“เสี่ยวิชัย” บิ๊กบอส IFEC โร่แจงเปล่าเป็นนอมินีคนแดนไกล เผยแค่รู้จักปกติในวงสังคม เคลียร์ใจกลุ่มนักลงทุนผู้ไม่หวังดีพลาดหวังซื้อหุ้น PP ไม่ได้จึงทุบหุ้น ส่วนข่าวที่เกี่ยงโยงธรรมกายไม่ขอพูดถึง เพราะเป็นเรื่องของพระให้คณะสงฆ์จัดการกันเอง ด้านสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เป็นการลงทุนส่วนตัวของพนักงานบริษัทฯ ไม่เกี่ยวกับตน
นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ หรือ IFEC กล่าวถึงปัญหาของราคาหุ้นบริษัทฯ ที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ว่า จากกรณีที่ข่าวว่ามีการทุบหุ้นนั้นทำให้ผู้บริหารต้องหลบหนีปัญหาออกนอกประเทศ อีกทั้งยังข่าวลือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ตลอดจนถึงสถานะการเงินที่ไม่เปิดเผยซึ่งเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย นอกจากนี้ สิ่งที่สร้างความเคลือบแคลงต่อนักลงทุนอย่างมากคือการเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งทางนายวิชัย ยืนยันว่าข่าวลือดังกล่าวนั้นบริษัทฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น โดยได้ให้ข้อโต้แย้งว่า ข่าวที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ จึงพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อปรับลดความน่าเชื่อถือของตน และหวังทำลายชื่อเสียงบริษัท
ขณะที่ในส่วนของข่าวลือว่าเป็นนอมินี “ทักษิณ” และเกี่ยวพันลึกซึ้งกับวัดพระธรรมกายนั้น นายวิชัย กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปเป็นนอมินีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากบริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี ไม่มีความเดือดร้อนทางการเงินที่จะต้องเข้าไปเป็นนอมินีใคร รู้จักปกติในสังคม ขณะที่ในส่วนของส่วนวัดพระธรรมกาย ตนไม่มีความเกี่ยวข้อง และไม่ขอออกความเห็น เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทางพระ ควรให้ทางคณะสงฆ์เป็นผู้จัดการ และไม่ทราบว่าข่าวลือนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ขณะที่ในส่วนที่เกี่ยวโยงกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น นั้น ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด แต่เท่าที่ทราบคือ มีพนักงานของบริษัทฯ ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องการลงทุนของสิทธิส่วนบุคคล
อย่างไรก็ดี ในส่วนของกรณีกลุ่มบุคคลที่เข้ามาสร้างราคาหุ้นของบริษัทฯ นั้น ตนได้พยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานจนทราบว่า มีนักลงทุนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ไม่ประสงค์ดีต่อบริษัทฯ พยายามใช้ข้อมูลภายใน (Insider) สร้างราคาหุ้นที่ทำให้กระทบต่อบริษัทจริง ซึ่งส่วนตัวมองว่า อาจมาจากการที่บริษัทปฏิเสธจะขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง หรือ PP ทำให้นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวที่มีเป้าหมายจะเข้าซื้อ และไม่ได้ซื้อตามที่หวังไว้ เกิดความไม่พอใจ ส่วนข่าวลือที่ว่าตนได้หนีปัญหาออกนอกประเทศนั้น แท้จริงคือ ได้บินไปศึกษาดูงานที่ฮ่องกง กับทีมผู้บริหาร ไม่ได้เข้าบ่อนไปเล่นการพนันตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
“อยากให้นักลงทุนพิจารณาข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะข่าวลือที่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นต่อบริษัทฯ ที่มาจากผู้ไม่ประสงค์ดี ส่วนตัวมั่นใจว่า ในปีนี้จะพยายามสร้างผลประกอบการรายได้ และกำไรของบริษัทฯ ให้ออกมาดี โดยเฉพาะในส่วนงานที่ค้างอยู่ทำให้เกิดความล่าช้า และในอนาคตบริษัทฯ เตรียมที่จะทุ่มงบลงทุนในการเข้าซื้อกิจการต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด”