แม่น้ำสองสายอวย “ประยุทธ์” อยู่ยาวๆ อ้างต้องปฏิรูปให้เสร็จ เจ้าตัวเขินอ้างเป็นเรื่องประชาชน

ที่ประชุมแม่น้ำ 3 สายชื่นมื่น สปช. ชง “ประยุทธ์” อยู่ยาว ปฏิรูปให้เรียบร้อยก่อนไปจัดการเลือกตั้ง อ้างหากปล่อยไปความวุ่นวายกลับมาแน่นอน เจ้าตัวเขินตอบยาก อ้างอยู่ที่ประชาชน โวทั้งโลกชอบมาก ฟังตนหมด แต่ขึ้นอยู่กับคนไทยทั้งประเทศให้อยู่ต่อไหม ชี้จะใช้มาตรา 44 ออกกฎหมาย ไม่ต้องเลือกตั้ง ให้รัฐบาลนี้ทำงานต่อเลยมันก็ไม่ได้ อยู่ที่รัฐธรรมนูญชั่วคราว ทำแม่น้ำสองสายปรบมือลั่นห้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “บิ๊กตู่” ถกแม่น้ำ 3 สาย รับงานคืบอยู่ระยะ 2 ย้ำ ต้องเคารพ กม.- หมดอำนาจกลับบ้าน

วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่รัฐสภา ความคืบหน้าการสัมมนาร่วมกันระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่อรับฟังการดำเนินงานที่ผ่านของรัฐบาลในรอบ 1 ปี โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานการประชุม สมาชิก สปช. โดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ขอฝากคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นเสียงเรียกร้องของประชาชนได้เรียกร้องกันมาต่อเนื่อง ว่า ควรปฏิรูปให้เรียบร้อยก่อนไปจัดการเลือกตั้ง เพราะเป็นห่วงบ้านเมืองว่าหากจะปล่อยให้เดินหน้าไปสู่กลไลของระบบการเมืองที่ล้มเหลวก็จะทำให้ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคมมีปัญหาต่อไปไม่จบสิ้น จึงเรียกร้องให้นายกฯ พิจารณาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เสร็จลุล่วงก่อนจึงจัดการเลือกตั้ง จากเอกสารที่ปรากฏในการแถลงผลงานนั้นเป็นเพียงการวางรากฐานทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมความที่มั่นคงกับประเทศ ก่อนส่งผ่านไปสู่ระยะที่ 3 การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร จัดการการเลือกตั้งทั่วไป แต่ถ้าทำเพียงแค่นี้ ประเทศเราเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติขึ้น เพราะกระบวนการออกกฎหมายต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่จะปฏิรูปบ้านเมือง รวมทั้งกระบวนการบังคับใช้กฎหมายไปสักหนึ่งระยะ ยังไม่ได้ทำเลย แต่ถ้าไปสู่กระบวนการจัดการเลือกตั้งแล้วความวุ่นวายที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 ก็จะกลับมาอีกอย่างแน่นอน

“การที่นายกฯ บอกว่าเข้ามาทำหน้าที่ก่อนวันที่ 22 พ.ค. เพื่อหยุดความเคลื่อนไหวและให้น้ำเกลือแล้ว แต่จากนั้นก็ทิ้งให้คนไข้ไปอยู่กับใครก็ไม่ทราบ เป็นไปไม่ได้ จึงต้องรักษาให้หาย ให้เข้มแข็ง จนกระทั่งสามารถยืนหยัดต่อไปได้ ดังนั้น ข้อเรียกร้องจากประชาชนที่ลงชื่อเข้ามาหลายหมื่นชื่อเพื่อขอให้ ครม. จะให้ออกเสียงประชามติก่อนที่จะร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเพื่อถามว่าควรจะปฏิรูปทุกด้านให้เสร็จเรียบร้อยบริหารประเทศให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจไปก่อนระยะหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 2 ปี ขอให้นายกฯพิจารณาจะกรุณาจัดให้หรือไม่” นายไพบูลย์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมี สมาชิก สปช. ตั้งคำถามในแนวเดียวกัน อาทิ นายนิรันดร์ พันทรกิจ สมาชิก สปช. กล่าวว่า เท่าที่พบปะประชาชนได้พูดว่า จะประกันได้อย่างไรถ้ารัฐบาลชุดนี้ออกไปแล้วและมีการเลือกตั้งใหม่ สถานการณ์แบบเดิมจะไม่กลับคืนมา ที่ผ่านมาเขาพึ่งพอใจมากกับการบริหารราชการของรัฐบาลชุดนี้ นอกจากนี้ กฎหมายที่ยังอยู่ในการพิจารณาอีก 70 ฉบับยังไม่แล้วเสร็จ จะทิ้งให้รัฐบาลชุดใหม่ทำคงยาก เพราะฉะนั้นอยากให้มีท่าทีชัดเจนว่าในท้ายที่สุดจะทำอย่างไร

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า เป็นคำถามที่ตอบยาก แต่ต้องขอบคุณที่กล่าวมา ทั้งหมดเป็นกำลังใจให้กับตนว่าสิ่งที่ทำมาแล้วอย่างน้อยก็เห็นในประโยชน์ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นตรงนั้นตนอยากให้มองในแง่มุมหนึ่งว่าแล้วเราจะไปสู่จุดที่ถามได้อย่างไร เพราะทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว การที่จะเปลี่ยนแปลงก็อยู่ที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวจะเปลี่ยน ตนเป็นคนเสนอทุกอย่างไม่ได้ ตนแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองไม่ได้ จะมองเจตนารมณ์ว่าสืบทอดอำนาจ เพราะฉะนั้นอำนาจในประเทศนี้อยู่ที่ประชาชนคนไทยทั้งสิ้น ในการใช้อำนาจตามระบอบประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง การทำประชามติ และการเสนอแก้ไขปัญหาผ่านช่องทาง เพราะฉะนั้นก็ต้องดู สามอย่างว่าอะไรจะทำได้

