xs
xsm
sm
md
lg

เสธ.ทบ.ยันใช้ ม.112 ปกป้องสถาบัน เชิญนักการเมืองจ้อทุกพุธ ขอสื่ออย่าลงข่าวลือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก (แฟ้มภาพ)
“บิ๊กเบี้ยว” ยัน รบ. เดินตามโรดแมป ปัดสืบทอดอำนาจ ไม่ได้อยู่จนปฏิรูปสำเร็จ เหตุต้องใช้เวลา รับคุยนักการเมืองเห็นพ้องปฏิรูป ขอคนไทยต่างแดน ช่วยแจง ปัดใช้ ม.112 เพื่อประโยชน์การเมือง แจง จนท. ต้องฟ้องแทนสถาบัน เผย เชิญนักการเมืองจ้อปฏิรูปทุกพุธ ยินดี นศ. ร่วมได้ วอนสื่อช่วยเขียนอะไรดี ๆ อย่าลงเรื่องเท็จ ข่าวลือ จับตาเชิญคุยอีกหรือไม่ ชี้ ศปป. รับผิดชอบทำความเข้าใจ นศ.

วันนี้ (7 ก.ค.) พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก ฐานะรองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ เลขาธิการรักษาความมั่นคงภายใน (ลธ.รมน.) กล่าวกับตัวแทนมูลนิธิคนไทยในบอสตัน ที่เดินทางมามอบเงินสดจำนวน 1,003,000 บาท เพื่อใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ว่า ที่ผ่านมา ตนเดินทางไปต่างประเทศ และได้อธิบายให้สหรัฐฯ หรือ ออสเตรเลียให้ทราบว่า เมื่อรัฐบาลเดินหน้าไปตามโรดแมปก็จะนำไปสู่การเลือกตั้ง ไม่มีการสืบทอดอำนาจ เหตุการณ์ที่ผ่านมา เราไม่มีทางออก เพราะรัฐบาลไม่ลาออก เป็นรัฐบาลรักษาการไม่สามารถใช้จ่าย และ จัดทำงบประมาณในปีหน้าได้ อีกทั้งมีกลุ่มที่ออกมาต่อต้าน ทหารจึงเกรงว่าจะเกิดการปะทะ เราจึงปล่อยให้สถานการณ์บานปลายไปไม่ได้ โดยไม่ต้องห่วงว่า คสช. จะสืบทอดอำนาจ ยึดถือไปตามโรดแมป เราไม่ได้หวังจะต้องอยู่จนปฏิรูปสำเร็จ เพราะบางเรื่องต้องใช้เวลา ต้องปล่อยให้รัฐบาลเลือกตั้งเข้ามาดำเนินการต่อไปกฎหมาย และที่เวลายืดออกไปก็เพียงเล็กน้อย เพราะทุกคนต้องการให้ลงประชามติ

พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ได้พูดคุยกับหลายกลุ่ม นักการเมืองทั้งสองฝ่าย ทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายจาตุรนต์ ฉายแสง มาเสนอข้อคิดเห็นในการปฏิรูปเพื่อนำไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ ซึ่งทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่าต้องปฏิรูป และยังตั้งคำถามว่าสาเหตุใดที่ทำให้ทะเลาะกัน และได้ขอให้แต่ละคนเสนอแผนในการสร้างความปรองดองมาให้ ซึ่ง นายจาตุรนต์ เสนอว่า ควรจะหาคนกลางเข้ามาแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าอยู่ตรงไหน เพราะพูดอะไรออกไปก็ถูกมองว่าเป็นอีกฝ่ายหนึ่ง ขณะที่ นายจาตุรนต์ เป็นห่วงว่าเมื่อมีการเลือกตั้งแล้วจะเดินต่อไปได้หรือไม่ ดังนั้น ก่อนการเลือกตั้งจะต้องให้ทุกพรรคการเมืองมาทำสัตยาบันกันก่อนหรือไม่ โดยทั้งสองท่านได้ส่งข้อเสนอเป็นเอกสารมาถึงตนแล้ว แต่ตนได้ให้ไปปรับปรุงและนำมาเสนอมาใหม่ ขณะที่ นายสุรพงษ์ ยังไม่ได้มีการส่งการบ้านมา ก็ขอให้ส่งข้อเสนอแนะเหล่านั้นมาได้

“อยากให้พวกท่านซึ่งอยู่ในต่างประเทศได้ไปชี้แจงสถานการณ์ในประเทศให้ต่างชาติได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทหารไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจ ที่ผ่านมา พยายามทำให้บ้านเมืองสงบ และเดินไปได้ ทำให้กฎหมายเป็น อย่างบางคนหนีคดีหมื่นพระบรมเดชานุภาพไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ทราบว่าพระองค์ท่านไปทำอะไรให้ และยังไปบิดเบือนว่า ใช้ ม.112 เพื่อประโยชน์ทางการเมือง คนที่ทำผิดกฎหมาย เมื่อถูกจับแล้วรับไม่ได้ ผมก็อธิบายให้ฝรั่งเข้าใจว่า ในหลวง หรือ ราชวงศ์ คงไม่ออกมาฟ้องร้อง ซึ่งเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ดำเนินการ เราไม่เคยใช้มาตรานี้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองแต่อย่างใด อย่างกรณีของ สุรชัย แซ่ด่าน เราเห็นว่าสุขภาพไม่ดี มีการขอพระราชทานอภัยโทษให้ แล้วเป็นอย่างไร ก็ออกมาต่อว่าเหมือนเดิม ไม่ยอมเลิก ทั้งที่สถาบันไม่เคยไปยุ่งอะไรกับท่าน หรือแม้กระทั่งองคมนตรีที่ถูกกล่าวหา ท่านก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย มีแต่พวกเราทำกันเอง” พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าว

พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าวถึงความคืบหน้าในการเชิญกลุ่มการเมืองพูดคุยผ่านรายการเดินหน้าปฏิรูปที่ออกอากาศช่องสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ว่า เป็นการเชิญอดีตนักการเมืองทั้งฝ่ายพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ มาช่วยให้ความคิดเห็นในการปฏิรูป พร้อมทั้งจะเชิญประธานคณะกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านต่างๆ มาร่วมพูดคุย เพื่อพิจารณาให้เป็นประโยชน์ในการปฏิรูป โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้เชิญ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน พูดคุย ส่วนสัปดาห์นี้วันพุธ เวลา 21.00 - 22.00 น. จะเชิญ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ จะมาให้ความคิดเห็นด้านการศึกษา โดยจะมีรายการทุกอาทิตย์ ส่วนสัปดาห์ถัดไปจะไปพิจารณาอีกที อย่างไรก็ตาม ก็อยากให้ประชาชนรับชมด้วย ส่วนจะเชิญนักศึกษามาด้วยหรือไม่ ตนจำได้ว่าได้เคยเชิญนักศึกษามาแล้ว ถ้าอยากมาแสดงความคิดเห็นทางเราก็ยินดี เพราะเรามีเวทีให้ ทั้งนี้ ตนขอร้องให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วยที่ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะสื่อมวลชนต้องช่วยเผยแพร่ด้วย แต่พวกท่านก็ไม่ช่วยเผยแพร่เลย ถ้าสื่อมวลชนช่วยบ้านเมืองก็จะสงบสุข คอลัมนิสต์ช่วยกันเขียนอะไรที่ดี ๆ ด้วย

“ถ้าประเด็นใดไม่จริงสื่อก็ไม่ต้องไปลง เอาเรื่องที่มีเค้าก็น่าจะไปได้ แต่ถ้าเป็นการกุข่าว แล้วจะกลายเป็นความขัดแย้งขึ้นมา ใครก็ไม่อยากให้เกิด แต่เราอยากให้ประเทศชาติเดินได้ ส่วนการเชิญสื่อมวลชนมาทำความเข้าใจร่วมกันอีกหรือไม่ ผมเข้าใจว่าเชิญสื่อมวลชนมาพูดคุยกันทั้งหมด และขอร้องให้เสนอข่าวเชิงบวกหน่อย อะไรที่เป็นข่าวลือ อย่ามาเผยแพร่ได้ไหม แต่จะเชิญมาอีกหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับสื่อเอง ถ้าเสนอข่าวเท็จ แล้วบ้านบ้านแตกตื่นก็ต้องมาคุยกันว่าไปเอาข้อมูลมาอย่างไร จนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้” พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าว

เมื่อถามว่า หลังจากศาลทหารปล่อยตัวนักศึกษา 14 คน จะไปทำความเข้าใจกันอย่างไร พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าวว่า ประเด็นนี้ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) จะเป็นคนรับผิดชอบ แต่ในส่วนของตนรับผิดชอบในภาพใหญ่ อย่างไรก็ตาม ต้องหาหนทางดูอีกที เพื่อป้องกันมาให้บ้านเมืองกลับไปสู่สภาพวุ่นวาย เพราะตอนนี้เราใกล้เดินไปสู่รัฐบาลใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย โดยนายกรัฐมนตรีไม่เคยคิดสืบทอดอำนาจเลย

พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าวถึงการดำเนินการกับบุคคลที่ละเมิดสถาบันในต่างประเทศ ว่า มีหลายฝ่ายพยายามจะโยงประเด็นนี้เป็นเรื่องการเมือง แต่เราไม่เคยใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเลย ถ้าลองไปดูบุคคลที่กระทำผิด ถามว่ารับได้หรือไม่ ก็รับไม่ได้ ในทางกลับกันเราปฏิบัติตามกฎหมาย อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าไม่ปฏิบัติตามนี้ก็จะถูกมองว่าสองมาตรฐานอีก อีกทั้งถ้าไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรมจะอยู่กันได้อย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น