คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เผยโฆษกแจงอาจจะมีการยืดหยุ่นปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว. และการตั้งคณะกรรมการอิสระเสริมสร้างความปรองดองแห่งชาติ เป็นความเห็นส่วนตัว แต่ในช่วง 60 วัน ทุกอย่างเปลี่ยนได้หมด ชี้มีมากมายหลายเรื่อง แต่ไม่แตะหมวดปฏิรูป ยันไม่เปลี่ยนหลักการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์
วันนี้ (17 พ.ค.) พล.ท.นาวิน ดำริกาญจน์ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ระบุว่า กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญอาจจะมีการยืดหยุ่นปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ อาทิ เรื่องคณะกรรมการกลั่นกรองผู้สมัคร ส.ว. จังหวัด หรือ ตัด แก้ไขเนื้อหาในภาค 4 การปฏิรูปและการสร้างความปรองดอง มาตรา 298 เรื่องการมีคณะกรรมการอิสระเสริมสร้างความปรองดองแห่งชาติ ว่า เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของ พล.อ.เลิศรัตน์ ไม่ใช่ของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกมาตรา ทุกคำพูด สามารถแก้ไขได้หมด จะปรับ ตัด ลด แต่จะทำอะไรต้องดูให้ดี เพราะทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันหมด และที่ พล.อ.เลิศรัตน์ พูดมานั้นก็มีโอกาสเป็นไปได้หมด เพราะเป็นประเด็นที่มีปัญหาเป็นเรื่องที่คนพูดกันเยอะ แต่อย่ายึดติดว่าเป็นมติกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะยังไม่มีประชุม ดังนั้น ในช่วง 60 วันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนได้หมด เพราะยังไม่จบ
“ทำขนมอย่าบ่นก่อนว่าทำไมใส่แป้งก่อน ใส่ไข่ก่อน ช่างมันเถอะ รอชิมดีกว่า ทุกอย่างจะชัดเจน รอให้ครบ 60 วัน หลังจากนี้ เนื่องจากทุกเรื่องต้องถกเถียงกัน มันเชื่อมโยงกันหมด หากมีการเอาส่วนไหนออกไปก็ต้องเติมส่วนอื่นเข้ามา” พล.ท.นาวิน กล่าว
พล.ท.นาวิน กล่าวว่า ประเด็นที่ต้องแก้ในรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวคิดว่ามีมากมายหลายเรื่อง แต่ในหมวดปฏิรูปเราคงไม่ยุ่ง เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างลงตัวแล้ว ส่วนในเรื่องของการเมืองอย่างไรต้องปรับแน่นอน เพราะมีการบ่นกันเยอะ อาทิ เรื่องที่มา ส.ส. ส.ว. รูปแบบการลงคะแนน โดยประเด็นเหล่านี้เราอาจจะปรับนิดหน่อยแล้วมันก็ดีได้ ซึ่งส่วนใหญ่ประเด็นที่มีปัญหาเราก็คิดแล้วจะมีการแก้อย่างไร ซึ่งทุกคนก็มีแนวทางของตนเอง โดยอะไรที่มีปัญหาอย่านิ่งเฉย คิดไม่เหมือนกันมาดูจะได้แก้ได้ถูกต้อง
ส่วนกระแสเรียกร้องให้มีการปรับแก้ไข เรื่องสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พล.ท.นาวิน กล่าวว่า ต้องถามก่อนอยากมีการปฏิรูปหรือไม่ หากอยากมี แล้วไม่มีสภาขับเคลื่อน ไม่มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์จะเดินหน้าอย่างไร จะให้นักการเมืองมาทำหรือ สรุปคือ ต้องมีคนมาเดินหน้าแต่อาจจะมาดูว่าควรมีสององค์กร หรือหนึ่งองค์กรเพื่อเป็นตัวตายตัวแทน โดยหากจำนวนคนหรือที่มาไม่เหมาะเราก็อาจจะมาดูเหตุผลที่เขาวิจารณ์ แต่อย่างไรคิดว่ากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญคงไม่เปลี่ยนหลักการ เราคงไม่ยอมขนาดนั้น