xs
xsm
sm
md
lg

นับหนึ่งไฟลิ่ง EPG เตรียมขายหุ้นไอพีโอ 700 ล.หุ้น เทรดก่อนสิ้นปี 57

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก.ล.ต.นับหนึ่งแบบไฟลิ่ง “อีสเทิร์น โพลีเมอร์” ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์ และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ 700 ล้านหุ้น ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปลาย ธ.ค.57 ระดมทุนเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืม นำไปขยายธุรกิจ

รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ กรรมการบริหาร บริษัท อีสเทิร์น โพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.ได้พิจารณานับหนึ่งแบบไฟลิ่งของ EPG แล้ว และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) ภายในเดือนธันวาคม 57 นี้ โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.ไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

ทั้งนี้ EPG จะเสนอขายหุ้นไอพีโอ 700 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขาย หุ้นไอพีโอครั้งนี้ EPG จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,800 ล้านบาท โดยกลุ่มวิทูรปกรณ์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นหลักจะมีสัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือ 75% ภายหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอ

“การระดมทุนครั้งนี้เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืม นำไปขยายธุรกิจในกลุ่ม EPG รองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกลุ่ม EPG เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในด้านการคิดค้นและพัฒนาส่วนผสมต่างๆ ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ มีคุณภาพสูง และมีเครื่องหมายการค้าของตนเองที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้า และผู้บริโภคเป็นอย่างดี สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เช่น ฉนวนกันความร้อนและความเย็นในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งสำหรับยานยนต์ และบรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องดื่มและอาหาร ทำให้ EPG มั่นใจว่า ในปีงบการเงิน 58 ระหว่างเดือนเมษายน 57 ถึงเดือนมีนาคม 58 รายได้ของกลุ่มจะเติบโตตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 8-10%” รศ.ดร.เฉลียว กล่าว

ปัจจุบัน ธุรกิจในกลุ่ม EPG ประกอบด้วย 5 ธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ที่มีคุณสมบัติพิเศษไม่ลามไฟ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำโดยแบรนด์แอร์โรเฟล็กซ์ (AEROFLEX) และ “AEROCEL” และ “CELFLEX” โดยในปีงบการเงิน 57 ระหว่างเดือนเมษายน 56 ถึงเดือนมีนาคม 57 มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 34% ของรายได้หลักทั้งหมดของกลุ่ม EPG ที่มีมูลค่าประมาณ 6,592 ล้านบาท ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งยานยนต์ที่มีความแข็งแรง ได้มาตรฐานความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แบรนด์แอร์โรคลาส (Aeroklas) ซึ่งเป็นผู้ผลิตพื้นปูกระบะที่มีกำลังการผลิตรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 33% และธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกคุณภาพสูง โดยเฉพาะเกรดพรีเมียม (Premium Product) ภายใต้แบรนด์ EPP มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 33%

ธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ ดำเนินการโดยบริษัท แอร์โรเฟลกซ์ โพลีเมอร์ เทคโนโลยี จำกัด (เซี่ยงไฮ้) (APT) เพื่อดำเนินธุรกิจหลักคือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ทั้งในประเทศจีน และส่งออก รวมทั้งทำหน้าที่จัดหาวัตถุดิบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่างๆ ให้แก่บริษัทในกลุ่มในประเทศไทย และต่างประเทศ และธุรกิจเพื่อการวิจัยและพัฒนา โดยทั้ง 5 ธุรกิจของกลุ่ม EPG ดังกล่าวข้างต้น มีจุดเริ่มต้น และเติบโตจากการคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรม ทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม EPG มีคุณภาพ และการพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง ทั้งยังมีสิทธิบัตรนับร้อยฉบับ โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม EPG ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมีการส่งออกครอบคลุมกว่า 100 ประเทศทั่วโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น