นายกฯ เมินตอบปรับ ครม.เศรษฐกิจหลังมีกระแสข่าว ไล่ไปตั้งกันเอง ย้ำ ทำงานตามมติ ครม.-นโยบาย ชี้ต้องร่วมกันแก้ปัญหา ไม่งั้นต่อให้มีร้อยประยุทธ์ก็แก้คนเดียวไม่ได้ แจงปัญหาโรฮีนจาต้องแก้ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ชี้มะกันจะเข้าร่วมต้องอยู่ภายในศูนย์ที่ตั้งขึ้น ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้ รับพลังงานถ่านหินถูกสุด ยันทำเพื่อลูกหลานที่ยังไม่ได้เกิด ลั่นห้ามบ่นค่าไฟขึ้น
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ โดยจะปรับให้นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจว่า ใครบอก คุณไปตั้งเอาเองแล้วกัน ตนบอกแล้วว่าการทำงานมีหลายอย่าง คือ นายกรัฐมนตรีว่าใช้ได้หรือไม่ มีการริเริ่ม มีวิสัยทัศน์หรือไม่ มีความรอบรู้หรือไม่ ตนก็พยายามปรับปรุงตนเองอยู่ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับการสั่งการใน ครม. ทุกอย่างเป็นมติ ครม. ทุกคนก็ฟังกันอยู่ ทุกกระทรวงไม่ได้เดินงานเอง แต่ต้องเดินตามมติ ครม.และทำตามแนวทางนโยบายที่ตนให้ไป ไม่ใช่จะไปทำอะไรก็ได้ แต่ต้องขออนุมัติจาก ครม. ให้พิจารณาทั้งคณะ ตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ และตนเป็นคนกำหนดนโยบาย โดยมีรัฐมนตรีเป็นผู้ขับเคลื่อน และการขับเคลื่อนก็ต้องหาข้อสรุปปัจจัยภายในและภายนอก ข้อดีและข้อเสียเข้ามาคุยใน ครม.ซึ่งไม่ผ่านก็มีจำนวนมาก ที่ผ่านมาแล้วก็มีการเห็นชอบร่วมกัน แต่การเสนอออกมาก็ไม่มีอะไรที่เห็นตรงกันหมด ต้องมีทั้งคนได้และเสียประโยชน์ แต่เราต้องเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ยังทำงานได้ดี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทำไม ท่านเป็นอย่างไรหรือ แก้เศรษฐกิจไม่ได้หรือยังไง ก็ตอนนี้ยังเดินหน้าอยู่ บางอย่างก็ไม่สามารถแก้ได้ด้วยความรวดเร็วไม่ใช่หรือ ตนถามนักเศรษฐศาสตร์ทุกคน แม้กระทั่งนายประสารก็บอกว่าหลักการทุกอย่างถูกต้องหมดแล้ว แต่มันเป็นปัญหาในเชิงจุลภาค ในเมื่อข้างบนไม่เข้มแข็งก็ต้องแก้ข้างบน ทั้งเอสเอ็มอี ธุรกิจการส่งออก ที่เดิมอาจจะมีโครงสร้างไม่ชัดเจนแยกกันทำ และถ้ารัฐบาลไม่เอาใจใส่ไม่บูรณาการก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ จึงต้องทำโครงสร้างให้เข้มแข็งใช้เวลาปีเดียวไม่พอ
“วันนี้ทุกอย่างดีขึ้น อาจมีเสียงโวยวายอยู่บ้างคือพวกที่ไม่แข็งแรง ไม่มีความพร้อม แต่อยากได้ บางส่วนที่ได้รับแล้วก็มีความพอใจ อย่าไปคิดว่าใครคนหนึ่งจะแก้ปัญหาได้ ต่อให้มีผมมีสักร้อยประยุทธ์ก็แก้ไม่ได้ ถ้าไม่มีคนช่วยก็แก้ปัญหา มีสักร้อยปรีดิยาธร ต่อให้ร้อยประวิตรก็แก้ไม่ได้ มันต้องทำเป็นทีม และพวกเราก็จะสร้างความเข้าใจ อะไรที่ดีก็ต้องเอาประชาชนทุกภาคส่วน ประชาสังคมมาร่วมธุรกิจ บ้านเมืองจะไปด้วยรัฐบาล ด้วยนักการเมือง อย่างเดียวไม่ได้ ทุกวันนี้ผมไปไหนไม่ได้เพราะติดประชุม ตั้งคณะกรรมการมาหลายคณะ เพราะตอนนี้อยู่ในขั้นการเริ่มต้นการจัดโครงสร้างปรับรูปแบบเกษตรกรในอนาคต” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาขอตั้งฐานทัพที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อลาดตระเวนช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮีนจาที่ลอยลำในมหาสมุทรอินเดียว่า ตนเคยพูดตั้งแต่วันก่อนแล้ว ตอนนี้รัฐบาลดำเนินการหลายอย่าง ในเมื่อเราเป็นประเทศกลางทาง และจะต้องคุยกันต่อว่าะมีประเทศไหนที่จะรับคนเหล่านี้เป็นการถาวร ซึ่งต้นทางก็ต้องหารือว่าจะดำเนินการอย่างไร จะใช้งบประมาณที่ไหน ส่วนประเทศกลางทางก็ต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาพอเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งตอนนี้มีการตั้งขึ้นแล้ว มีทั้งตำรวจ และทหารร่วมอยู่ด้วย และมีการดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวมทั้งทำหน้าที่ในการประสานประเทศต้นทางไปคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใช่ไปทะเลาะกัน เพราะอาเซียนกำลังเหนียวแน่นกันอยู่
“ผู้นำทุกประเทศบอกว่าทำอะไรก็ให้ทำตอนนี้ ทำตอนที่ประยุทธ์ยังอยู่ ส่วนทางทะเลเราก็ไปลาดตระเวนให้เขา เอาทหารเรือ เรือลำใหญ่ เรือเล็กลาดตระเวน จัดศูนย์ควบคุมทั้งทางบก น้ำ อากาศ ใครจะมาก็มา ถ้าสหรัฐมาก็มาช่วยเราตรงนี้ มาเข้ากับศูนย์ตรงนี้ ไม่ใช่ให้เขามาใช้อะไรก็ได้ในพื้นที่เรา มันถูกไหม เข้าใจหรือยัง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ส่วนการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาโรฮิงญาในวันพรุ่งนี้ (29 พ.ค.) นั้น ตนเองไม่เป็นประธานในการประชุม แต่ตนเองเป็นคนกำหนดให้กระทรวงต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการ ตนดูแลในเรื่องมหภาค ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม การประชุมเป็นเรื่องของระดับรัฐมนตรี นำประเทศที่เกี่ยวข้อง ทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง มาพูดคุยหาแนวทางในการปฏิบัติ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อถึงกรณีการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากถ่านหินว่า รู้หรือไม่ที่ต้องใช้ถ่ายหินเพราะเป็นต้นทุนที่ถูกที่สุด และเป็นพลังงานที่ต่อเนื่องมีใช้อีกเป็นล้านปี แต่เราต้องหาเทคโนโลยีมาให้ได้ ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งตนเองดูการผลิตพลังงานไฟฟ้าถ่านหินที่ประเทศลาวที่เพิ่งเปิด และไทยต้องรับซื้อพลังงานไฟฟ้าจากลาว เป็นข้อเสียที่หากไม่ส่งไฟฟ้าก็ไม่รู้จะเอาที่ไหนมาใช้ ส่วนพลังงานลมบ้านเราไม่มีมากเพียงพอที่จะผลิตกระแสไฟฟ้า ขณะที่พลังงานแสงอาทิตย์ ก็ไม่มีแดดทั้งปี รวมถึงแบตเตอรี่ก็ไม่เพียงพอ ไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้เพราะมีต้นทุนสูง คนจนไม่สามารถทำได้ และหากจะนำเข้าระบบก็จะต้องทำสายส่งเพิ่มขึ้นก็ไม่สามารถทำได้
“วันนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ วันหน้าไม่มีไฟฟ้าใช้ก็อย่าบ่น และถ้าค่าไฟขึ้นราคาก็อย่าบ่น ผมขอประกาศไว้วันนี้เลย ถ้าทำอะไรไม่ได้ก็อย่าบ่น ถ้าน้ำมันขึ้นไปอีกทีแค่นี้ก็ตายแล้ว ค่าไฟฟ้าก็ต้องขึ้นอีก โดนทุกเรื่อง จึงต้องมีมาตรการลดความเสี่ยง ถ้าวันนี้ทะเลาะกัน วันหน้าจะมีใครส่งมาให้เราไหม วันนี้ถ้าเขาปิดท่อก็เดือดร้อนกันหมด และปีหน้าก็จะยิ่งกว่าเดิมเพราะเขาจะลดการส่งแก๊ส เข้ามาเพราะเขาก็จะไปพัฒนาประเทศของเขาจากที่ส่ง 50 ก็เหลือ 20” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว