วานนี้ (26พ.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. เกี่ยวกับการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้ง นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักงานนโยบายแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คนใหม่ แทนที่นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ที่ถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากมติ ครม.เมื่อสัปดาห์ก่อน
ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมติแต่งตั้งนายอนันต์ ลิลา รองปลัดกระทรวง เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง และนายสมชาย ชาญณรงค์กุล ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง นอกจากนี้ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอแต่งตั้ง นายธีรวัฒน์ ภูมิจิตร กงสุลใหญ่ ณ นครเสิ่นหยาง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้แต่งตั้ง นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามมติคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภู มิภาค ในการประชุมครั้งที่ 7/2558 เมื่อวันที่ 22 เม.ย.58 โดยนายเสริมสกุล ต้องลาออกจากการเป็นพนักงาน กฟภ.ก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย พร้อมทั้งแต่งตั้ง พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค ดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) จำนวน 5 คน แทนผู้ดำรงตำแหน่งเดิมที่ครบวาระ ได้แก่ 1. ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี 2. นายไพโรจน์ พรหมสาส์น 3. นายอนุชา โมกขะเวส 4. นายเสรี ศุภราทิตย์ และ 5. นายสมพร จองคำ
พล.ต.สรรเสริญ เปิดเผยว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุที่ผ่านมา มองเรื่องการปฏิบัติงานที่สั่งการนโยบายไปเยอะ แต่ผลที่ออกมายังน้อย จึงสั่งขันน็อตรองนายกรัฐมนตรี ที่ไปตรวจงาน ให้ไล่เบี้ยเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย ถ้าถามแล้วไม่รู้เรื่อง ตอบไม่ได้ อึกอัก ถือว่าไม่มีความรู้ ไม่ได้ทำการบ้าน ไม่ได้ทำงานในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ อาจจะมีผลต่อการปรับย้าย และมีผลต่อการพิจารณาบำเหน็จ
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงการพิจารณาแต่งตั้งพล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ว่า ต้องการให้เข้ามาช่วยงานด้านการต่างประเทศ ซึ่งพล.ต.วีรชน สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ และสามารถแปลคำพูดของตนเองได้ทันที แต่ถ้าเป็นคนอื่น ไม่สามารถแปลได้ทัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเกี่ยวกับการทำงานของข้าราชการระดับล่างว่า นายกฯ มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปดูว่ามีข้าราชการที่ไม่ดำเนินการตามคำสั่งหรือไม่ เมื่อระดับบนขยับแล้ว แต่ระดับล่างไม่หมุนตาม เพื่อทำให้งานต่างๆ ช้า ซึ่งรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงต้องไปดู ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย ทางรัฐมนตรีต้องรับไปดูว่า ข้าราชการระดับล่างทำงานตามที่นายกฯ ต้องการหรือไม่
เมื่อถามว่าจะมีการคาดโทษงดบำเหน็จหรือบำนาญหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงยังไม่ถึงขนาดนั้น งดบำเหน็จสามารถทำได้ แต่งดบำนาญคงทำไม่ได้ เพราะเกษียณไปแล้ว แต่บำเหน็จถ้าไม่ทำงาน ก็ต้องงด ต้องดูโดยรัฐมนตรีประจำกระทรวงรับผิดชอบ คนไหนไม่ทำงาน ก็ต้องย้ายเพื่อปรับเปลี่ยนหน้าที่ให้คนทำงานมาทำแทน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา
ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมติแต่งตั้งนายอนันต์ ลิลา รองปลัดกระทรวง เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง และนายสมชาย ชาญณรงค์กุล ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง นอกจากนี้ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอแต่งตั้ง นายธีรวัฒน์ ภูมิจิตร กงสุลใหญ่ ณ นครเสิ่นหยาง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้แต่งตั้ง นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามมติคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภู มิภาค ในการประชุมครั้งที่ 7/2558 เมื่อวันที่ 22 เม.ย.58 โดยนายเสริมสกุล ต้องลาออกจากการเป็นพนักงาน กฟภ.ก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย พร้อมทั้งแต่งตั้ง พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค ดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) จำนวน 5 คน แทนผู้ดำรงตำแหน่งเดิมที่ครบวาระ ได้แก่ 1. ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี 2. นายไพโรจน์ พรหมสาส์น 3. นายอนุชา โมกขะเวส 4. นายเสรี ศุภราทิตย์ และ 5. นายสมพร จองคำ
พล.ต.สรรเสริญ เปิดเผยว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุที่ผ่านมา มองเรื่องการปฏิบัติงานที่สั่งการนโยบายไปเยอะ แต่ผลที่ออกมายังน้อย จึงสั่งขันน็อตรองนายกรัฐมนตรี ที่ไปตรวจงาน ให้ไล่เบี้ยเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย ถ้าถามแล้วไม่รู้เรื่อง ตอบไม่ได้ อึกอัก ถือว่าไม่มีความรู้ ไม่ได้ทำการบ้าน ไม่ได้ทำงานในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ อาจจะมีผลต่อการปรับย้าย และมีผลต่อการพิจารณาบำเหน็จ
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงการพิจารณาแต่งตั้งพล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ว่า ต้องการให้เข้ามาช่วยงานด้านการต่างประเทศ ซึ่งพล.ต.วีรชน สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ และสามารถแปลคำพูดของตนเองได้ทันที แต่ถ้าเป็นคนอื่น ไม่สามารถแปลได้ทัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเกี่ยวกับการทำงานของข้าราชการระดับล่างว่า นายกฯ มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปดูว่ามีข้าราชการที่ไม่ดำเนินการตามคำสั่งหรือไม่ เมื่อระดับบนขยับแล้ว แต่ระดับล่างไม่หมุนตาม เพื่อทำให้งานต่างๆ ช้า ซึ่งรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงต้องไปดู ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย ทางรัฐมนตรีต้องรับไปดูว่า ข้าราชการระดับล่างทำงานตามที่นายกฯ ต้องการหรือไม่
เมื่อถามว่าจะมีการคาดโทษงดบำเหน็จหรือบำนาญหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงยังไม่ถึงขนาดนั้น งดบำเหน็จสามารถทำได้ แต่งดบำนาญคงทำไม่ได้ เพราะเกษียณไปแล้ว แต่บำเหน็จถ้าไม่ทำงาน ก็ต้องงด ต้องดูโดยรัฐมนตรีประจำกระทรวงรับผิดชอบ คนไหนไม่ทำงาน ก็ต้องย้ายเพื่อปรับเปลี่ยนหน้าที่ให้คนทำงานมาทำแทน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา
