“ประยุทธ์” เยี่ยมชมบูทนิทรรศการ ห้ามสื่อเกาะติด หงุดหงิดป้ายนำมาแสดงเขียนไม่เข้าใจ เขียนแก้โชว์ ก่อนหยุดการบรรยายจัดการน้ำอธิบดีกรมชลฯ ติง แจงต้นน้ำไม่ตรง พร้อมสั่งหาที่เก็บกักน้ำ เผยปรับงบฯ เจาะบ่อบาดาลเพิ่มเป็น 1 พันแห้งแก้ภัยแล้ง วอนประหยัดน้ำ ดันจัดโซนนิ่งแก้ปัญหาอนาคต เล็งพัฒนาระบบขนส่ง ส่งต่อรัฐบาลหน้า เหตุงบสูง อย่ากังวลโปร่งใส รับโครงการใหญ่เชียงใหม่ให้หมดไม่ได้
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 2 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เยี่ยมชมบูทนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ ที่มาจัดแสดงภายในศูนย์ประชุมนานาชาติฯ โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวติดตามเข้าไปทำข่าว ทั้งนี้ ปรากฏว่าในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้าหงุดหงิดและได้ตำหนิการจัดทำป้ายที่นำมาแสดงที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ พร้อมกับได้แนะนำ และได้นำปากกาเคมีมาเขียน และลากเส้นด้วยมือตัวเองทับลงบนบอร์ดการแสดง
นอกจากนี้ยังได้ชมการออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นเป้สะพายหลัง พร้อมหยิบเป้ขึ้นมาสะพาย และแนะนำว่าขอให้ออกแบบให้ดีกว่านี้ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม, พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการน้ำ คสช.ได้เดินมาถึงบูทของกรมชลประทานที่นำโมเดลการบริหารการจัดการน้ำมาจัดแสดง มีนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทานเป็นผู้บรรยาย โดยนายเลิศวิโรจน์บรรยายว่าโมเดลนี้แสดงให้เห็นการบริหารจัดการน้ำของ จ.เชียงใหม่ ที่นำแนวพระราชดำริมาเป็นแนวทางที่จะจัดการป้องกันน้ำท่วม แต่ปรากฏว่าขณะที่นายเลิศวิโรจน์กำลังชี้มือบรรยายอยู่นั้น พล.อ.ประยุทธ์มีสีหน้าหงุดหงิด และได้ดึงมือของนายเลิศวิโรจน์ออกจากโมเดลทันที พร้อมบอกว่าพอๆ โดยนายกฯ ได้ถามว่าต้นน้ำมาจากทางไหน และสั่งให้ข้าราชการกรมชลประทานอีกคนใช้ไม้ชี้ให้ดู ขณะที่นายเลิศวิโรจน์ได้แต่ยืนยิ้มอยู่ด้านหลังนายกฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า ข้าราชการคนดังกล่าวได้ชี้แจงว่า เส้นนี้คือแม่น้ำปิง และแม่น้ำแม่แตง ที่จะเข้า จ.เชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังมีสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด และถามต่อว่าต้นน้ำมาจากไหน ข้าราชการรายนั้นได้ตอบว่ามาจากเวียงแหง พล.อ.ประยุทธ์ถามอีกว่า เวียงแหงมาจากตรงไหน มาจากบนเขา ในเขา หรือว่าต้นไม้ มาจากป่าใช่ไหม แล้ววันนี้มันแห้งหรือยัง ยังมีไหลอยู่หรือไม่ เพราะอะไรทำไมถึงเหลือน้อย เมื่อข้าราชการคนดังกล่าวตอบว่าฝนน้อย นายกฯ จึงถามอีกว่าทำไมฝนถึงน้อย ข้าราชการตอบว่า “เพราะป่าครับ” พล.อ.ประยุทธ์จึงได้พูดว่า แล้วใครต้องดูแลป่า เพราะเมื่อมันไม่มีน้ำ บรรยายมาทั้งหมดมันก็ไม่มีน้ำ จะทำยังไงให้ต้นน้ำมาได้ก็ต้องมีต้นไม้ ก็ต้องเสริมไปเรื่อยๆ แล้วต้นน้ำไม่มีน้ำ จะเอาน้ำที่ไหนไหลลงมา จากนั้นข้าราชการคนดังกล่าวก็ยืนนิ่งไป จนทำให้นายกฯ เอื้อมมือไปคว้าไม้มาชี้ที่โมเดลด้วยตัวเอง แล้วกล่าวว่า “ก็ตอบไม่ตรง คุณต้องหาที่เก็บกักน้ำให้ได้ ถ้าฝนมันลงที่ต้นน้ำ คุณก็เก็บไว้ และต้องขุดลอกเพื่อเชื่อมต่อระบบน้ำ ทำได้ไหม ที่ผมถามเนี่ยทำได้ไหม”
