บางกอกแร้นช์ เตรียมระดมทุนเสนอขาย 228 ล้านหุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและ บล.ไทยพาณิชย์-บล.บัวหลวง เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ เพื่อนำเงินขยายงานรองรับความต้องการลูกค้าทั้งใน-นอก พร้อมเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ
นายชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินกลุ่ม บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR Group ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อเป็ดครบวงจรรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่าบ ริษัทฯ มีแผนระดมทุนด้วยการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4,569.6 ล้านบาท และมีแผนที่เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ 228 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียน โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.ไทยพาณิชย์ และ บล.บัวหลวง เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทฯ เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายธุรกิจโรงงานชำแหละ และแปรรูปอาหารจากเนื้อเป็ด และธุรกิจฟาร์มเลี้ยงเป็ดเนื้อของบริษัทฯ ตลอดจนเป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายธุรกิจทั้งในประเทศ และตลาดส่งออกสำคัญๆ อย่างมีนัยสำคัญ โดยตลาดในประเทศ บริษัทฯ มุ่งเน้นการเจาะตลาด Horeca หรือผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรมต่างๆ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ และมีการเติบโตสูง ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมากที่หลากหลาย และตรงตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายตลาดส่งออก โดยเพิ่มยอดขายในตลาดเดิมที่สำคัญ และเจาะสู่ตลาดใหม่ที่สำคัญ อเช่นจีน ญี่ปุ่น และภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนาม และอินโดนีเซีย
ณ สิ้นปี 57 บางกอกแร้นช์ มีทุนจดทะเบียน 4,596.6 ล้านบาท โดยมีกลุ่มผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทฯ นายโจเซฟ สุเชาว์วณิช ถือหุ้นอยู่ 36 % และกลุ่มกองทุนเอกชนถือหุ้นอยู่ 48% โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุญาตการเข้าจดทะเบียนต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเป็ดเนื้อรวมกันกว่า 25 ล้านตัวต่อปี โดยมีฐานการผลิตใหญ่ใน 2 ประเทศ คือ ไทย และเนเธอร์แลนด์ (ผ่านบริษัทย่อยชื่อ บจ.ดั๊ค โท โฮลดิง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเป็ดครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกเนื้อเป็ดมากที่สุด เป็นอันดับ 3 ในกลุ่ม EU)
โดยผลงานปี 57 บริษัทมี ายได้ 8,484 ล้านบาท เพิ่มจากปี 57 ที่ทำได้ 7,573 ล้านบาท และกำไร 661 ล้านบาท จากปี 56 ที่ทำไว้ 128 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 1,705 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 40% จากกำไรขั้นต้น 1,218 ล้านบาท ในปี 2556 และมี EBITDA ในปี 57 เพิ่มขึ้น 55% เป็น 1,384 ล้านบาท จาก EBITDA 891 ล้านบาท ในปี 56
นายชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินกลุ่ม บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR Group ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อเป็ดครบวงจรรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่าบ ริษัทฯ มีแผนระดมทุนด้วยการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4,569.6 ล้านบาท และมีแผนที่เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ 228 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียน โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.ไทยพาณิชย์ และ บล.บัวหลวง เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทฯ เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายธุรกิจโรงงานชำแหละ และแปรรูปอาหารจากเนื้อเป็ด และธุรกิจฟาร์มเลี้ยงเป็ดเนื้อของบริษัทฯ ตลอดจนเป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายธุรกิจทั้งในประเทศ และตลาดส่งออกสำคัญๆ อย่างมีนัยสำคัญ โดยตลาดในประเทศ บริษัทฯ มุ่งเน้นการเจาะตลาด Horeca หรือผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรมต่างๆ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ และมีการเติบโตสูง ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมากที่หลากหลาย และตรงตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายตลาดส่งออก โดยเพิ่มยอดขายในตลาดเดิมที่สำคัญ และเจาะสู่ตลาดใหม่ที่สำคัญ อเช่นจีน ญี่ปุ่น และภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนาม และอินโดนีเซีย
ณ สิ้นปี 57 บางกอกแร้นช์ มีทุนจดทะเบียน 4,596.6 ล้านบาท โดยมีกลุ่มผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทฯ นายโจเซฟ สุเชาว์วณิช ถือหุ้นอยู่ 36 % และกลุ่มกองทุนเอกชนถือหุ้นอยู่ 48% โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุญาตการเข้าจดทะเบียนต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเป็ดเนื้อรวมกันกว่า 25 ล้านตัวต่อปี โดยมีฐานการผลิตใหญ่ใน 2 ประเทศ คือ ไทย และเนเธอร์แลนด์ (ผ่านบริษัทย่อยชื่อ บจ.ดั๊ค โท โฮลดิง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเป็ดครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกเนื้อเป็ดมากที่สุด เป็นอันดับ 3 ในกลุ่ม EU)
โดยผลงานปี 57 บริษัทมี ายได้ 8,484 ล้านบาท เพิ่มจากปี 57 ที่ทำได้ 7,573 ล้านบาท และกำไร 661 ล้านบาท จากปี 56 ที่ทำไว้ 128 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 1,705 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 40% จากกำไรขั้นต้น 1,218 ล้านบาท ในปี 2556 และมี EBITDA ในปี 57 เพิ่มขึ้น 55% เป็น 1,384 ล้านบาท จาก EBITDA 891 ล้านบาท ในปี 56