“สปช.วันชัย” ชี้นัย “นช.แม้ว” เคลื่อนไหว 1 ปีรัฐประหาร ให้มวลชนรู้ยังมีตัวตน เล่นงานกระบวนการยุติธรรม ลดความน่าเชื่อถือรัฐประหาร เชื่อกำลังสะสมกำลังรอโอกาส แนะ คสช.คุมปัญหาเศรษฐกิจให้อยู่ รับประชามติสุ่มเสี่ยงเกินไป
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศ ว่า นัยยะสำคัญของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ คือ 1. ครบรอบ 1 ปี ของคณะรัฐประหาร จึงอยากแสดงความเห็นวิจารณ์การทำงานของคณะรัฐประหารผ่านสายตาของตน ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าไม่เป็นที่พอใจสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ 2. พ.ต.ท.ทักษิณเคลื่อนไหวให้มวลชนเห็นว่าตนยังอยู่ ไม่ได้เงียบหายไป และยังสามารถขับเคลื่อนมวลชนโดยเป็นผู้นำของมวลชนเพื่อให้มวลชนไม่รู้สึกหว้าเหว่เพราะยังมีแกนนำอยู่
นายวันชัยกล่าวว่า 3. โจมตีกระบวรการยุติธรรมของไทย โดยเฉพาะกล่าวหาว่าตนและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะทั้งตนและน.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกโจมตีด้วยกระบวนการเดียวกัน และ 4. การโจมตีองคมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. เพื่อลดความน่าเชื่อถือของคณะรัฐประหาร โดยวิจารณ์ว่าการเข้ามาของคณะรัฐประหารเป็นไปตามคำสั่ง ไม่ใช่การเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจในประเทศนี้ เมื่อผู้มีอำนาจดังกล่าวไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ก็สามารถกดปุ่มสั่งได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบัน เช่นเดียวกับการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการทำลายมี 2 เรื่อง คือ ทหาร และสถาบันฯ ถ้าทำลายได้เมื่อไหร่แสดงว่าเขายึดอำนาจเบ็ดเสร็จของประเทศได้เมื่อนั้น ฉะนั้นการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณจึงมีเป้าหมายในการทำลายสถาบัน และองคมนตรี
“ลักษณะนี้คือการสะสมกำลังรอคอยโอกาส ตราบใดก็ตามถ้า คสช.อ่อนแรงและไม่สามารถคุมอำนาจได้ทั้งหมด ขณะที่มวลชนเริ่มไม่พอใจ คสช. เขาก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมา ฉะนั้นเหมือนกับประกาศให้รู้ว่าตนยังอยู่ พร้อมจะเคลื่อนไหว แต่เขายังเห็นว่าตอนนี้ คสช.ยังคุมอำนาจได้อยู่ แต่ถ้าเริ่มจางลงเมื่อไหร่ เชื่อเหลือเกินว่าพร้อมที่จะเคลื่อนมวลชน รวมถึงกลุ่มการเมืองของเขาออกมาแน่นอน” นายวันชัยกล่าว
นายวันชัยกล่าวอีกว่า นับแต่นี้ คสช.จะต้องขยันทำงานยิ่งขึ้น แม้จะสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยได้ระดับหนึ่งแต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะเรื่องปากท้องของประชาชนได้ ถ้า คสช.สามารถคุมสองเรื่องนี้อยู่เมื่อไหร่ ตนเชื่อเหลือเกินว่า คสช.อยู่อีกปีหรือสองปีจะไม่มีใครคัดค้าน แต่ถ้าเศรษฐกิจยังไม่ดีจะเป็นเหตุของการปลุกประชาชนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะ คสช.ยิ่งอยู่นานอำนาจยิ่งเสื่อมอยู่แล้ว ฉะนั้นระยะเวลาที่อยู่ในอำนาจจะต้องเร่งขยับมากกว่านี้
นายวันชัยกล่าวว่า ส่วนกรณีการประชามติรัฐธรรมนูญนั้นสุ่มเสี่ยงเกินไป เพราะเปิดโอกาสให้เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากการประชามติต้องเปิดกว้างกับทุกกลุ่ม เหมือนกับกวนน้ำที่นิ่งอยู่ให้ขุ่น ดังนั้นตนเห็นว่ายังไม่ควรประชามติในระยะนี้ เพราะควรสร้างความสงบเรียบร้อยให้ดีก่อน ไม่ใช่เฉพาะส่วนบน แต่รวมถึงส่วนล่างด้วย นอกจากนั้นหากจัดการประชามติในช่วงนี้จะเป็นการประชามติโดยฝ่ายเดียว ขณะที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับ คสช. โดยเฉพาะกลุ่มอำนาจเก่าก็จะถือโอกาสนั้นเคลื่อนไหวทางการเมือง ปลุกมวลชนคว่ำรัฐธรรมนูญได้