เหตุไม่ได้ตรวจน้ำท่วมด้วยตัวเอง! เผย “ชายหมู” ควงผู้บริหาร กทม.บินดูงานป้องกันอุทกภัย และการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่เมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ 6-12 มิ.ย. เผยผู้ว่าฯ กทม.เป็นห่วงโทรศัพท์สอบถามสถานการณ์น้ำท่วมเป็นระยะ ด้านทีมงาน “สุขุมพันธุ์” โพสต์เฟซบุ๊กแจงคืบหน้าระบายน้ำ แห้งแล้วหลายจุด
วันนี้ (8 มิ.ย.) มีรายงานว่า (ทีมงาน) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์เฟซบุ๊กรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในเส้นทางต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังและการจราจรติดขัด ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม.กับผู้บริหารระดับสูง เช่น นายอดิศักดิ์ ขันตี รองปลัด กทม. ในฐานะกำกับดูแลสำนักการระบายน้ำและคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปยังเมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อนร่วมประชุมนานาชาติ Policing Globlo Cities ระหว่างวันที่ 6-12 มิถุนายน ในหัวข้อการป้องกันอุทกภัย และการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งเข้าร่วมประชุม Delft-FEWS ในหัวข้อการจัดการน้ำและการป้องกันอุทกภัย
ล่าสุดทีมงาน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร โพสต์เฟซบุ๊กว่า เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ยังระดมเก็บขยะหน้าสถานีสูบน้ำคลองเตย หลังช่วงฝนตกหนักตอนเช้า ปริมาณขยะยังไหลมาต่อเนื่อง ประกอบกับการเดินเครื่องสูบน้ำเต็มกำลังทำให้มีขยะมารวมที่หน้าสถานีสูบเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ กทม.ได้เร่งแก้ไขอุปสรรคต่อการระบายน้ำอยู่
ทั้งนี้ ทีมงาน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้รายงานผลตั้งแต่ช่วงเช้าระบุว่ากลายพื้นที่น้ำที่ขังอยู่ได้แห้งหมดแล้ว เช่น บนถนนอโศกฯ ถนนดินแดง ส่วนใหญ่แห้งหมดแล้วคงเหลือบางจุดที่น้ำยังลงไม่หมด
ส่วนแถวสุขุมวิท พื้นที่เขตวัฒนามีเหตุต้นไม้ล้มหลายจุด เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครกำลังดำเนินการแก้ไข ตัดต้นไม้ที่ล้มและเก็บเศษไม้ออกจากถนน เพื่อช่วยเร่งระบายการจราจร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ได้เก็บขยะออกจากรูฝาท่อระบายน้ำบริเวณกลางซอยสุทธิพร มีน้ำรอระบายระยะทาง 50 เมตร ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบนโยบายให้นายสัญญา ชีนิมิตร ปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าตรวจปัญหาการระบายน้ำในหลายจุด
ด้านนายสัญญา ชีนิมิตร ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนายกังวาฬ ดีสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ และเจ้าหน้าที่ กทม.ลงพื้นที่ตรวจระบบระบายน้ำ ภายหลังเกิดฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางคืนจนถึงช่วงเช้า ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังหลายจุด
นายสัญญากล่าวว่า เมื่อเวลา 02.00-06.30 น. เกิดฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ที่ 141 มิลลิเมตร ที่บริเวณถนนพระราม 4 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนสายหลัก 19 จุด เช่น พระราม 4 อโศกมนตรี เพชรเกษม ศรีอยุธยา ประชาสงเคราะห์ สุขุมวิท เป็นต้น เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเร่งระบายน้ำจนแห้งในเวลาประมาณ 09.30 น. เหลือเพียงในซอยย่อยที่ยังมีน้ำท่วมขังต้องใช้เวลาระบาย