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวเสริมว่า จากงบประมาณปี 56-57 มีงบประมาณทำโครงการที่จะทำให้แม่น้ำปิงเก็บน้ำได้มาก และที่แม่กวงที่รัฐบาลนี้ได้อนุมัติไปแล้วด้วย และจากนั้นนายกฯ ก็ได้เดินไปชมบูทอื่นๆ ต่อทันที ก่อนเป็นประธานการประชุม ครม.ต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่เชียงใหม่ว่า การประชุมครั้งนี้มีทั้งวาระเพื่อทราบและเพื่อพิจารณา โดยจุดประสงค์ในการประชุมนอกสถานที่เพื่อเยี่ยมเยือน รับทราบปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการที่ต้องมีการพูดคุยกับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ว่าสิ่งที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายมีเรื่องอะไรบ้าง วันนี้ได้เน้นเรื่องการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เรามาดูตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำ โดยสมัยก่อนน้ำก็มีการไหลลงไปตามปกติ แต่วันนี้พอฝนไม่มาก็ต้องมีการสำรวจในพื้นที่ต้นน้ำพบว่าแห้งแล้งเพราะป่าน้อยลง โดยที่ผ่านมามีการทำฝนเทียมมากว่า 2,000 ครั้ง แต่ได้ปริมาณฝนไม่มากเพราะมีปริมาณเมฆน้อย อากาศยังแห้งแล้งอยู่ ฉะนั้นฝนที่ตกลงมาอาจทำให้แผ่นดินชุ่มฉ่ำ แต่ยังปลูกพืชไม่ได้ โดยวันนี้จะมาเร่งดูที่ต้นน้ำ สิ่งที่ตนคิดให้เร็วๆ ได้คือ จะดูว่าปรับแก้งบประมาณในส่วนไหนได้บ้าง ซึ่งมีการปรับบางส่วนในเรื่องการทำน้ำบาดาลที่จะต้องเพิ่มจาก 500 แห่งเป็น 1,000 แห่ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝากชาวเมืองทุกจังหวัดใช้น้ำอย่างประหยัด ต้องนึกถึงเกษตรกร ถ้าผลผลิตที่เป็นพืชเศรษฐกิจของเราถ้าไม่สามารถปลูกได้จะทำให้ยิ่งแย่ไปกว่าเดิม รายได้จากการท่องเที่ยวก็เอาไม่อยู่
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทั้งนี้ขอเตือนว่าน้ำบาดาลไม่ได้ใช้ในการทำเกษตร แต่จำเป็นต้องทำให้พื้นที่ที่เพาะปลูกไปแล้ว เพราะเราได้เตือนไปแล้ว แต่จะไม่ช่วยก็ไม่ได้ ทำได้แค่ไหนก็ต้องแค่นั้น ไม่ใช่จะให้ทำได้แบบปกติ อีกส่วนหนึ่งคือกลุ่มที่ยังไม่ได้ปลูกครอปแรกนั้นจะทำอย่างไร เพราะเคยปลูก 2 ครอปในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้งตอนบนและตอนล่าง เมื่อทำไม่ได้ก็ต้องไปหาอาชีพอื่น ซึ่งวันนี้เขาก็ทำไปปลูกถั่ว ปลูกงา ทำกิจกรรมอื่นๆ โดยวันนี้ต้องทำวิกฤตให้เป็นโอกาสในการจัดสรรพื้นที่การปลูกให้เหมาะสมกับพืช โดยวันนี้ตนได้สั่งการไปแล้วว่าจะต้องเพิ่มพื้นที่ชลประทานอีกร้อยละ 10 ของพื้นที่เดิม ภายในปี 2559 อย่างไรก็ตาม จากพื้นที่เพาะปลูก 137 ล้านไร่ จะสามารถเพราะปลูกได้เพียงร้อยละ 40 ฉะนั้นต้องดูว่านอกเขตพื้นที่ดังกล่าวจะทำอย่างไร จึงจะนำไปสู่การโซนนิ่งพื้นที่ กำหนดการปลูกพืชให้เหมาะสม เป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย และต้องกำหนดอุปสงค์อุปทาน ในประเทศและการส่งออก และเพิ่มการแปรรูปให้มากขึ้น และจะต้องมีความเชื่อมโยงในทุกระดับ และสร้างทั้งระบบให้มีความเข้มแข็ง
นอกจากนี้ยังต้องพัฒนาในเรื่องระบบขนส่ง ถนน ทางรถไฟต่างๆ ซึ่งต้องเป็นไปตามห้วงเวลาที่เราสามารถดำเนินการได้ ขณะนี้รัฐบาลได้มีการเริ่มดำเนินการไปแล้วอะไรที่ทำได้ก็ทำอะไรที่ทำไม่ได้ก็ส่งให้รัฐบาลต่อไปรัฐบาลหน้าก็รับไปทำ เพราะต้องใช้งบประมาณสูง ต้องมีการศึกษาวิจัย และทำประชาพิจารณ์ ไม่ใช่อยู่ดีๆ สร้างได้เลย แต่ปีนี้ที่สามารถทำได้ก่อนก็มีเพียงการก่อสร้างรถไฟความเร็วปานกลางไทย-จีน ส่วนต่อไปจะมีการเดินหน้าในเส้นทางรถไฟสายเหนือซึ่งมีการพูดคุยกับญี่ปุ่นแล้ว สำหรับรถไฟทางคู่ในประเทศเราจะใช้งบประมาณของเราเอง โดยทั้งหมดนั้นเป็นอนาคตอย่าคิดว่าที่เราวางแผน 3 ล้านล้าน จะมาใช้วันเดียว ซึ่งต้องไปว่ากันในรัฐบาลหน้า อย่ากังวลเรื่องนี้ เราทำอย่างโปร่งใสที่สุด ไม่เหมือนที่ผ่านมาที่ไม่ชัดเจน
ส่วนโครงการสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ 46 โครงการที่มีการเสนอเข้าที่ประชุมวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของแต่ละกระทรวง ซึ่งจะมีการพิจารณาในทุกจังหวัดที่เสนอมาและกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้รวบรวมมาให้ ซึ่งบางโครงการก็รับได้ แต่บางโครงการก็ต้องชะลอไว้ก่อน ตนไม่สามารถให้ได้ทั้งหมดทั้ง 46 โครงการ แต่หากเรามีรายได้ดีก็สามารถจะเอาอะไรก็ได้และวันนี้ตนกำลังทำให้ประเทศมีรายได้ดีขึ้น