โดย...กฤษณะ ทิวัตถ์สิริกุล
พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีลักษณะเฉพาะ จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการอย่างบูรณาการ โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่ต้องให้ความสำคัญต่อความสอดคล้องต่อวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี ความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม รวมถึงความเป็นอัตลักษณ์ และความต้องการของพื้นถิ่นเป็นสำคัญ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เปิดใจต่อทีมข่าว “ASTVผู้จัดการภาคใต้” ถึงการบูรณาการทิศทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้อย่างน่าสนใจ
“การพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่จะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ ในการขับเคลื่อนให้ประชาชนได้พัฒนาในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านความรู้ ด้านคุณธรรม และการมีอาชีพ ให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข” พล.อ.สุรเชษฐ์ เกริ่นนำก่อนที่จะเสริมว่า
“หลักคิดสำคัญในการกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการเพื่อบูรณาการในการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องใช้หลักความเสมอภาคลดความเหลื่อมล้ำในการจัดการศึกษาที่สอดรับกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน และเชื่อมโยงกับหลักศาสนา รวมถึงวิชาสามัญและวิชาชีพด้วย...
“ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้เร่งดำเนินงานในการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการพัฒนาศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพประจำอำเภอห่างไกล, โครงการจัดการสอนแบบคู่ขนาน (สอนอาชีพคู่เรียนศาสนา), โครงการส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ระบบสองภาษา (ไทย-มลายูถิ่น), โครงการสอบเทียบความรู้อิสลามศึกษา, โครงการส่งเสริมพัฒนาการใช้อักขระมลายูยาวีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอย่าลืมว่าอักขระมลายูมีการใช้ในพื้นที่มาอย่างยาวนาน และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่สวยงามในแถบจังหวัดภาคใต้”
บุคลากรที่เกี่ยวข้องถือเป็นส่วนสำคัญ รมช.ศึกษาธิการ บอกว่า ส่วนนี้จะหลงลืมไปไม่ได้ ครูมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาเยาวชนในพื้นที่ไม่ให้หลงทางไปในทางที่ผิด
“ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรครู เป็นปัญหาที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้มีการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยการส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการจัดการเรียนการสอนโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในโรงเรียนขนาดเล็ก 365 แห่ง และในอนาคตจะขยายไปสู่โรงเรียนขนาดกลาง 782 แห่งด้วย...
“นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เยาวชนได้เล่นกีฬาตามความสนใจ และความถนัดของตนเอง โดยได้เร่งดำเนินการส่งเสริมกีฬาสู่ระบบการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาทักษะ และความรู้ทางกีฬาแก่นักเรียนนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น หรือการประกอบอาชีพในอนาคต...
“ภายใต้โครงการ สานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาในจังหวัดชายแดนใต้ ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมแข่งขันกีฬา ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพ ร่างกาย และจิตใจ เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนเห็นความสำคัญของการกีฬา โดยมีหัวใจสำคัญของการแข่งขันคือ การนำไปสู่การส่งเสริมให้คนที่มีความสามารถทางด้านกีฬา ได้รับโอกาสในการศึกษาต่อที่สูงขึ้นจนถึงระดับปริญญาตรี ตลอดจนสร้างความรักความสามัคคีในหมู่คณะที่จะส่งผลให้เกิดสังคมสันติสุข”
รมช.ศึกษาธิการ ยังกล่าวถึงคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนบูรณาการการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้ว่า
“ได้ผ่านความเห็นชอบให้มีการขยายผลโครงการ สานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาในจังหวัดชายแดนใต้ โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 (สพม.15) ดำเนินการในเรื่องการเรียนการสอน อาคารสถานที่ และจะมีโรงเรียนจากส่วนกลางให้ความช่วยเหลือเรื่องบุคลากร ในการก่อสร้างอาคารก็ได้มีการจัดทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปที่กองทัพบกแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาโรงเรียนในสังกัด สพม.15 ที่คาดว่าจะมีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ
“ในส่วนของการเรียนการสอนเพิ่มเติมด้านกีฬา ก็ให้ทุกโรงเรียนจัดหลักสูตรเพิ่มเติม และปรับหลักสูตรที่มีอยู่ให้เป็นหลักสูตรเฉพาะ เป็นหลักสูตรของสาระเพิ่มเติมในรายวิชาต่างๆ แล้วให้นักเรียนเลือกเรียน โดยจะมีการส่งเสริม สนับสนุนเรื่องวัสดุอุปกรณ์กีฬา รวมถึงสนามกีฬาตามความจำเป็น และความต้องการของโรงเรียน”
ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า
“ที่ประชุมได้เห็นชอบการดำเนินงานจัดสรรทุนการศึกษารายปีต่อเนื่อง สำหรับทายาทผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้มีการกำหนดให้ช่วยเหลือทายาทผู้ที่ได้รับผลกระทบกรณีที่เสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส และทุพพลภาพ ให้ได้รับการช่วยเหลือทุนการศึกษาตามระบบชั้นการศึกษา และกำหนดให้การช่วยเหลือทุนการศึกษาดังกล่าวตั้งแต่เข้ารับการศึกษา ไปจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีภายในประเทศ และมีอายุไม่เกิน 25 ปี”
เหล่านี้คือรูปธรรมด้านการศึกษาในพื้นที่พิเศษชายแดนภาคใต้ ในยุคที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนบูรณาการการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่ามกลางความหวังการศึกษาคือ การพัฒนาคน