“จาตุรนต์” เผย คุย คปป.ใน 4 ประเด็น ย้ำหากทำประชามติร่าง รธน.ต้องเปิดกว้างให้ทั้งผู้สนับสนุนและผู้ค้านแสดงออกอย่างเสรี ขณะเดียวกันต้องมีทางออกที่ชัดเจนหากประชามติไม่ผ่านจะทำอย่างไร ไม่ใช้ยกร่างฯไปเรื่อยๆ
ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อเวลา 10.45 น. วันนี้ (17 มิ.ย.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมพูดคุยตามคำเชิญของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ว่า การหารืออยู่ใน 4 ประเด็นคือ การบริหารและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยรวม การปฎิรูปร่างรัฐธรรมนูญ การแก้ไขความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง และการรับฟังความเห็นที่แตกต่าง
สำหรับเรื่องการทำประชามตินั้นยืนยันว่า ต้องมีการทำประชามติ โดยควรเป็นการดำเนินการที่เสรี สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างกว้างขวางทั้งผู้สนับสนุนและไม่สนับสนุน รวมทั้งควรมีทางออกที่ชัดเจนว่า ถ้าทำประชามติไม่ผ่านแล้วจะทำอย่างไร ไม่ใช่จะร่างรัฐธรรมนูญไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ตนยังยืนยันความเห็นเดิมว่า หากไม่แก้ไขสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้และให้มีการบังคับใช้นั้น จะทำให้เกิดความขัดแย้งความเสียหายขึ้นในอนาคต ประเทศจะไม่เป็นประชาธิปไตย สุดท้ายบ้านเมืองจะเสียหายไม่มีเสถียรภาพ รัฐบาลบริหารประเทศต่อไม่ได้ และหากไม่ทำประชามติอย่างเสรีจะทำให้เสียเงินเปล่า ขอย้ำว่า อย่าทำประชามติแบบมัดมือชกเพียงให้ประชาชนออกมาแสดงความเห็นแค่เห็นด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้วเราจะได้กติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เราจะได้เพียงแค่ความสงบที่ไม่ยั่งยืน สุดท้ายบ้านเมืองก็จะเกิดความขัดแย้งอีก
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การปฏิรูปที่ผ่านมาไม่ได้พูดถึงที่มาของมูลเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง กฎหมายที่ไม่เป็นกฎหมาย รัฐบาลรักษากฎหมายไม่ได้ ถ้าเราได้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย สิ่งที่จะตามมาคือความไม่สงบ และสุดท้ายกองทัพจะต้องออกมายึดอำนาจอีก ดังนั้นต้องตั้งคำถามว่า ต้องการให้เกิดความสงบขึ้นหรือไม่ ถ้าต้องการความสงบที่ยั่งยืนต้องมีการแลกเปลี่ยนความเห็นที่กว้างขวาง
ทั้งนี้ เสนาธิการทหารบกได้รับร่างโครงการเสวนาเพื่อรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับความปรองดองในประเทศไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตนได้เสนอให้เสนาธิการทหารบกไปเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้ขอให้คิดต่อในการเชิญผู้ที่มีความรู้ มีประสบการณ์ มาร่วมหารือเพื่อสร้างความปรองดองต่อไปด้วย
