xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ยันปฏิรูป ตร.เริ่มสมัยนี้ ลั่นไม่ยอมพวกคิดว่าถูกแต่หนีคดี รอดู สปช.ก่อนลุยประชามติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกฯ แถลงประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัด สั่งขอให้ชัดปัญหาอยู่ตรงไหน ยันปฏิรูปตำรวจเริ่มสมัยนี้ ให้จับโจรได้ แต่ไม่ใช่พูดวันเดียวจบ ชี้ถ้าสู้คดีก็มีวันจบ แต่ถ้าไม่แล้วบอกว่าถูกมันไม่ได้ ลั่นไม่ยอม เผยนโยบายเร่งด่วนลดเหลื่อมล้ำ เป็นธรรม เข้าถึงทรัพยากร และกฎหมาย คนจนต้องมีตัวตน จัดระเบียบเริ่มเกเรก็ต้องแก้ แนะสื่อช่วยสร้างจิตสำนึก แนะรอฟังพรุ่งนี้แจงแม่น้ำ 4 สายที่สภา หวังทำ พ.ร.บ. ให้ทันสมัย ชม รมต. กล้าหาญ บอกเอามั้ยจะตั้ง บ.หนังสือพิมพ์แห่งชาติ ระบุประชามติรธน. ขึ้นอยู่กับ สปช. รับร่างหรือไม่ โบ้ยไม่รู้งวดหน้าจะออกเลขอะไร

วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่กระทรวงการคลัง เมื่อเวลา 13.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง หรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2558 ว่า วันนี้เป็นการประชุมบูรณาการหน่วยงานทั้งหมดโดยกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ โดยมีเลขาธิการ ก.พ. ดำเนินการประชุม ประจำทุกเดือน จะมีการประชุมหารือกับส่วนราชการ ทุกกระทรวง ในฐานะข้าราชการตนเองมีหน้าที่ในการขับเคลื่อนข้าราชการ และ ขับเคลื่อนกับ ครม. แต่ทั้งทีมข้าราชการ และ ครม. ก็ต้องไปด้วยยุทธศาสตร์ นโยบายเดียวกัน โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน วันนี้ก็ได้มีการพูดถึงประเด็นปัญหาที่เราต้องสรุปให้ได้ว่า วันนี้ประเทศเราอยู่ตรงไหน มีปัญหาตรงไหนบ้าง ตนจึงได้สั่งการว่า ขอให้เกิดความชัดเจนในทุกกระทรวง โดยคำว่าอดีต คือก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งเราได้แก้ไขไปบ้างแล้วหลังจาก 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าจบไปแล้วในนาม คสช. ด้วยคำสั่งเดียว เช่น ไปจัดระเบียบต่างๆ มา เขียนเพียงคำสั่งเดียว ก็ทำได้ทั้งหมด นั่นคืออดีต เป็นการแก้ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน โดยการพึ่งกฎหมาย อาชญากรรม อาวุธสงคราม นั่นคือจบไปแล้ว ถ้าไม่มีก็อย่าให้มันเกิดขึ้นมาอีก ต่อไปคือเรื่องของปัจจุบัน ซึ่งกำลังทำในวันนี้อยู่ เพราะฉะนั้นในอดีตที่ยังเป็นปัญหาในเรื่องของโครงสร้าง การสร้างการแข่งขัน เพิ่มขีดความสามารถ เรื่องพลังงาน ก็เป็นเรื่องที่ต้องปฏิรูปและเริ่มทำในสมัยนี้

“การปฏิรูปตำรวจก็เริ่มทำในสมัยนี้ ให้ทำงานได้ จับโจรได้ก่อนให้ไปดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมให้ได้ เอาคนผิดมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมโดยไม่ไปรังแกใคร เป็นไปตามหลักฐาน ข้อกล่าวหา และให้ผู้ถูกกล่าวหามาสู้คดี เมื่อมาสู้คดี เขาก็มีวันออก มีวันจบ และพ้นจากข้อกล่าวหา แต่ถ้าไม่สู้คดีแล้วมาบอกว่า ถูก มันไม่ได้ ผมไม่ยอมตรงนี้ ก่อน 22 พฤษภาคม 2557 จะต้องชัดเจนขึ้น เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไปสู้กันมา ต่อไปวันนี้เราจะนั่งทำเพื่อวันนี้ คือ การเริ่มต้นการปฏิรูป หลายกระทรวงมีนโยบายใหม่ๆ และนโยบายเร่งด่วนผมก็มีให้ วันนี้เราบริหารงานตามนโยบายเร่งด่วนที่ผมอยากให้เกิด ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ความเป็นธรรม ให้ทุกคนเข้าถึงทรัพยากร เข้าถึงกระบวนการทางกฎหมาย คนจนต้องมีสิทธิมีเสียง มีตัวตน ให้คนมองเห็นเช่นเดียวกับประเทศไทย เราจะต้องทำให้ทุกประเทศเห็นตัวตนของประเทศเราว่ามีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้ เราจะไปเดินตามเขาทุกอย่างไม่ได้ เพราะเราเองก็เป็นประเทศ เป็นประชาคมหนึ่ง ที่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่ากันเพียงแต่เรามีปัญหาอยู่บ้าง เพราะรายได้จำกัด เพราะรายได้มาจากการเกษตร ก็ต้องดูแลเราตรงนี้ด้วย ส่วนอะไรที่ต้องทำเพื่อความยั่งยืน จำเป็นต้องออกกฎหมายก็ต้องทำ การจัดระเบียบของเก่า ที่เริ่มเกเรขึ้นมาใหม่ ก็ต้องแก้ไข” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อชอบมาพูดว่า แล้วเดี๋ยวก็เกิดขึ้นอีก อย่างการจัดระเบียบรถตู้ ทำไมพวกท่านไม่ไปเตือนรถเหล่านั้นว่าอย่าทำแบบนี้บ้าง สื่อจะมาไล่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียว มันไม่ได้ สื่อต้องช่วยผมแบบนี้ ต้องสร้างการรับรู้และจิตสำนึก ถือเป็นหน้าที่ของสื่อ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงเพียงอย่างเดียว หรือติชมเพียงอย่างเดียว วันนี้ต้องเข้าใจผมบ้างว่าอะไรคือเจตนาดี ไม่ใช่อะไรก็สื่อก็ต้องพูดแต่ข้อเท็จจริง ตำหนิติเตือนได้เพราะรัฐบาลและนายกฯ เป็นคนของสังคม ต้องติติงได้ ด่าได้ ว่าได้ ต้องอดทน และต้องพูดจาเพราะๆ จะมาบังคับผมอย่างเดียวหรือ ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อย่ามาว่าผมมากนัก ผมโดนอยู่แล้ว แต่ผมกำลังทำสิ่งใหม่ๆ ให้ท่าน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า และในวันที่ 4 มิถุนายน นี้ ก็จะไปพูดคุยกับแม่น้ำทั้ง 4 สาย ที่รัฐสภา สปช. สนช. และ กมธ.ยกร่างฯ โดย คสช.จะไปเป็นพี่เลี้ยงเท่านั้น ไปฟังดูสิว่าจะว่าอย่างไรกันบ้าง ว่าใครทำอะไรไปแล้วอย่างไร ทางกระทรวงในฐานะ ครม. จะไปชี้แจงว่า 5 กลุ่มงานหลักได้ทำอะไรไปแล้วบ้างที่เป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคตที่จะส่งต่อให้รัฐบาลหน้า สปช. สนช. สงสัยอะไรก็ถามมา เพราะบางครั้งก็ไม่รู้ เพราะต่างคนต่างทำงาน บางอันรู้ บางอันไม่รู้ บางอันก็เริ่มต้นใหม่ บางอย่างก็ทำไปแล้วรวมทั้งเรื่องการปฏิรูปตำรวจ มีทั้งหมด แต่มันจะต้องคุยกันในตอนท้ายว่า จะต้องเขียนอะไรบ้าง ในสิ่งเหล่านี้ จะเขียนในรัฐธรรมนูญหรือบทเฉพาะกาล หรือในกฎหมายลูกที่จะทำปฏิรูปโครงสร้างต่อ อย่างเรื่องการปฏิรูปตำรวจไม่ใช่เขียนบรรทัดเดียวแล้วจบ มันจะต้องปฏิรูประบบการสอบสวน การจับกุมดำเนินคดี พื้นที่คนละพื้นที่ กฎหมายคนละฉบับ ถ้ากรณีจับกุมความผิดตามกฎหมายกระทรวงจะทำอย่างไร หรือผิดตามกฎหมายอาญาใครจะทำ ไม่ใช่พูดกันสองคำแล้วจบ ขอให้เข้าใจตนบ้าง ทั้งหมดก็จะนำไปเล่าให้ที่ประชุมแม่น้ำ 4 สาย ฟังแล้วเขาก็จะนำสิ่งเหล่านี้ไปคิดต่อว่าเมื่อมีรัฐบาลใหม่ สิ่งที่ สปช. คิดในวันนี้ จะไปเกิดตรงนู้น ถ้ามาเกิดตรงนี้ก็เท่ากับว่าเขาซ้อนกับตนซึ่งเป็นรัฐบาลอยู่และเป็น คสช. ด้วย ตนทำอยู่แล้ว และตั้ง สปช. ขึ้นมาเพื่อให้ทำในวันหน้า นำสิ่งที่ตนสั่งไปเขียนเป็นกฎหมาย เป็น พ.