“บิ๊กตู่” จ่อลงพื้นที่ ตรวจการบ้านบริหารน้ำ “ระยอง - ฉะเชิงเทรา” วันจันทร์นี้ หลัง ขู่ในที่ประชุม ครม. สั่ง รมต. ลงพื้นที่ จี้ถามงานข้าราชการ หากใครตอบไม่ได้สั่งย้ายออกทันที ด้าน “รมว.เกษตรฯ” รับลูก ใครไม่ทำงาน รัฐบาลก็ไม่มีทางเลือก คงต้องปลด
วันนี้ (26 พ.ค.) จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความเป็นห่วงต่อการทำงานของข้าราชการระดับล่าง ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรีสั่งแสดงความเป็นห่วงการทำหน้าที่ของข้าราชการ โดยให้เวลารองนายกรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรี ลงตรวจพื้นที่ราชการแล้วให้ทำการไล่บี้ถามถึงรายละเอียด และข้อมูลงานกับข้าราชการระดับปฏิบัติ หากตอบไม่ได้ แปลว่า “ไม่มีความรู้ในเรื่องงานนั้นๆ หรือไม่ได้ทำงานจริง ให้ทำการปรับย้ายตามสมควร”
ที่อาคารรับรองเกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปดูว่ามีข้าราชการที่ไม่ดำเนินการหรือไม่ เมื่อระดับบนขยับแล้ว แต่ระดับล่างไม่หมุนตาม เพื่อทำให้งานต่างๆ ช้า ซึ่งรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงต้องไปดู ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย ทางรัฐมนตรีต้องรับไปดูว่าข้าราชการระดับล่างทำงานตามที่นายกฯต้องการหรือไม่
ส่วนจะมีการคาดโทษงดบำเหน็จหรือบำนาญ หรือไม่ เห็นว่า คงยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่งดบำเหน็จสามารถทำได้ แต่งดบำนาญคงทำไม่ได้เพราะเกษียณไปแล้ว แต่กรณีของบำเหน็จนั้น ถ้าข้าราชการคนนั้นไม่ทำงานก็ต้องถูกงด ทั้งนี้ รัฐมนตรีประจำแต่ละกระทรวงจะเป็นผู้พิจารณา ถ้าข้าราชการคนไหนไม่ทำงาน ก็ต้องถูกโยกย้ายเพื่อปรับเปลี่ยนให้คนทำงานมาทำหน้าที่แทน
ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเรียกข้าราชการระดับสูงเข้าประชุมนัดพิเศษ ว่า ไม่พอใจที่ข้าราชการกระทรวง ในระดับภูมิภาคไม่เข้าหาชาวบ้าน หลายคนไม่วางแผน การปฏิบัติงาน และไม่รู้กระทั่งนโยบายของกระทรวงจึงทำงานไม่ได้
“ผมขอเตือนผู้บริหารทุกคนว่า ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์พิเศษ คนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ช่วยติดตามการทำงาน ถ้าท่านไม่ทำงาน รัฐบาลก็ไม่มีทางเลือก คงต้องปลด ท่านต้องแสดงความสามารถให้ได้งานตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะ 2 - 3 เรื่องที่สั่งการไว้ สำคัญที่สุดคือการประเมินภาคชนบท ที่รับปากผมไว้ต้องทำให้เสร็จ ไม่อย่างนั้นจะทำงานช้ากว่าคนอื่นทุกครั้ง แล้วก็ถูกนำไปรายงานรัฐบาลว่ากระทรวงเกษตรฯไม่ทำงาน จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง โยกย้ายผู้บริหารกระทรวงแน่นอน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้โยกย้ายตามรายชื่อที่ปรากฏตามสื่อก่อนหน้านี้”
ดังนั้น งานของกระทรวงที่ทุกหน่วยงานต้องไปรวบรวมทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ประกอบด้วยงาน 3 ช่วง คือ 1. เตรียมแผนงานมาให้ชัดเจน ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี 2. แผนงานในปีเพาะปลูก 58/59 และ 3. เตรียมการปฏิรูปพื้นฐานการเกษตร ที่จะส่งต่อรัฐบาลใหม่ ประกอบด้วย แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรและต้นทุนผลิต เพิ่มรายได้ วางแผนผลิต
“ผมสงสัยว่าช่วง 10 ปีที่ผมไม่อยู่ที่นี่ พันธมิตรของกระทรวงหายไปไหนหมด ต้องระวังให้ดี มิฉะนั้นบารมีของกระทรวงจะลดลงเรื่อยๆ”
มีรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 1 มิถุนายนนึ้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ เช่น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จะเดินทาง ไปที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และ จังหวัดระยอง เพื่อพบปะประชาชนและตรวจโครงการบริหารจัดการน้ำ พร้อมรับทราบปัญหาของเกษตรกร ซึ่งนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเดินทางไปพบปะประชาชนในจังหวัดต่างๆ
“จะมีการติดตามความคืบหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำ เช่น โครงการที่กรมชลประทานได้จัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) การดำเนินการสูบผันน้ำท่อส่งน้ำเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำประแสร์ - อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ โครงการผันน้ำทางท่อจากคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตมาลงอ่างบางพระ ชลบุรี เพื่อเพิ่มความมั่นคงน้ำในภาคตะวันออกตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ใช้งบก่อสร้างประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังทดสอบไม่ได้ เพราะมีน้ำเหลือน้อย”