พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการร่างรัฐธรรมนูญ ของคณะกรรมาธิการร่างฯ ว่า ต้องมีการหารือกันอีกในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีการรวบรวมข้อมูลต่างๆ จากทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้ก็ให้ดำเนินการรับข้อมูลความคิดเห็นอยู่แล้ว ในส่วนราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เราจะมีการรวบรวมส่งให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ตามขั้นตอนต่อไป และคงมีการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ คสช. ในวันที่ 19 พ.ค. นี้ ตนขอให้หลังจากการหารือเรียบร้อยแล้ว ในส่วนข้อดี ข้อเสียอย่างไร ควรแก้ไข ไม่ควรแก้ไขอย่างไร ก็ขอให้ทางผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำงานอีกเล็กน้อย ก็คงจะกระจ่างชัดว่าทาง คสช. มีความเห็นอย่างไร ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า มีพรรคการเมืองจะขอประชุมร่วมกับทางศูนย์ปรองดองเพื่อสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) มีแนวคิดที่จะมีการประชุมร่วม หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ในการประชุมของทางพรรคการเมือง หากมีการประชุมร่วม อาจมีการพูดไปคนละทางสองทาง คงไม่เรียบร้อย ซึ่งหากมีการพูดคุยอย่างนั้น อาจจะนำไปสู่ความคิดเห็นที่แตกต่างมาก ในขณะนี้ทางนายกฯได้มีนโยบายที่อยากจะให้ ศปป. เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องการพูดคุย เพื่อความปรองดอง ซึ่งการประชุมครั้งที่ผ่านมา เมื่อเดือนเม.ย. เราได้เชิญกลุ่มฝ่ายต่างๆ อาทิ พรรคการเมือง นักวิชาการ นักศึกษา นักกฎหมาย มาหารือเพื่อมาพูดคุย ทางศปป. ก็ได้จัดเตรียมสถานที่ เตรียมห้องในการพูดคุยให้ ถ้าหากผู้ที่เข้าร่วมหารือ อยากที่จะแยกการพูดคุยกันเป็นกลุ่ม เราก็จัดเตรียมห้องไว้ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจึงนำข้อมูลมาแชร์กันในภาพรวม ถ้าทำอย่างนี้ มันอยู่ในกรอบ ทำได้ และเดินต่อไปได้
"จะมาเปิดเวที ทางโน้นที ทางนี้ที มันไม่พร้อมเพียงกัน ขาดการทำความเข้าใจ ขาดการดูแลกัน อาจจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีขึ้นได้ ผมคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ หลายพื้นที่ที่คุยกัน เห็นด้วยกับการที่ทำให้บ้านเมืองสงบ ซึ่งตอนนี้เราเดินมาได้ด้วยดีแล้ว ต้องขอร้องจริงๆว่า อะไรก็ตามที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ กลุ่มต่างๆ ที่เห็นต่าง ก็ต้องพยายามร่วมมือกัน อดทนกันให้การปรับแก้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำร่างรัฐธรรมนูญ และการจัดทำรัฐธรรมนูญ การดำเนินการในการปฏิรูปต่างๆ ต้องเป็นไปด้วยความราบรื่น ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร บอกมาเลย ส่งความคิดเห็นได้หลายช่องทาง ตามที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่ไปแล้วมากมาย จะไปออกตามเวทีต่างๆ ที่จัดขึ้นเองนั้นไม่ได้ มีปัญหาแน่นอน ผมขอร้องนะครับว่า ตอนนี้หากมีการเคลื่อนไหวอะไร ก็ไม่สมควร ขอให้มีรัฐธรรมนูญเป็นตามขั้นตอนไป จุดหมายของทาง คสช.นั้น เป็นไปอย่างที่ท่านนายกฯ ท่านได้พูดไว้แล้ว ที่จะดำเนินการตามกรอบที่เคยพูดไว้ จะช้าจะเร็วอย่างไร ก็เป็นไปตามความจำเป็น ถ้าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ทุกอย่างก็เดินไปได้ด้วยความรวดเร็ว" พล.อ.อุดมเดช กล่าว
เมื่อถามว่า มีพรรคการเมืองจะขอประชุมร่วมกับทางศูนย์ปรองดองเพื่อสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) มีแนวคิดที่จะมีการประชุมร่วม หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ในการประชุมของทางพรรคการเมือง หากมีการประชุมร่วม อาจมีการพูดไปคนละทางสองทาง คงไม่เรียบร้อย ซึ่งหากมีการพูดคุยอย่างนั้น อาจจะนำไปสู่ความคิดเห็นที่แตกต่างมาก ในขณะนี้ทางนายกฯได้มีนโยบายที่อยากจะให้ ศปป. เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องการพูดคุย เพื่อความปรองดอง ซึ่งการประชุมครั้งที่ผ่านมา เมื่อเดือนเม.ย. เราได้เชิญกลุ่มฝ่ายต่างๆ อาทิ พรรคการเมือง นักวิชาการ นักศึกษา นักกฎหมาย มาหารือเพื่อมาพูดคุย ทางศปป. ก็ได้จัดเตรียมสถานที่ เตรียมห้องในการพูดคุยให้ ถ้าหากผู้ที่เข้าร่วมหารือ อยากที่จะแยกการพูดคุยกันเป็นกลุ่ม เราก็จัดเตรียมห้องไว้ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจึงนำข้อมูลมาแชร์กันในภาพรวม ถ้าทำอย่างนี้ มันอยู่ในกรอบ ทำได้ และเดินต่อไปได้
"จะมาเปิดเวที ทางโน้นที ทางนี้ที มันไม่พร้อมเพียงกัน ขาดการทำความเข้าใจ ขาดการดูแลกัน อาจจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีขึ้นได้ ผมคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ หลายพื้นที่ที่คุยกัน เห็นด้วยกับการที่ทำให้บ้านเมืองสงบ ซึ่งตอนนี้เราเดินมาได้ด้วยดีแล้ว ต้องขอร้องจริงๆว่า อะไรก็ตามที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ กลุ่มต่างๆ ที่เห็นต่าง ก็ต้องพยายามร่วมมือกัน อดทนกันให้การปรับแก้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำร่างรัฐธรรมนูญ และการจัดทำรัฐธรรมนูญ การดำเนินการในการปฏิรูปต่างๆ ต้องเป็นไปด้วยความราบรื่น ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร บอกมาเลย ส่งความคิดเห็นได้หลายช่องทาง ตามที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่ไปแล้วมากมาย จะไปออกตามเวทีต่างๆ ที่จัดขึ้นเองนั้นไม่ได้ มีปัญหาแน่นอน ผมขอร้องนะครับว่า ตอนนี้หากมีการเคลื่อนไหวอะไร ก็ไม่สมควร ขอให้มีรัฐธรรมนูญเป็นตามขั้นตอนไป จุดหมายของทาง คสช.นั้น เป็นไปอย่างที่ท่านนายกฯ ท่านได้พูดไว้แล้ว ที่จะดำเนินการตามกรอบที่เคยพูดไว้ จะช้าจะเร็วอย่างไร ก็เป็นไปตามความจำเป็น ถ้าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ทุกอย่างก็เดินไปได้ด้วยความรวดเร็ว" พล.อ.อุดมเดช กล่าว