่ได้หวังจะต้องอยู่จนปฏิรูปสำเร็จ เพราะบางเรื่องต้องใช้เวลา ต้องปล่อยให้รัฐบาลเลือกตั้งเข้ามาดำเนินการต่อไป และที่เวลายืดออกไปก็เพียงเล็กน้อย เพราะทุกคนต้องการให้ลงประชามติ
ที่ผ่านมาเราได้พูดคุยกับหลายกลุ่ม นักการเมืองทั้งสองฝ่าย ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จตุพร พรมพันธ์ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายจาตุรนต์ ฉายแสง มาเสนอข้อคิดเห็นในการปฏิรูปเพื่อนำไปสู่ความปรองดอง สมานฉันท์ ซึ่งทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องปฏิรูป และยังตั้งคำถามว่าสาเหตุใดที่ทำให้ทะเลาะกัน และได้ขอให้แต่ละคนเสนอแผนในการสร้างความปรองดองมาให้ ซึ่ง นายจาตุรนต์ เสนอว่า ควรจะหาคนกลางเข้ามาแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าอยู่ตรงไหน เพราะพูดอะไรออกไปก็ถูกมองว่าเป็นอีกฝ่ายหนึ่ง ขณะที่นายนพดล เป็นห่วงว่าเมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว จะเดินต่อไปได้หรือไม่ ดังนั้นก่อนการเลือกตั้งจะต้องให้ทุกพรรคการเมืองมาทำสัตยาบันกันก่อนหรือไม่ โดยทั้งสองท่านได้ส่งข้อเสนอเป็นเอกสารมาถึงตนแล้ว แต่ตนได้ให้ไปปรับปรุง และนำมาเสนอมาใหม่ ขณะที่ นายสุรพงษ์ ยังไม่ได้มีการส่งการบ้านมา ก็ขอให้ส่งข้อเสนอแนะเหล่านั้นมาได้
"อยากให้พวกท่าน ซึ่งอยู่ในต่างประเทศได้ไปชี้แจงสถานการณ์ในประเทศให้ต่างชาติได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทหารไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจ ที่ผ่านมาพยายามทำให้บ้านเมืองสงบและเดินไปได้ ทำให้กฎหมายเป็น อย่างบางคนหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ทราบว่าพระองค์ท่านไปทำอะไรให้ และยังไปบิดเบือนว่า ใช้ ม.112 เพื่อประโยชน์ทางการเมือง คนที่ทำผิดกฎหมาย เมื่อถูกจับแล้วรับไม่ได้ ผมก็อธิบายให้ฝรั่งเข้าใจว่า ในหลวง หรือ ราชวงศ์ คงไม่ออกมาฟ้องร้อง ซึ่งเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ดำเนินการ เราไม่เคยใช้มาตรานี้ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองแต่อย่างใด อย่างกรณีของ นายสุรชัย แซ่ด่าน เราเห็นว่าสุขภาพไม่ดี มีการขอพระราชทานอภัยโทษให้ แล้วเป็นอย่างไร ก็ออกมาต่อว่าเหมือนเดิม ไม่ยอมเลิก ทั้งที่สถาบันฯ ไม่เคยไปยุ่งอะไรกับท่านหรือแม้กระทั่งองคมนตรีที่ถูกกล่าวหา ท่านก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย" พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าว
พล.อ.ฉัตรเฉลิม ยังกล่าวถึงความคืบหน้า ในการเชิญกลุ่มการเมืองพูดคุยผ่านรายการเดินหน้าปฏิรูป ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ว่า เป็นการเชิญอดีตนักการเมือง ทั้งฝ่ายพรรคเพื่อไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ มาช่วยให้ความคิดเห็นในการปฏิรูป พร้อมทั้งจะเชิญประธานคณะกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านต่างๆ มาร่วมพูดคุย เพื่อพิจารณาให้เป็นประโยชน์ในการปฏิรูป โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้เชิญ นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีต รมว.พลังงาน มาพูดคุย ส่วนสัปดาห์นี้ วันพุธ เวลา 21.00-22.00 น. จะเชิญ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ จะมาให้ความคิดเห็นด้านการศึกษา โดยจะมีรายการทุกอาทิตย์ ส่วนสัปดาห์ถัดไป จะไปพิจารณาอีกที
อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนรับชมด้วย ส่วนจะเชิญนักศึกษามาด้วยหรือไม่ ตนจำได้ว่า ได้เคยเชิญนักศึกษามาแล้ว ถ้าอยากมาแสดงความคิดเห็นทางเราก็ยินดี เพราะเรามีเวทีให้ ทั้งนี้ตนขอร้องให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วยที่ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะสื่อมวลชนต้องช่วยเผยแพร่ด้วย แต่พวกท่านก็ไม่ช่วยเผยแพร่เลย ถ้าสื่อมวลชนช่วยบ้านเมืองก็จะสงบสุข คอลัมนิสต์ช่วยกันเขียนอะไรที่ดีๆ ด้วย
" ถ้าประเด็นใดไม่จริง สื่อก็ไม่ต้องไปลงเอาเรื่องที่มีเค้า ก็น่าจะไปได้ แต่ถ้าเป็นการกรุข่าว แล้วจะกลายเป็นความขัดแย้งขึ้นมา ใครก็ไม่อยากให้เกิด แต่เราอยากให้ประเทศชาติเดินได้ ส่วนการเชิญสื่อมวลชนมาทำความเข้าใจร่วมกันอีกหรือไม่ ผมเข้าใจว่าเชิญสื่อมวลชนมาพูดคุยกันทั้งหมด และขอร้องให้เสนอข่าวเชิงบวกหน่อย อะไรที่เป็นข่าวลือ อย่ามาเผยแพร่ได้ไหม แต่จะเชิญมาอีกหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับสื่อเอง ถ้าเสนอข่าวเท็จ แล้วบ้านบ้านแตกตื่น ก็ต้องมาคุยกันว่าไปเอาข้อมูลมาอย่างไร จนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้" พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า หลังจากศาลทหารปล่อยตัวนักศึกษา 14 คน จะไปทำความเข้าใจกันอย่างไร พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าว ประเด็นนี้ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) จะเป็นคนรับผิดชอบ แต่ในส่วนของตนรับผิดชอบในภาพใหญ่ อย่างไรก็ตาม ต้องหาหนทางดูอีกที เพื่อป้องกันมาให้บ้านเมืองกลับไปสู่สภาพวุ่นวาย เพราะตอนนี้เราใกล้เดินไปสู่รัฐบาลใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย โดยนายกรัฐมนตรี ไม่เคยคิดสืบทอดอำนาจเลย
พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าวถึงการดำเนินการกับบุคคลที่ละเมิดสถาบันในต่างประเทศ ว่า มีหลายฝ่ายพยายามจะโยงประเด็นนี้เป็นเรื่องการเมือง แต่เราไม่เคยใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเลย ถ้าลองไปดูบุคคลที่กระทำผิด ถามว่ารับได้หรือไม่ ก็รับไม่ได้ ในทางกลับกันเราปฏิบัติตามกฎหมาย อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าไม่ปฏิบัติตามนี้ก็จะถูกมองว่าสองมาตรฐานอีก อีกทั้งถ้าไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรมจะอยู่กันได้อย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น