กอ.รมน.เผยผลประชุม ศปก.ทบ.สรุปเหตุจังหวัดชายแดนใต้ ถกเพิ่มคุณภาพการศึกษา จัดโครงการแมนยูสอนฟุตบอล มทภ.4 ยันสร้างโรงเรียนที่ถูกเผา เสร็จเดือนนี้ ผช.ทบ.สั่งเตรียมเนิ่นๆ รับฤดูฝน ด้านรองโฆษก ทบ.เผยคงส่งทหารช่วยฝนตก กทม. ร่วมตรวจประตูระบายน้ำ จัดรถรับส่งประชาชนพื้นที่น้ำท่วม รับ “บิ๊กตู่” สั่ง กห.วางแผนดูแลประชาชน ปรับชื่อศูนย์เป็น ศอกภ.คสช. มีภารกิจด่วนช่วยตามสถานการณ์ จัดแผนรับอุทกภัยใหญ่
วันนี้ (17 มิ.ย.) พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เปิดเผยผลการประชุมติดตามสถานการณ์ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) โดยมี พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผช.ผบ.ทบ.เป็นประธาน ในช่วงแรกของการประชุม โดย พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4) ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้บรรยายสรุปผ่านระบบวีดิโอทางไกลผ่านดาวเทียม โดยสรุปการเกิดเหตุในรอบสัปดาห์มีจำนวน 6 เหตุการณ์ แยกเป็นคดีความมั่นคง 1 เหตุ และเรื่องส่วนตัว 5 เหตุ ในกลุ่มงานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ได้ตรวจพบแหล่งพักพิงของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ บ.ไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน พร้อมอาวุธปืนพก 2 กระบอก เอ็ม 16 เอ 1 จำนวน 3 กระบอก
สำหรับกลุ่มงานการศึกษา ศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ได้ร่วมประชุมกับสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อหารือเรื่องการบริหารจัดการศึกษาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และจัดโครงการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับทักษะการเล่นฟุตบอลแก่เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผู้ฝึกสอนจากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีผู้เข้ารับการฝึกจำนวน 400 คน ทั้งนี้ ภายหลังรับฟังการบรรยายสรุป ผช.ผบ.ทบ.ได้สอบถาม มทภ.4 เพื่อยืนยันกำหนดการก่อสร้างโรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิง โดยจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นเดือน มิ.ย. 58 รวมทั้งการรายงานตรวจนับสต็อกยางพาราในพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ได้ฝากให้ ทภ.4 เตรียมการแต่เนิ่นเพื่อร่วมกับส่วนราชการอื่นในการบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชนในห้วงฤดูฝนนี้
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตลอดคืนที่ผ่านมากองทัพบกยังคงส่งทหารเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักใน กทม. โดยการช่วยเหลือส่วนใหญ่ยังคงเป็นการอำนวยการจราจร ซ่อมและลากจูงรถเสีย พร้อมตรวจสอบพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ กองพลทหารราบที่ 9 ได้เข้าตรวจสอบประตูระบายน้ำร่วมกับเจ้าหน้าที่ กทม.ในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ และแจ้งเส้นทางมีฝนตกหนักและน้ำท่วมขังให้กับประชาชนได้ทราบ
ทั้งนี้ การช่วยเหลือยังคงดำรงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การช่วยซ่อมแซมรถที่จอดเสียให้สามารถใช้งานได้ และการตรวจสอบพื้นที่สัญจรในเขตที่มีน้ำท่วมขังซ้ำซาก โดยได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จำเป็นต้องใช้เส้นทางในช่วงกลางคืนและช่วงเช้า
สำหรับการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เมื่อเช้านี้ ได้มีการรายงานสถานการณ์การช่วยเหลือประชาชนจากภาวะฝนตกหนักช่วงกลางคืนต่อเนื่องถึงเช้าใน กทม.ด้วย โดยเสนาธิการทหารบกได้สั่งการเพิ่มเติมให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบดำรงการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องให้ตรงความเดือดร้อนและครอบคลุมทุกพื้นที่ หากมีชุมชนใดที่อยู่ในเส้นทางสายรอง และได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากน้ำท่วมซ้ำซาก ประสบปัญหาในการเดินทาง ให้หน่วยพิจารณาจัดรถรับ-ส่งอำนวยความสะดวกประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวตามความเหมาะสมด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาอุทกภัยเป็นเรื่องสำคัญในระดับชาติ หัวหน้า คสช.มีความห่วงใยและไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อปัญหาดังกล่าว ได้มีบัญชาให้ กระทรวงกลาโหมโดยกองทัพบกรับผิดชอบการวางแผนบริหารจัดการในภาพรวมของการเตรียมดูแลประชาชนในสถานการณ์อุทกภัย โดยขณะนี้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้แปรสภาพเป็น “ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาอุทกภัย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” (ศอกภ.คสช.) แล้ว มีภารกิจเร่งด่วนในขณะนี้ 2 ลักษณะ คือ การช่วยเหลือตามสถานการณ์ และการจัดทำแผนการช่วยเหลือประชาชนหากเกิดอุทกภัยขนาดใหญ่ในภาพรวมของประเทศ ในลักษณะเดียวกันกับการเกิดอุทกภัยในปี 2554 โดยได้บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ กระทรวงมหาดไทย กทม.และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการประสานข้อมูล จึงเป็นผลให้การช่วยเหลือประชาชนครอบคลุมในทุกด้าน การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์