ร.บ. ไปทำให้เป็นกฎหมายที่ทันสมัย อะไรที่ไม่ทันสมัย แล้วต้องทำต้องใช้งานก็ต้องปฏิรูปก่อน ตนก็ใช้มาตรา 44 ทำแต่ พ.ร.บ. พ.ร.ก. ต้องไปออกที่สนช. เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในวันข้างหน้า และที่ตนต้องพูดเยอะและพูดมากก็เพื่อให้นำไปสู่การปฏิบัติ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น้ำหนักการพูดคุยในวันนี้ คือ การดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่วางไว้ คือ รัฐบาลมีหน้าที่ขจัดความเหลื่อมล้ำในชนชั้นของสังคมให้ได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องเท่าเทียมกันหมด เป็นไปไม่ได้เพราะเกิดมาก็ไม่เท่ากันแล้ว นิ้วมือนิ้วเท้าก็ไม่เท่ากัน แต่กฎหมายจะทำให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกันได้ ตามขีดความสามารถที่ทุกคนมีอยู่ ด้วยความพอเพียง แต่ปัญหาคือสังคมเจริญเร็วเกินไป คนของเราไม่เข้มแข็งพอ และยังไม่มีความต่อเนื่องจึงได้สั่งการให้ทุกกระทรวงช่วยกัน โดยให้รัฐมนตรีเป็นผู้กำกับ ตนต้องการให้ปลัดกระทรวงไปส่งต่อซึ่งไม่ใช่ว่าตนต้องการที่จะไปไล่ล่าฆ่าฟันข้าราชการ เพียงแต่ต้องการกระตุ้นโดยมาเล่าให้ฟังว่าต้องการให้ทำอะไร และไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาเขาไม่ทำ เพียงแต่ต้องการให้เขาทราบถึงแนวทางว่าตนตื่นมาคิดอะไรบ้าง ต้องการแก้ปัญหาให้คนทั้งประเทศอย่างไร ส่วนสั่งไปแล้วจะเกิดงานแค่ไหนไม่รู้ จะเกิดในยุคที่ตนอยู่ก็เพียงเท่าที่ตนอยู่ในโรดแมปที่วางไว้ วันข้างหน้าจะล้มอีกหรือเปล่า ก็ไม่รู้ รวมถึงใครจะมาทำต่อ ตนก็ไม่รู้ เพราะรัฐมนตรีที่ทำงานอยู่ทุกวันนี้คงไม่ได้กลับมาเป็นอีก จึงไม่ค่อยมีใครกล้ามาเสี่ยงกับตน รัฐมนตรีทุกคนวันนี้ถือว่ากล้าหาญ

"“ส่วนใหญ่เรียกกันว่าพวกผมเป็นข้าราชการการเมือง แต่ผมไม่ใช่นักการเมือง นักการเมืองต้องพูดเก่งกว่านี้ วันนี้ที่บอกว่าผมเก่งก็เพราะผมเก่งแบบมีเรื่องราว ผมไม่ได้เก่งแบบเลอะเทอะเปรอะเปื้อน น้ำท่วมทุ่งไม่มี ฟังผมให้ครบแล้วกัน วันนี้ถือว่าผมพูดมีสาระใช่หรือไม่ พอพูดแบบนี้สื่อก็ไปเขียนอีกว่า หัวหน้าคสช.ชอบแต่คำยกยอปอปั้น ทีเวลาด่าไม่พูดกัน ด่ากันทุกวัน พอวันนี้ก็จะมาพูดอีกว่านายกฯ ชอบปอปั้น อย่ามาไม่จริงใจกับผม ผมรู้ว่าใครจริงใจหรือไม่จริงใจกับผม นักข่าวจริงใจกับผมทุกคน เว้นแต่บรรณาธิการกับเจ้าของหนังสือพิมพ์ เอาไหมผมจะตั้งบริษัทหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ให้พวกสื่อมาอยู่กับผม ดูซิว่าประเทศจะเดินหน้าไหม โดยคุณสมบัติข้อหนึ่ง คือ 1. มีความรู้ความสามารถ มีขีดความสามารถก่อน 2. สวยไหม เพราะสื่อจะต้องไปพบคน ไม่สวยเขาก็ไม่ฟัง แม้แต่โฆษก พิธีกร ตนยังเคยถามว่าคัดตัวกันอย่างไร ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า 1. เป็นคนเก่ง โดยชี้แจงด้วยว่า คนเก่งฝึกได้ แต่คนสวยหาฝึกไม่ได้ แต่ผมจะเลือกคนที่ไม่สวย และไม่ต้องมาทำศัลยกรรมภายหลัง เพราะไม่ชอบให้มาหลอกลวง แต่เรื่องพูดเพราะๆ ผมก็พูดเพราะเป็นนะครับ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประชุม ครม. วันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีมติให้ทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธว่า “ไม่ใช่ ผมบอกว่า ถ้าเขาจะต้องทำประชามติ ก็ให้เขาทำได้ โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ผมไม่ได้มีมติอะไรให้กับเขาก็เป็นความต้องการของประชาชนที่ต้องการทำประชามติ ก็ทำไปสิ หน้าที่ของผม คือ ครม. เห็นชอบหรือไม่ ถ้าเขาจะทำประชามติ ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็ต้องไปหาช่องทางและวิธีการก่อน เพื่อนำไปสู่ สนช. แก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่มีมติว่าให้เขาทำหรือไม่ทำ อยากทำก็ทำ ผมก็จะแก้รัฐธรรมนูญให้ ถ้าตัดสินใจมา ผมก็แก้รัฐธรรมนูญให้อยู่แล้ว วันนี้ผมอยู่ได้ด้วยรัฐธรรมนูญไม่ได้อยู่ด้วยอำนาจ”

เมื่อถามว่า ต้องรอให้ สปช. พิจารณารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก่อนหรือไม่ จึงจะตัดสินใจทำประชามติ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า ใช่ ขั้นตอนเป็นเช่นนั้น คือ 1. สปช. รับหรือไม่รับร่างฯ ถ้าไม่รับร่างก็ต้องแก้ไข โดยตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ขึ้นมาใหม่ แต่ก็ต้องมาดูว่าถ้าจะให้กมธ.ยกร่างฯ ชุดปัจจุบันยังอยู่ ต้องแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ แล้วใครจะมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ หรือใช้กฎหมายเดิมได้หรือไม่ ตนก็ได้ให้เขาไปคิดกันมา ตนมีหน้าที่เพียงแก้รัฐธรรมนูญให้เท่านั้น ฉะนั้น สนช. สปช. หรือ กมธ. ยกร่างฯ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีงานทำ เดี๋ยวก็หาทำกันจนได้ เพราะทุกคนต่างก็มีความหวังดี แต่ก็มีข้างหนึ่งไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาอีก อีกข้างหนึ่งอยากกลับมาที่เดิม มีอำนาจมากมายที่จะทำอะไรทั้งดีและไม่ดีได้

“ผมถามว่าประชาชนต้องการอะไร ต้องการความขัดแย้งอีกหรือไม่ ต้องการให้มีความเหลื่อมล้ำ มีรายได้แตกต่าง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพสูงขึ้นทุกวัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงถึงทะเบียนรถเบนซ์ส่วนตัว ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร ให้โชคกับบรรดาคอหวยว่า “ผมไม่รู้ รถทะเบียนอะไร” เมื่อถามต่อว่าแล้วงวดหน้าจะออกทะเบียนรถคันไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมไม่รู้ เพราะผมไม่ได้เป็นคนให้ออก เลขก็อะไรก็ไปคิดกันเอาเอง”



กำลังโหลดความคิดเห็น