นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) เปิดเผยว่า ในปี 58 คาดว่า บริษัทจะมีการเติบโตของรายได้อยู่ที่ประมาณ 6% จากปี 57 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,304.76 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะมุ่งเน้นการขยายฐานรายได้ของลูกค้าน้ำดิบในภูมิภาคตะวันออก และเร่งขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการต่อยอดความชำนาญในธุรกิจน้ำสู่การขยายการลงทุนในธุรกิจน้ำอุตสาหกรรม และน้ำประปาควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการมุ่งพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีระบบบริหารจัดการน้ำให้สามารถเชื่อมโยงระบบการจัดการต่างๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้บริษัทก้าวเป็นผู้นำด้านบริหารจัดการน้ำระดับภูมิภาคในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานปี 57 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,304.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.82% โดยมีกำไรสุทธิ 1,334.21 ล้านบาท คิดเป็น 0.80 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ มีรายได้หลักมาจากการจำหน่ายน้ำดิบ ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 2,768.38 ล้านบาท คิดเป็น 64.31% ของรายได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ ธุรกิจน้ำดิบในช่วงครึ่งปีแรก ปริมาณน้ำดิบจำหน่ายของบริษัทลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 56 ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวมจากปัจจัยลบทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำดิบจำหน่ายรวมอยู่ที่ 282.06 ล้าน ลบ.ม.โดยส่วนหนึ่งส่งไปผลิตและจำหน่ายเป็นน้ำประปาสำหรับกิจการประปาของกลุ่มบริษัท ด้านธุรกิจน้ำประปา ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทในเครือมีการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ดี โดยมียอดขายอยู่ที่ 988.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.82% จากการขยายท่อจ่ายน้ำประปา และการเติบโตของประชากรที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในปี 57 บริษัทมีต้นทุนในการดำเนินงานในส่วนของธุรกิจน้ำดิบสูงขึ้นเนื่องจากปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้บริษัทต้องเร่งดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันภัยแล้งจนมั่นใจว่ามีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับการดำเนินงานในปี 58 อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการดำเนินงานบริษัทยังคงมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.64% จากปี 56
จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มมีทิศทางดีขึ้นตั้งแต่ปลายปี 57 และความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับมาของภาคเอกชน ประกอบกับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ตลอดจนความชัดเจนของโครงการลงทุนภาครัฐ ทำให้คาดว่าในปี 58 จะเห็นการทยอยลงทุนของธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการลงทุนในพื้นที่ภาคะตะวันออกและภาคกลาง ซึ่งบริษัทมั่นใจในศักยภาพของโครงข่ายท่อส่งน้ำของบริษัทสามารถรองรับความต้องการการใช้น้ำในอนาคตได้อย่างเพียงพอ
สำหรับผลการดำเนินงานปี 57 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,304.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.82% โดยมีกำไรสุทธิ 1,334.21 ล้านบาท คิดเป็น 0.80 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ มีรายได้หลักมาจากการจำหน่ายน้ำดิบ ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 2,768.38 ล้านบาท คิดเป็น 64.31% ของรายได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ ธุรกิจน้ำดิบในช่วงครึ่งปีแรก ปริมาณน้ำดิบจำหน่ายของบริษัทลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 56 ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวมจากปัจจัยลบทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำดิบจำหน่ายรวมอยู่ที่ 282.06 ล้าน ลบ.ม.โดยส่วนหนึ่งส่งไปผลิตและจำหน่ายเป็นน้ำประปาสำหรับกิจการประปาของกลุ่มบริษัท ด้านธุรกิจน้ำประปา ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทในเครือมีการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ดี โดยมียอดขายอยู่ที่ 988.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.82% จากการขยายท่อจ่ายน้ำประปา และการเติบโตของประชากรที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในปี 57 บริษัทมีต้นทุนในการดำเนินงานในส่วนของธุรกิจน้ำดิบสูงขึ้นเนื่องจากปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้บริษัทต้องเร่งดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันภัยแล้งจนมั่นใจว่ามีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับการดำเนินงานในปี 58 อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการดำเนินงานบริษัทยังคงมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.64% จากปี 56
จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มมีทิศทางดีขึ้นตั้งแต่ปลายปี 57 และความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับมาของภาคเอกชน ประกอบกับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ตลอดจนความชัดเจนของโครงการลงทุนภาครัฐ ทำให้คาดว่าในปี 58 จะเห็นการทยอยลงทุนของธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการลงทุนในพื้นที่ภาคะตะวันออกและภาคกลาง ซึ่งบริษัทมั่นใจในศักยภาพของโครงข่ายท่อส่งน้ำของบริษัทสามารถรองรับความต้องการการใช้น้ำในอนาคตได้อย่างเพียงพอ