“วันนี้ถูกกดดันมาก เวลาผมไปต่างประเทศ ไม่ใช่เขาไม่ชอบผม เขาชอบผมมาก ผมลูกทุ่งแบบนี้ เวลาประชุมเขาก็ฟังผมหมดไม่รู้เพราะอะไร อย่างน้อยผมเสียงดัง ไม่มีคนหลับในห้อง เขาก็ฟัง ว่าไอ้นี่ฉลาดเหมือนกัน แปลกๆ ออกไปดูแลโลก ดูแลมุนษยชาติ ผมก็พูดไปแบบนี้ จะไปรบกันทั้งโลกได้อย่างไร มีใครกล้าพูดกับเขาอย่างนี้ไหม ผมก็พูดกับเขา ทุกอย่างดีหมด จะลงทุนอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เขาก็ถามต่อว่าแล้วเลือกตั้งเมื่อไหร่ ผมก็ได้แต่บอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว จะเลือกตั้งก็อยู่ที่รัฐธรรมนูญ ทำเสร็จก็ต้องทำประชามติ จากนั้นก็ไปสู่การเลือกตั้ง ผมก็บอกว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ได้อยู่ที่คนไทยทั้งประเทศ จะปฏิรูปหรือไม่ ต้องการจะแก้ปัญหาประเทศหรือไม่ หรือต้องการจะเลือกตั้งเพื่อให้มีประชาธิปไตยเต็มใบ ผมไม่รู้ ผมตอบได้แค่นี้ และเขาให้ผมสัญญาว่าเรื่องที่เป็นอยู่นี้ จะเกิดต่อเนื่องไปรัฐบาลหน้าหรือไม่ ถามซิผมจะตอบเขาได้ไหม เพราะผมไม่รู้ตัวว่าใครจะเป็นรัฐบาล ก็จะมี 2-3 กลุ่มที่จะมาเป็น สมมติเลือกวันนี้ ผมถามว่าถ้าฝ่ายหนึ่งได้เป็นรัฐบาล อีกฝ่ายไม่ได้เป็น มันจะเป็นอย่างนี้ไหม ไม่ว่าใครจะมาเป็น ผมฝากสภาปฏิรูปไปทำ ก่อนมานี่ผมปวดท้อง วันนี้ เจอคำถาม ยิ่งปวดกว่าเดิม ผมอยากจะบอกว่าขอบคุณในความเมตตา ให้เกียรติผมและรัฐมนตรีทุกคน ทุกคนทำงานอย่างหนัก ถึงท่านจะว่าใครก็ตามผมก็ต้องปกป้อง เพราะทำงานให้ผม สิ่งที่ผมตอบตรงคำถามไม่ได้ ว่าอยากอยู่ต่อ รับครับ ขอบคุณครับ แล้วอยู่เลย โดยใช้มาตรา 44 ออกกฎหมาย ไม่ต้องเลือกตั้ง ให้รัฐบาลนี้ทำงานต่อ เลยมันก็ไม่ได้ ทำเพื่อตัวเองก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องของประชาชนทั้งประเทศ จะต้องเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศเอง งานก็ใช้ เรื่องคอขาดบาดตายก็ให้ผมทำอีก ไม่เอาแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการอย่างไรพูดไปถ้าทั่วโลกรับได้ ถ้าไม่พูดแทนผมผมพูดไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่าผมอยากอยู่อีก อยู่ทุกวันอายุสั้นลงทุกวัน นอนก็ไม่หลับ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องกฎหมาย วันนี้เราเดินไปเยอะแล้ว กฎหมายเก่า กฎหมายใหม่ กฎหมายที่ไม่เคยทำก็ต้องแก้ กฎหมายภาษีมรดกจาก 50 ล้าน เป็น 100 ล้าน ก็ต้องออกไปก่อน งวดหน้าค่อยแก้กัน จะมากหรือน้อยออกไปก่อน เถียงให้เป็นให้ตายถึงเวลาไม่ได้ออก ตนเป็นห่วงว่าจะไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นต้องออกไปก่อน และยังมีอีกหลายเรื่องทีกำลังเร่ง เช่น พ.ร.บ. เช่าที่นา เกษตรกร

“เพราะฉะนั้นผมถามท่านว่าประชาชนต้องการแล้วในห้องนี้ที่เป็น สนช. สปช. ต้องการหรือเปล่า (สนช. สปช. ตบมือลั่นห้อง) เสียงดังแบบนี้ กริยามารยาทแบบนี้ พูดไม่เพราะ เป็นตัวของตัวเอง เป็นทหาร ยึดอำนาจ ท่านรับผมได้หรือไม่ ท่านรับผมได้ ประชาชนรับผมได้หรือเปล่า สื่อรับได้ไหม ทุกคนรับได้ไหม นั้นแหละคือสิ่งที่เราจะอยู่หรือไม่อยู่ จะรับได้หรือไม่ได้คือจากประชาชนทั้งสิ้น และทุกอย่างอยู่ที่รัฐธรรมนูญชั่วคราว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำ