ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นายกรัฐมนตรีเผยหลังการประชุม ครม.สัญจรที่เชียงใหม่ สั่งเน้นย้ำกำชับแผนการบริหารจัดการน้ำตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำเพื่อคลี่คลายวิกฤตขาดแคลนน้ำ ระบุ 46 โครงการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ที่นำเสนอขอรับการสนับสนุน เบื้องต้นได้รับไว้และมอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาตามความจำเป็น ตัวแปรสำคัญอยู่ที่งบประมาณ โดยระบบขนส่งมวลชนที่จังหวัดผลักดันมอบให้กระทรวงคมนาคมรับไปแล้ว
วันนี้ (30 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ว่า การประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แต่เป็นครั้งแรกของภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาในพื้นที่ ซึ่งนอกเหนือจากประเด็นการประชุมตามวาระแล้ว ได้มีการพูดคุยเน้นย้ำเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำที่อยู่ในภาคเหนือ หลังจากพบปัญหามีน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนสำคัญลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นพบว่าเกิดสภาพแห้งแล้งตั้งแต่ต้นน้ำ เนื่องจากพื้นที่ป่าถูกบุกรุกทำลาย ซึ่งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ แม้ที่ผ่านมาทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะมีการขึ้นบินทำฝนหลวงแล้วกว่า 2,000 ครั้ง แต่ปรากฏว่าได้ผลทำให้มีฝนตกลงมาเพียงประมาณ 90 ครั้งเท่านั้น เนื่องจากสภาพความชื้นในอากาศมีน้อยมาก จนทำให้ฝนที่ตกลงมามีไม่เพียงพอทำการเพาะปลูก ซึ่งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในเวลานี้ทำโดยการจัดงบประมาณสำหรับขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,000 บ่อ จากแผนเดิม 500 บ่อ เพื่อนำน้ำไปช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ทำการเพาะปลูกไปแล้ว ในส่วนที่ยังไม่ได้เริ่มทำการเพาะปลูกให้มีการปรับเปลี่ยนแผนจัดสรรพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในเวลานี้ เช่น ปลูกพืชใช้น้ำน้อย เป็นต้น
สำหรับโครงการพัฒนาที่จังหวัดเชียงใหม่นำเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุน 46 โครงการนั้น นายกรัฐมนตรีบอกว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้เพื่อจะนำไปพิจารณาโดยมอบหมายให้แต่ละกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาความเหมาะสมจำเป็นและความเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่ามีปัจจัยสำคัญประกอบการตัดสินใจอยู่ที่เรื่องงบประมาณของรัฐบาลที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยโครงการสำคัญที่จังหวัดเชียงใหม่มีการนำเสนอ ได้แก่ โครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองเชียงใหม่ มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งจะมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมมีการนำไปพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป
ส่วนกรณีจับกุมนักศึกษา 14 คนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ทุกอย่างดำเนินการไปตามกฎหมาย และต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ แต่กำลังอยู่ในระหว่างช่วงของการจัดระเบียบบ้านเมืองให้สงบสุข และนำไปสู่ภาวะปกติ พร้อมย้ำว่าการเข้ามาทำหน้าที่ของรัฐบาลในเวลานี้ก็เพื่อคลี่คลายวิกฤตต่างๆ ของบ้านเมืองที่มีมาในอดีต ยืนยันว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอย่างสร้างสรรค์ และไม่มีเจตนาที่จะสืบทอดอำนาจแต่อย่างใด