ทั้งนี้ นอกจากปริมาณฝนที่ตกลงจำนวนมาก จนทำให้ระบายน้ำไม่ทันแล้ว ยังมีอุปสรรคสำคัญคือเรื่องขยะซึ่งกีดขวางทางน้ำไหลในระบบระบายน้ำต่างๆ จำนวนมาก ทั้งในท่อระบายน้ำ คลอง ลำราง สถานีสูบน้ำ และอุโมงค์ระบายน้ำ เจ้าหน้าที่สามารถจัดเก็บที่หน้าสถานีสูบน้ำต่างๆ ได้กว่าวันละ 10 ตัน โดยเฉพาะขยะขนาดใหญ่ เช่น เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ โอ่ง ขอนไม้ ต้นไม้ ที่ไม่สามารถเข้าระบบจัดเก็บอัตโนมัติหน้าสถานีสูบน้ำได้ ถือเป็นปัญหาที่หนักใจมาก กทม.ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่จัดเก็บตามสถานีสูบน้ำต่างๆ 300-400 คน และขยะบางส่วนยังเข้าไปติดในเครื่องสูบน้ำ สร้างความเสียหายจนต้องหยุดเดินเครื่องเพื่อทำการซ่อมแซม และยังเป็นการเสียเวลา ทำให้ประสิทธิภาพในการระบายน้ำลดลง อย่างที่อุโมงค์ยักษ์พระราม 9 ซึ่งมีเครื่องสูบน้ำ 4 ตัว แต่มีน้ำเข้าระบบจนสามารถเดินเครื่องได้ 3 ตัวเท่านั้น เนื่องจากมีขยะติดอยู่หน้าสถานีจนน้ำไม่เข้าระบบ จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันไม่ทิ้งขยะลงในพื้นที่สาธารณะซึ่งกรุงเทพฯ มีคนมากถึง 10 ล้านคน แต่มีคนเก็บขยะไม่กี่ร้อยคนก็ไม่สามารถจัดเก็บขยะได้ทัน นอกจากนี้ยังได้รับรายงานเกิดเหตุต้นไม้และเสาไฟฟ้าล้มอีกด้วย
ทั้งนี้ ในการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตก กทม.ได้เร่งลอกคลองและล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ในภาพรวมมีความคืบหน้าแล้วร้อยละ 60 และได้พร่องน้ำในคลองเพื่อเตรียมรับน้ำฝน พร้อมสั่งการให้หน่วยเบสท์และศูนย์ป้องกันน้ำท่วมเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ขอเรียนให้ทราบเหมือนทุกครั้งว่าหากเกิดฝนตกมากถึง 100 มิลลิเมตร ระบบต้องใช้เวลาในการระบายน้ำให้แห้งประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นช่วงเช้า จึงส่งผลกระทบต่อการจราจร ทั้งนี้ กทม.ก็ได้ศึกษาแนวทางพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะประสานจังหวัดปริมณฑลในการบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากเมืองได้มีการพัฒนาขยายออกไป
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม.ได้มีความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ฝนตกที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถลงพื้นที่ติดตามได้ เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างไปราชการที่เมืองเดลท์ และร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อไปศึกษาและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับระบบระบายน้ำ ซึ่งเมืองเดลท์มีพื้นที่ลุ่มต่ำมาก แต่มีระบบระบายน้ำดีเป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.ก็ได้โทรศัพท์สอบถามสถานการณ์น้ำท่วมขังเป็นระยะ
ด้านนายกังวาฬกล่าวว่า สถานีสูบน้ำคลองเตยทำหน้าที่รับน้ำในพื้นที่ถนนสุขุมวิททั้งหมด รวมถึงถนนอโศกมนตรี เพื่อระบายออกไปยังสถานีสูบน้ำอุโมงค์พระโขนงและลงแม่น้ำเจ้าพระยา แต่พบว่ามีขยะเข้ามาติดตะแกรงหน้าสถานีจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองไม่ทิ้งขยะลงน้ำ ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในช่วงนี้พื้นที่กรุงเทพฯจะมีฝนตก จึงได้เตรียมรับมือด้วยการพร่องน้ำในคลองให้อยู่ในระดับค่ำ เพื่อรอรับน้ำฝน และเตรียมพร้อมหน่วยเคลื่อนที่เร็ว 24 ชั่วโมง เพื่อเข้าแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังโดยเร็วที่สุด